ชนชาติไทย ‘ไม่ใช่’ คนไทย โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ

คนพื้นเมืองดั้งเดิมชาติพันธุ์ต่างๆ แถบลุ่มน้ำโขง (ภาพจากหนังสือ A Pictorial Journey on the old Mekong, Cambodia, Laos and Yunnan by Louis Delaporte and Francis Garnier)

ประวัติศาสตร์ไทยกระแสหลักที่ใช้งานในรัฐบาลปัจจุบัน (มาจากเลือกตั้ง 2566) เป็นสำนวนเดียวกับประวัติศาสตร์ไทยของเผด็จการ (มาจากรัฐประหาร 2557) ซึ่งถูกกำหนดโครงสร้างโดยชนชั้นนำเมื่อศตวรรษก่อน

ขณะนี้ถูกใช้ควบคุมและกล่อมเกลาความคิดสังคมโดยกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านการเรียนการสอนทั้งในระบบ-นอกระบบ และตามอัธยาศัยไปตลอดชีวิต

ประวัติศาสตร์กระแสหลักเชื่อว่ามีจริงเรื่อง “ชนชาติไทยเชื้อชาติไทยสายเลือดบริสุทธิ์” ดังนั้นประวัติศาสตร์กระแสหลักเป็นประวัติศาสตร์ของ “ชนชาติไทยเชื้อชาติไทยสายเลือดบริสุทธิ์” ซึ่งขัดกับหลักฐานวิชาการในโลกสากล

ชนชาติไทยเชื้อชาติไทยไม่มีจริง เพราะในโลกวิชาการสากลพิสูจน์จนเป็นที่ยอมรับทั่วไปในโลกว่าเชื้อชาติ (Race) ไม่มีจริงทางวิทยาศาสตร์ (มีหลักฐานเป็นหนังสือวิชาการทางวิทยาศาสตร์อ้างอิงมากมาย) ดังนั้นที่เรียกชนชาติไทยซึ่งมาจากเชื้อชาติไทยจึงไม่มีจริง

Advertisement

คนไทย มีจริง เป็นชื่อทางวัฒนธรรม (ไม่ใช่ชื่อเชื้อชาติ) ซึ่งสมมุติขึ้นเรียกตนเองของคนกลุ่มหนึ่งที่มีภาษาและวัฒนธรรมไทย มีครั้งแรกบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ไม่พบในลุ่มน้ำอื่นๆ) ในเมืองอโยธยา และสืบทอดถึงเมืองอยุธยา พบหลักฐานในจดหมายุเหตุลาลูแบร์

คนไทย หมายถึงคน “ไม่ไทย” หลายชาติพันธุ์ ร้อยพ่อพันแม่ บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มีภาษาและวัฒนธรรมไทย ซึ่งหมายถึงภาษาและวัฒนธรรมไท-ไตที่ผสมกลมกลืนกับภาษาและวัฒนธรรม ร้อยพ่อพันแม่ ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ มอญ, เขมร, ลาว, มลายู, จีน, อินเดีย, อิหร่าน (เปอร์เซีย), และอื่นๆ ไม่จำกัด

ดังนั้น คนไทยของกระทรวงวัฒนธรรม ต่างกับคนไทยในคำอธิบายนี้ จะคัดข้อความของกระทรวงวัฒนธรรมมาเป็นพยาน (จัดย่อหน้าใหม่ให้อ่านสะดวก) ดังนี้

Advertisement

“คนไทยก็คือคนที่ใช้ภาษาไทยในการติดต่อสื่อสารกันในชีวิตประจำวัน

จากการศึกษาของนักวิชาการพบข้อมูลที่น่าสนใจว่านอกจากคนไทยในประเทศไทยแล้ว ยังพบกลุ่มคนไท หรือไต ตั้งถิ่นฐานกระจายตัวอยู่เป็นวงกว้างในเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในแคว้นอัสสัม ประเทศอินดีย สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน มณฑลกุ้ยโจว และมณฑลกวางสี ประเทศจีน และในประเทศเวียดนาม

ซึ่งรู้จักในชื่อต่างกันแต่ละท้องถิ่น เช่น ไทลื้อ ไทใหญ่ ไทน้อย ไทเขิน ไทอาหม ผู้ไท ไทดำ ไทขาว ไทลาว ไทยวน เป็นต้น

คนไททุกประเทศรวมกันมีจำนวนกว่า 100 ล้านคน”

(จากหนังสือ ประวัติศาสตร์ชาติไทย กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรก พ.ศ. 2558 หน้า 36)

ไท, ไต เป็นคำเดียวกัน (ต่างกันที่บางกลุ่มออกเสียงตรง ท เป็น ท แต่บางกลุ่มออกเสียง ท เป็น ต) จึงมีความหมายเดียวกันว่า ชาว, คน เช่น ไทบ้าน หมายถึงชาวบ้าน, ไตลื้อ หมายถึงชาวลื้อ เป็นต้น เหล่านั้นไม่หมายถึงไทย หรือคนไทยอย่างเดียวกับในประเทศไทย

แต่นักค้นคว้าและนักวิชาการไทยมักตีขลุมเหมารวมไท, ไต เหล่านั้นเป็นไทย (เหมือนคนไทยในประเทศไทย) ทำให้ประวัติศาสตร์กระแสหลักคลาดเคลื่อนมาก

มีตัวอย่างเมื่อคนจากไทยไปกวางสี (ในจีน) พบชาวจ้วงพูดภาษาไท-ไต มีคำกู-มึง จึงทึกทักว่าพูดเหมือนคนไทย แต่จ้วงท้วงว่า “มึงพูดเหมือนจ้วง” (หมายถึงเขาไม่ใช่คนไทย แต่มึงต่างหากพูดเหมือนจ้วง)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image