ดิจิทัล1หมื่น-ล้มไม่ได้

ดิจิทัล1หมื่น-ล้มไม่ได้

ว่าไปแล้ว รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังที่เป็นเจ้าของนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่สามารถเดินหน้าไปตามแผนที่ประกาศไว้

“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พรรคเพื่อไทยบอกว่า การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตต้องเลื่อนจากวันที่ 19 ตุลาคมไปเป็นวันที่ 24 ตุลาคม เนื่องจากอนุกรรมการลงความเห็นว่า ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่ยังไม่ได้ข้อสรุปและยังไม่มีความพร้อมจะนำเสนอ

นอกจากนี้ โครงการจะเริ่มไม่ทันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า แต่จะอยู่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567

Advertisement

เท่ากับว่า เลื่อนไปอีก 1 เดือนคือมีนาคม ถัดไป เมษายน เข้าสู่เดือนแห่งการเดินทาง ท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์

การเลื่อนวันเริ่มใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาทออกไปก็ดี

การหาข้อสรุปไม่ได้ว่า จะเอาเงินมาจากไหนจำนวน 560,000 ล้านบาทก็ดี

Advertisement

รวมถึงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขต่างๆ ที่จะปรับใหม่ ไม่ตรงกับที่เคยประกาศเมื่อตอนหาเสียงก็ดี

ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวั่นไหว ไม่มั่นใจ!?

ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้

อ้างว่าจะเป็นการทำลายวินัยทางการเงินการคลัง พร้อมกับคาดคั้นว่า จะเอาเงินมาจากไหน?

แต่คนพวกนี้ ซึ่งรวมทั้งพวกขาประจำที่ไม่พอใจพรรคเพื่อไทยไม่ได้บอกว่า จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ได้อย่างไร?

จะช่วยคนจน-คนด้อยโอกาส ให้เงยหน้าอ้าปาก มีเงินมาจับจ่ายรายวันขึ้นมาบ้างได้อย่างไร?

ขาประจำที่ กินข้าวฟรี ได้สิทธิเดินทางโดยเครื่องบินฟรี และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย คอยแต่จะทักท้วง คัดค้าน ขัดขวางอย่างเดียว

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่ควรล้มเลิก และล้มเลิกไม่ได้

ถ้าล้มเลิกเมื่อไร รัฐบาลก็พังเมื่อนั้น!?

พรรคเพื่อไทยหาเสียงเมื่อตอนเลือกตั้ง “คิดใหญ่ ทำเป็น” ตามสโลแกนหาเสียงจะช่วยให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น

เมื่อพรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็นำเรื่องนี้มาทำเป็นนโยบาย แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

คนในพรรคเพื่อไทย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “แพทองธาร ชินวัตร” ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ก็ยืนยันเป็นมั่นเหมาะไม่เลิกแน่นอน แต่ให้อดใจอีกหน่อย

ย้อนกลับไปดูสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำรัฐบาล เกือบ 9 ปี ก่อหนี้สาธารณะไว้มากมายมหาศาล

หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการกู้ โดยออกพระราชกำหนดเงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาทเพื่อใช้ในช่วงโควิดระบาด

รวมถึงการกู้มาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ตลอดจนกู้เพื่อชดเชยงบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร ฯลฯ

ทำไมพวกขาประจำไม่นำมาพูดวิพากษ์วิจารณ์ หรือว่า ตนเองได้ประโยชน์จากการได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เป็นพวกเดียวกัน จึงอ้าปากไม่ขึ้น!?!

เทวินทร์ นาคปานเสือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image