คุณภาพคือความอยู่รอด : ความรับผิดชอบของทุกคน : โดย วิฑูรย์ สิมะโชคดี

ผมคิดไม่ออกจริงๆ ว่ารถตู้โดยสารชนกับรถกระบะเมื่อตอนปีใหม่ ถึงขนาดทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 25 ศพ (จากรถตู้ 14 ศพ เป็นชาย 4 ศพ หญิง 10 ศพ และจากรถกระบะ 11 ศพ เป็นชาย 5 ศพ หญิง 6 ศพ) โดยมีผู้รอดชีวิตเพียง 2 คน จากรถคันละ 1 คน จึงได้แต่สงสัยว่าทำไมรถแต่ละคันบรรทุกผู้คนได้มากมายปานนั้น

ยิ่งดูสถิติอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายด้วยแล้ว ยิ่งน่าตกใจเพราะยอดสรุป 7 วันอันตรายช่วงปีใหม่ มียอดอุบัติเหตุรวม 3,919 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 478 ราย บาดเจ็บ 4,128 คน สาเหตุหลักคือ เมาและขับรถเร็ว

หลังเกิดเหตุแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะออกมารายงานและแถลงถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ และแนวทางดำเนินการต่อไปในอนาคต เช่นเดียวกับทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุซ้ำซากเช่นนี้เรื่อยมา เพราะ (ต่างอ้างว่า) มีปัจจัยมากมายที่แก้ไขและควบคุมได้ยาก

เรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุด จึงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายจากทุกคนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรถ คนขับรถ ผู้โดยสาร สภาพรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชการ และหน่วยงานต่างๆ

Advertisement

ว่าไปแล้ว หลักการสำคัญของความปลอดภัย และการป้องกันอุบัติเหตุก็คือ เรื่องของ “ความรับผิดชอบ” เพราะ “ความปลอดภัยเป็นหน้าที่รับผิดชอบของทุกคน” (Safety is everyone’s responsibility) คือทุกคนจะต้องมีสำนึกรับผิดชอบในการทำงานหรือการใดๆ ของตนเองอย่างปลอดภัย เช่น ผมควรจะต้องขับรถอย่างดี มีวินัย มีสติ ด้วยจิตสำนึกแห่งความปลอดภัย แต่ถ้าคนอื่นขับรถอย่างไม่รับผิดชอบ ขับอย่างไม่มีวินัย ไม่มีสติ หรือเมาแล้วขับ ผมก็ต้องเสี่ยงอันตรายอยู่ดี เพราะอาจถูกชนได้ทุกรูปแบบ เป็นต้น ดังนั้น คนขับรถทุกคนจึงต้องขับรถอย่างปลอดภัย และถูกกฎจราจรด้วย ทุกคนบนถนนจึงจะปลอดภัย

เรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีกล่าวได้อย่างตรงประเด็นว่า “ผมจะใช้มาตรการอย่างเข้มงวดในช่วง 3 เดือนนี้ ก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ อย่าโวยวายนะ ถ้าทุกคนต้องการความปลอดภัย ต้องร่วมมือกับผม วันนี้ไปดูสิรถตู้บรรทุกคนเท่าไหร่ บอกนั่งได้ 7 คน บรรทุกไป 13-14 ที่มีเขียนบอกว่าต้องมีสายรัดนิรภัย มีกันไหม เเล้วคาดกันไหม ไม่คาดกันเพราะนั่งเกินไง ส่วนรถปิกอัพเอาไว้ทำอะไร บรรทุกของ เเต่ไปนั่งบนท้ายปิกอัพกัน 10 กว่าคน เเล้วผมจะเเก้ได้อย่างไร ต้องใช้มาตรการในการป้องกัน ถ้าไม่อยากตายมาก เพราะวันนี้ทำเต็มที่เเล้ว ด่านเเละเจ้าหน้าที่ก็เยอะกว่าปีที่เเล้ว” นอกจากนี้ ท่านยังย้ำว่า “จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ระยะสั้นภายใน 3 เดือนนี้ จะดำเนินคดีทุกทาง ไม่ว่าจะเกี่ยวกับรถที่ไม่ได้มาตรฐาน พลขับ เเละรถตู้ที่นั่งเกิน เบียดเสียดยัดเยียด จากนั้นก็เป็นรถที่ให้บริการทั้งหมด จะต้องมีสมุดประจำรถ ลงชื่อการขับทุกเส้นทาง คนขับชื่ออะไร เวลาไหน ด่านตรวจทุกด่านต้องตรวจทั้งหมด ถ้าคนขับเกินเวลาก็ยึดรถ” (คัดลอกจากหน้าข่าวหนังสือพิมพ์)

จึงเห็นได้ว่า หากมีใครคนหนึ่งไม่นำพาต่อความปลอดภัย เราทุกคนก็อาจจะตกอยู่ใน “วังวนแห่งความซ้ำซาก” ของความเสี่ยงภัยและความสูญเสีย ครับผม !

Advertisement

วิฑูรย์ สิมะโชคดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image