ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพระสงฆ์ และฆราวาสส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยและไม่พอใจที่รัฐบาล “ลาก” ขั้นตอนการทูลเกล้าฯชื่อแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่
ปะทุออกมาเป็นม็อบพระที่ปะทะย่อยๆ กับหน่วยทหารที่พุทธมณฑลเมื่อต้นสัปดาห์
ถึงการเผชิญหน้าจะยุติด้วยการเจรจา ระหว่างพระเมธีธรรมาจารย์ แกนนำม็อบพระ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
แต่สงครามยังไม่จบ
และมีแนวโน้มหลายประการว่าถ้าไม่ประคับประคองปัญหาอย่างระมัดระวัง อาจเกิดเหตุการณ์ “น้ำผึ้งหยดเดียว” ขึ้นมาได้ โดยไม่ยาก
ลองพิจารณาปัจจัยที่ติดตามต่อเนื่องกันมาดู
ประการหนึ่ง พระเมธีธรรมาจารย์ส่อเค้าว่าอาจจะถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. เมื่อเป็นแกนนำจัดการชุมนุมทางการเมือง
ประการหนึ่ง คู่กรณีอย่างพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ก็เข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับพระที่เข้าร่วมการชุมนุมข้อหาละเมิด พ.ร.บ.การชุมนุม
รวมทั้งมีการกล่าวหาทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง
และระบุด้วยว่าความจริงแล้วอยากแจ้งความไปถึงการขัดขวางทำร้ายทหาร แต่คงปล่อยเป็นเรื่องของทหารที่ถูกทำร้ายดำเนินการเองจะดีกว่า
“หากไม่ใช่พระไปล็อกคอทหารในเครื่องแบบแบบนี้ คงใช้รองเท้าบู๊ตสวนกลับแน่”
ในเวลาไล่เลี่ยและประเด็นที่เกี่ยวโยงกัน
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการตรวจสอบรถยนต์โบราณ ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ ขม 99 ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ว่า
เบื้องต้นตนได้รับรายงานพบว่ารถคันดังกล่าวนำเข้าโดยผิดกฎหมาย
ส่วนผู้ครอบครองจะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนก็จะดูว่าผู้ครอบครองรถรู้หรือไม่
จงใจหรือไม่
และไม่เฉพาะผู้อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้นที่เร้าระอุ
ปฏิกิริยาจากภายนอกไม่ว่าจะจากฝ่ายไหนก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน
ม.จ.จุลเจิม ยุคล โพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุ๊ก Chulcherm Yugala ว่า ขอเสนอแนะของง่ายๆในการสลายม็อบพระและจิ้งเหลืองให้ คสช. และทหารนำไปปฏิบัติดู
ให้จัดทหารหญิง-ตร.หญิง ผู้กล้ายืนบังตั้งแถวเป็นแถวหน้ากระดาน เอาไว้คอยปะทะกับพระ
ในกรณีที่ทหารหญิง-ตร.หญิง มีกำลังไม่พอก็เกณฑ์หรือขอร้อง (เพื่อชาติ เพื่อกองทัพ เพื่อ คสช.) ขอความร่วมมือ หรือจัดจ้าง
คุณหมอนวดทั้งแผนไทย และแผนสมัยใหม่ หญิงงามเมือง โคโยตี้ แม่ค้าปากคลองตลาด มาเสริมกำลัง
อีกข้าง
นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เขียนลงในเฟซบุ๊ก “Somsak Jeamteerasakul” ว่า
ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของการชุมนุมสงฆ์ แย่เกือบทุกข้อ
เรื่องศาสนาประจำชาติเป็นเรื่องที่ผิด เหมือนกับเรื่องให้ปฏิบัติต่อสงฆ์ด้วยความเคารพ ที่เป็นข้อเรียกร้องไร้สาระ
เพราะในบริบทไทยที่สงฆ์อาศัยอำนาจรัฐ แม้แต่มหาเถรสมาคมก็เป็นองค์กรของรัฐ แต่บอกว่าอย่ามาก้าวก่าย เป็นการเรียกร้องเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
คนที่ต้องการอนาคตสังคมไทยตามหลักการเสรีประชาธิปไตยแท้จริง ต้องช่วยกันพูดว่า ขณะที่ไม่เอา คสช. ไม่เอาพระพุทธะอิสระ
ก็ไม่เอาการเคลื่อนไหวภายใต้ความคิดชี้นำแบบสงฆ์กลุ่มนี้เช่นกัน
ขนาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ข้ามทวีประหว่างการประชุมที่สหรัฐอเมริกา ว่า
เมื่อกลับถึงประเทศไทย จะเชิญผู้ที่เห็นต่างมาพูดคุยให้ประชาชนตัดสินใจ
“ถ้าทุกคนหวังดีจริงๆ ต้องการให้ศาสนาพุทธซึ่งเป็นศาสนาหลักของชาติเรา ให้เป็นเป็นที่เคารพนับถือก็ต้องไปหาทางแก้ปัญหากันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น มส. รัฐบาล กลุ่มผู้เห็นต่าง ทั้งหมดต้องไปหาทางออกให้ได้
เรื่องอะไรที่รัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะตอบ
พูดจริงก็คือไม่ว่าใครจะมากจะน้อยแต่ก็คือพระส่วนหนึ่งฆราวาสส่วนหนึ่ง แล้วฆราวาสมีเยอะกว่านะ แต่ละฝ่ายเป็นล้านๆ
เพราะฉะนั้นคิดว่านี่คือปัญหาใหญ่ที่จะเกิดต่อไป ผมอยากให้ยุติวันนี้ให้ได้
ศาสนาพุทธจะถูกทำลายด้วยพวกเรากันเองนี่แหละ”
ร้อนไหม