ประเทศอินโดนีเซียกำลังอยู่ในระหว่างการตั้งราชวงศ์ใหม่ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านทางตอนใต้ของไทยเราและเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้งดั้งเดิมของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (ASEAN) อินโดนีเซียเป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกประกอบด้วยเกาะกว่า 17,000 เกาะ มีเนื้อที่ 1,904,969 ตารางกิโลเมตร มีประชากรกว่า 267 ล้านคน จัดเป็นประเทศมุสลิมที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ศูนย์กลางของประเทศอินโดนีเซียอยู่ที่เกาะชวาที่มีพลเมืองมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ คือประมาณ 150 ล้านคน อยู่ในเกาะที่มีเนื้อที่ 138,793 ตารางกิโลเมตร โดยมีเมืองหลวงชื่อกรุงจาการ์ตา

ประเทศอินโดนีเซียเดิมประกอบด้วยหมู่เกาะที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน แต่ต่อมาต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของเนเธอร์แลนด์อยู่ประมาณ 301 ปี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จักรวรรดิญี่ปุ่นบุกอินโดนีเซีย และทำการขับไล่เนเธอร์แลนด์เจ้าอาณานิคมของอินโดนีเซียออกไปได้สำเร็จ

ครั้นญี่ปุ่นแพ้สงครามและยอมจำนนต่อฝ่ายพันธมิตร อินโดนีเซียได้ถือโอกาสประกาศเอกราชใน พ..2488 แต่เนเธอร์แลนด์เจ้าของอาณานิคมเดิมไม่ยอมรับการประกาศเอกราชของอินโดนีเซีย จึงยกกองทัพเข้าปราบปราม ผลจากการสู้รบปรากฏว่าเนเธอร์แลนด์ไม่สามารถปราบปรามกองทัพอินโดนีเซียได้จนต้องยอมรับในเอกราชของอินโดนีเซียในที่สุด และตั้งแต่นั้นมากองทัพอินโดนีเซียก็ทำการปกครองประเทศอินโดนีเซียอยู่เกือบ 70 ปี

ใน พ..2541 โครงสร้างทางการเมืองและการปกครองได้รับการปฏิรูปอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับที่ปรับปรุงอำนาจของฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ โดยมีการกระจายอำนาจให้กับหน่วยงานระดับภูมิภาคต่างๆ ในขณะที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นรัฐรวม ประธานาธิบดีแห่งอินโดนีเซียทำหน้าที่เป็นทั้งประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาลในเวลาเดียวกันและมีอำนาจ

Advertisement

สั่งการผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังติดอาวุธแห่งชาติอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีมีอำนาจในการกำหนดนโยบาย และบริหารด้านการต่างประเทศ ประธานาธิบดีอาจดำรงตำแหน่งสูงสุดวาระละ 5 ปี แต่มีเวลาจำกัดไม่ให้เกิน 2 วาระ หรือ 10 ปี

นายโจโก วิโดโด หรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่าโจโกวีเป็นประธานาธิบดีของประเทศอินโดนีเซียคนปัจจุบัน (คนที่ 7 ตั้งแต่สถาปนาประเทศอินโดนีเซียขึ้นเมื่อปี พ..2492) โจโกวีเกิดเมื่อ พ..2514 จากครอบครัวชนชั้นกลาง โดยบิดาเป็นช่างและพ่อค้าเครื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้ โจโกวีเรียนจบปริญญาตรีทางการป่าไม้ (วนศาสตร์) เขาเข้ารับรัฐการอยู่ 2 ปี ก็ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวด้านเฟอร์นิเจอร์โดยเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้สักเป็นหลัก และประสบความสำเร็จจากการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไม้สักไปขายในยุโรปซึ่งเขาได้เดินทางไปยุโรปบ่อยครั้ง ก่อนจะเข้ามาทำงานการเมืองในปี พ..2548 เมื่อได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเมืองสุราการ์ตาเมืองบ้านเกิดของเขาเองโดยเขาได้เป็นนายกเทศมนตรี 2 สมัยด้วยการทำงานแบบแหวกแนวจากนักการเมืองทั่วไปที่มักจะใช้วิธีการแบบผักชีโรยหน้า โดยการเปลี่ยนวิธีการลงพื้นที่จากการที่ท้องถิ่นนั้นๆ ต้องจัดพิธีการต้อนรับ และพบปะกับผู้นำชุมชนระดับสูงๆ ซึ่งก็จะรายงานแต่เรื่องดีๆ เพื่อเอาหน้า จนสุดท้ายนายกเทศมนตรีก็ไม่รู้ปัญหาในชุมชนที่แท้จริง ซึ่งโจโกวีจะลงพื้นที่พบปะชาวบ้านโดยไม่แจ้งล่วงหน้าและไปคุยกันคนท้องถิ่นโดยตรงเป็นรายคน เพื่อรับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง

จากการทำงานอย่างจริงจังของโจโกวี ได้พลิกโฉมหน้าเมืองสุราการ์ตาซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในเกาะชวาตอนกลางให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และเป็นศูนย์กลางของการจัดการประชุมระดับนานาชาติ โดยสร้างศูนย์การประชุมขนาดมหึมา สร้างสวนสาธารณะ ตลาด และระบบขนส่งมวลชนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างงานและรายได้แก่คนท้องถิ่น โดยนำการพัฒนาเมืองในยุโรปมาเป็นต้นแบบ

Advertisement

หลังจาก 9 ปีกับงานพัฒนาเมืองสุราการ์ตาได้สำเร็จด้วยดี ทำชื่อเสียงให้โจโกวีโด่งดังจนทำให้เขาได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่ารัฐการเมืองหลวงจาการ์ตาของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจาการ์ตาก็เหมือนเมืองหลวงของประเทศกำลังพัฒนาที่อื่นๆ ทั่วโลก ที่ความเจริญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีมาพร้อมกับความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ปัญหาเด็กขาดการศึกษา จนต้องหันหน้าไปประกอบอาชญากรรม ปัญหาชุมชนแออัดที่คนในพื้นที่เข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ เรื่องเหล่านี้มาจากการคอร์รัปชั่นในวงราชการที่เป็นมะเร็งร้ายผลาญงบประมาณแผ่นดินไปให้ผู้มีอำนาจไม่กี่คนหาผลประโยชน์เข้าตัว ผลงานที่โดดเด่นของโจโกวีทำให้เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอินโดนีเซียถึง 2 สมัย

โจโกวีและทีมงานได้เข้ามาปฏิรูประบบรัฐการ สร้างระบบการสอบคัดคนใหม่ที่โปร่งใส และเปิดเผยคะแนนให้สาธารณะรับรู้เพื่อตัดปัญหาเส้นสาย เช่นเดียวกับการแสดงบัญชีทรัพย์สินของตัวเอง และคณะทำงานให้องค์กรอิสระตรวจสอบ และเอาข้อมูลงบประมาณของประเทศอัพโหลดขึ้นไปในระบบออนไลน์ให้คนเข้าถึงง่าย เมื่อลดปัญหาทุจริตลงได้ การจัดสรรปันส่วนงบประมาณต่างๆ ก็ไปถึงประชาชนมากขึ้นไปด้วย อาทิ การกลับมาก่อสร้างรถไฟใต้ดินอีกครั้ง และการออกบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ชาวอินโดนีเซียทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ในราคาถูก และในสมัยที่สองอันเป็นสมัยสุดท้ายที่โจโกวีมีสิทธิที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ตามรัฐธรรมนูญคือการย้ายเมืองหลวงจากกรุงจาการ์ตาบนเกาะชวาไปที่จังหวัดกาลีมันตันตะวันออกในเกาะบอร์เนียว ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีเนื้อที่ถึง 743,330 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอินโดนีเซียเป็นเจ้าของร่วมกับประเทศมาเลเซียและประเทศบรูไน

เนื่องจากการย้ายเมืองหลวงครั้งนี้เป็นโครงการอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลของอินโดนีเซียและเป็นมรดกการเมืองที่โจโกวีต้องการให้เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเนื่องจากประธานาธิบดีโจโกวี ประกาศแผนการย้ายเมืองหลวงครั้งแรกเมื่อ พ..2562 เพราะต้องการช่วยบรรเทาปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่นครจาการ์ตากำลังเผชิญและเพื่อกระจายความมั่งคั่ง แต่การย้ายเมืองหลวงของอินโดนีเซียต้องประสบความล่าช้า เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินโดนีเซียจะเดินหน้าโครงการนี้ใน พ..2567 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการเป็นประธานาธิบดีของโจโกวี

เนื่องจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียครั้งต่อไปกำหนดขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ..2567 ทางพรรคการเมืองชื่อ The Indonesian Solidarity Party ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาลดอายุของผู้สมัครเป็นรองประธานาธิบดีจาก 40 ปีลงได้ หากผู้สมัครเป็นรองประธานาธิบดีผู้นั้นดำรงตำแหน่งทางการเมืองในระดับภูมิภาคหรือระดับท้องถิ่นอยู่แล้ว ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็พิจารณาเพิ่มเติมให้ตามคำขอเมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้เอง และหลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ นายปราโบโว สุเพรียนโต รัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลโจโกวี อายุ 72 ปี ประกาศลงรับสมัครเป็นประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 3 ของเขา และมี นายจิบราน รากาบูมิง รากา อายุ 36 ปี ได้นายกเทศมนตรีเมืองสุราการ์ตาผู้เป็นลูกชายคนโตของโจโกวีเป็นรองประธานาธิบดี

นอกจากนี้ นายกาเอซัง ปางาเริป อายุ 29 ปี ลูกชายคนที่สองของโจโกวีก็ยังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง The Indonesian Solidarity Party ที่เพิ่งยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาลดอายุของผู้สมัครเป็นรองประธานาธิบดีจาก 40 ปีลงได้สำเร็จ พร้อมทั้งประกาศตัวจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเดป็อกซึ่งเป็นเมืองใหญ่ติดกับกรุงจาการ์ตาทางใต้

ตอนนี้ชาวอินโดนีเซียกำลังวิจารณ์กันขรมว่าประธานศาลรัฐธรรมนูญนายอันวา อัสแมนเองก็เป็นน้องเขยของโจโกวี จึงสรุปกันว่าโจโกวีกำลังพยายามที่จะตั้งราชวงศ์สืบทอดอำนาจต่อไปถึงลูกๆ ออกจะเป็นอันตรายต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ต้องดูกันต่อไปล่ะครับ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ..2567 น่าจะสนุกแน่ๆ ทีเดียว

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image