หยุดการอุ้มฆ่า โดย สุริวงศ์ เอื้อปฏิภาณ

คดีอุ้มฆ่าสาวทอมที่กำลังเป็นข่าวใหญ่อยู่ในความสนใจของประชาชนอยู่ขณะนี้ ได้รับการคลี่คลายในประเด็นสำคัญที่สุด คือ ตามพบศพเหยื่อได้แล้ว หลังจากที่คนร้ายพยายามอำพรางด้วยการนำไปฝังดินในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ห่างไกลจาก กทม. จุดเกิดเหตุกว่าร้อยกิโลเมตร

ความที่ผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้จ้างวาน เป็นนายตำรวจระดับ ผกก.หัวหน้าโรงพัก และผู้รับว่าจ้างให้ลงมือ เป็นคนในเครื่องแบบ

ทีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีจึงหนักใจ ประเด็นสำคัญคือ กลัวว่าจะตามศพไม่พบ

เพราะคดีอุ้มฆ่าโดยกลุ่มคนร้ายที่มีอิทธิพลหรือเป็นเจ้าหน้าที่ หลายครั้งได้ทำลายศพด้วยการนำไปเผาจนไม่เหลือ แถมนำชิ้นส่วนที่ป่นจนไม่เป็นชิ้นเป็นอันละลายไปกับสายน้ำ จึงทำให้ไม่มีพยานหลักฐานศพ หลงเหลืออยู่เลย

Advertisement

คดีอุ้มฆ่า ที่มีการทำลายศพอย่างแนบเนียน หลายครั้งรู้ทั้งรู้ว่าใครลงมือบ้าง สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ แต่ตั้งข้อหาได้เพียงลักพาตัวทำให้สูญหาย ไม่สามารถตั้งข้อหาฆาตกรรมได้ จึงทำให้โทษทางกฎหมายเบาโหวงทันที

ดังนั้นผู้รอบรู้กฎหมายและมีศักยภาพสูง เช่น มีทีมทำงานครบวงจร มีสถานที่เฉพาะที่คนนอกเข้าไม่ได้ จึงเน้นวิธีการเผาป่นศพไม่ให้เหลือ เพื่อเป็นหลักประกันให้โดนตั้งข้อหาที่ค่อนข้างเบา

แต่คดีอุ้มสาวทอมนั้น คนร้ายเลือกวิธีเอาไปฝังในสถานที่ร้างและโบกปูนทับ ไม่ใช่การเผาป่น จึงทำให้ไขปมสำคัญของคดีได้

Advertisement

สามารถตั้งข้อหาฆาตกรรมแก่ผู้ร่วมกระทำผิดได้ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน การสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งยวง แม้ผู้เป็นตัวการจะเป็นนายตำรวจระดับสูง อย่างน้อยก็ช่วยทำให้หมดข้อครหาว่าคนสีเดียวกันปกป้องกันเอง เพราะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงมาสั่งการเอง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. คุมคดีเอง จึงไม่มีการช่วยเหลือกันเองเด็ดขาด

ทั้งเป็นการบอกกล่าวกับทั้งสังคมว่า การกระทำผิดใดๆ ยิ่งผิดร้ายแรงด้วยการเข่นฆ่าคนดังคดีนี้ ลงเอยหนีไม่พ้นต้องโดนจับกุม หมดอนาคต และน่าจะต้องโดนลงโทษตามกฎหมายขั้นรุนแรง เนื่องจากเป็นคดีฆาตกรรมที่มีพยานหลักฐานครบถ้วน

นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า อาชญากรย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีฝีมือติดตามอย่างจริงจัง ย่อมค้นหาความจริงได้

แต่ถ้าหากคดีนี้มีการเผาทำลายจนหาศพไม่พบ คงยิ่งตอกย้ำความจำเป็นของการออกกฎหมายใหม่ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งเหล่านักสิทธิมนุษยชนร่วมกันรณรงค์และผลักดัน จนใกล้สำเร็จเป็นจริง

โดยมีเนื้อหากำหนดรายละเอียดของการบังคับบุคคลให้สูญหาย นำไปกักขังทรมาน อย่างชัดเจนขึ้น มีโทษสูงมากขึ้น หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะสามารถเชื่อมโยงถึงผู้บังคับบัญชาที่สั่งการอยู่เบื้องหลังได้

น่าจะช่วยหยุดยั้งการอุ้มฆ่าได้ผลขึ้น โดยแม้จะเผาทำลายศพหลักฐานสำคัญได้ แต่ข้อหาในกฎหมายใหม่จะครอบคลุมมีละเอียดชัดขึ้นและมีโทษหนักหน่วงขึ้น

การอุ้มหายและอุ้มฆ่าในทุกวันนี้ ไม่ได้มีแค่การชิงรักหักสวาท การขัดผลประโยชน์

แต่ที่ร้ายแรงและเอาผิดยาก มักมาจากฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐบางรายบางกลุ่ม ด้วยข้ออ้างทางราชการ และทำกันในหมู่เจ้าหน้าที่ทุกสี

ไม่ว่าจะส่วนกลางไปจนถึงในพื้นที่ชายแดน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image