วิถีแห่งกลยุทธ์ : การศึก การรัก ยืมมีด ผู้อื่น สังหาร พิสวาส ฆาตกร

วิถีแห่งกลยุทธ์ : การศึก การรัก ยืมมีด ผู้อื่น สังหาร พิสวาส ฆาตกร

นี่ย่อมเป็น “เหตุการณ์” สลับซับซ้อนในเชิงกลยุทธ์ อัน “จังซิงแซ” นำมาจาก “ความฝันในหอแดง”
เหมือนกับเป็นเรื่องของการชิงรัก หักสวาท
เมื่อหวังซีฟ่งรู้ว่าเจี่ยเหลียน สามีของตน แอบแต่งยิวเอ้อเจี่ยเป็นภรรยาน้อยอยู่นอกบ้าน
ก็คั่งแค้นอยู่ในอก
จึงอาศัยช่วงที่เจี่ยเหลียนไปต่างเมือง หลอกยิวเอ้อเจี่ยให้เข้ามาอยู่ในเค้ากวนเหยียนด้วยกัน
ย่อมเพื่อสะดวกในการกำจัด

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก
เจี่ยเหลียนไปทำงานมีความดีความชอบ พอกลับมา เจี่ยเส้อ บิดาของเขาพออกพอใจเป็นอย่างมาก
มอบเงิน 100 ตำลึงให้เป็นรางวัล
เท่านั้นไม่พอ ยังได้มอบสาวใช้ในบ้านนามว่าซิวถง ซึ่งเพิ่งอายุได้ 17 ปีให้เป็นอนุภรรยาอีกคน
ย่อมสร้างความปรีติปราโมทย์แก่เจี่ยเหลียนเป็นอย่างมาก
ในอีกด้านหนึ่ง หวังซีฟ่งโกรธจนแทบกระอักเลือด หนามที่ปักยอกคาอกอันหนึ่งยังไม่ได้ถอนออก
อยู่ดีๆ ก็มีหนามมาปักซ้ำ

ทุกอย่างเป็นไปตามกฎ เจี่ยเหลียนได้ใหม่ก็ลืมเก่า ขลุกอยู่กับซิวถงไม่ไปไหน ผลสะเทือนจึงเกิดกับซิวถง
ถือดีว่าเป็นคนที่เจี่ยเส้อกำนัลมา
ย่อมมีความปลาบปลื้มอย่างยิ่ง กระทั่งหวังซีฟ่ง ก็ไม่อยู่ในสายตา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยิวเอ้อเจี่ย
ถามว่าหวังซีฟ่งคิดอย่างไร
นางแม้จะเกลียดซิวถง แต่เมื่อตรึกตรองแล้วเห็นว่าน่าจะอาศัยซิวถงเล่นงานยิวเอ้อเจี่ยได้
เอายิวเอ้อเจี่ยเป็นเป้าแรก
จากนั้น ค่อยลงมือกับซิวถงเป็นเป้าหมายต่อไป

Advertisement

cผนของหวังซีฟ่งที่ดำเนินอย่างเป็นระบบ คือ ด้านหนึ่ง ทำเป็นดีกับยิวเอ้อเจี่ย อีกด้านหนึ่ง ก็บอกกับซิวถง
“เจ้ายังเด็ก ไม่รู้อะไร
ตอนนี้เขาเป็นคุณนายรอง เป็นคนที่คุณชายของเจ้ารักมากที่สุด ข้าเองยังต้องเกรงเขาเลย
เจ้าไปวางท่าแข็งกร้าวกับเขา เท่ากับหาเรื่องตาย”
“นางโสเภณีที่ไม่มีใครต้องการ ยอมเสียตัวก่อนถึงได้แต่ง กล้ามาลองดีกับข้าหรือ”
วาจาสำนวนตอบเยี่ยงนี้เท่ากับแผนยุแหย่ ประสบผลสำเร็จ

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหวังซีฟ่งดีใจอย่างยิ่งแต่มิได้แสดงอะไร ขณะที่ยิวเอ้อเจี่ยเมื่อทราบความ
แม้โกรธอย่างยิ่งแต่ทำได้เพียงร้องไห้
2 ตาบวมแดง ข้าวปลาไม่แตะ ทั้งไม่กล้าระบายออก
ขณะที่ซิวถงไปฟ้องแม่เฒ่าเจี่ยและคุณนายหวัง “ยิวเอ้อเจี่ยมารยาสาไถย ไม่มีเรื่องอะไรก็ทำเป็นร้องไห้พิลาปรำพันทั้งวัน ลับหลังแอบแช่งให้ข้ากับคุณนายหวังตายเร็วๆ นางจะได้ครอบครองคุณชายเพียงคนเดียว”
ผลก็คือ แม่เฒ่าเจี่ยและคนรอบข้างเริ่มไม่ชอบยิวเอ้อเจี่ย
เหมือนผีซ้ำด้ำพลอย เมื่อเห็นว่าแม่เฒ่าเจี่ยไม่ชอบก็พากันไม่ชอบยิวเอ้อเจี่ยตามไปด้วย
ลามไปถึงสาวใช้
ข้าวปลาอาหารที่นำมาให้ยิวเอ้อเจี่ยก็เป็นอาหารเหลือๆ ที่ไม่มีใครกินลง จนยิวเอ้อเจี่ยอยู่ในสภาพจะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ดี
หวังซีฟ่งก็แสร้งทำเป็นป่วย

การศึกผันผ่านไปไม่ถึงเดือน ยิวเอ้อเจี่ยตัวซีดเหลือง ล้มป่วยจนลุกไม่ขึ้น เมื่อเจี่ยเหลียนเชิญหมอมาตรวจ
คิดไม่ถึงว่าหมอจะวินิจฉัยผิดพลาด
ให้ยาที่รุนแรงจนทำให้ยิวเอ้อเจี่ยซึ่งตั้งครรภ์อยู่แท้งลูกออกมา เป็นทารกที่ดูออกว่าเป็นเด็กชาย
เรื่องจึงยิ่งโก โซ บิ๊ก
เมื่อหวังซีฟ่งรู้เข้าก็แสดงอาการเสียใจยิ่งกว่าเจี่ยเหลียน และรุกเข้าไปอีกก้าวด้วยการให้คนไปตรวจดูดวงชะตา
ระบุคำหมอว่า คนเกิดปีเถาะส่งผลไม่ดีต่อยิวเอ้อเจี่ย
เด่นชัดว่าเป้าหมายเป็นซิวถงซึ่งเกิดปีเถาะ หวังซีฟ่งจึงขอให้ซิวถงไปอยู่ที่อื่นสัก 2-3 เดือนค่อยกลับมา
เท่ากับกระสุนนัดเดียวยิงนกได้หลายตัว

Advertisement

พลันที่รับทราบข้อเสนอแนะจากหวังซีฟ่ง ก็เหมือนกับเป็นการราดน้ำมันเข้าไปในอารมณ์ที่ร้อนกรุ่นของซิวถง
พรั่งพรูออกมาด้วยคำด่า หยาบคาย แสลงหู
ซิวถงร้องไห้ไปฟ้องต่อคุณนายสิง ซึ่งเป็นมารดาสามี ระบุว่าเจี่ยเหลียนและหวังซีฟ่งจะไล่นางกลับมา
ยิ่งได้รับคำปลอบโยนและหนุนหลังจากคุณนายสิง
ซิวถงยิ่งลำพองถึงกับไปยืนด่าว่ายิวเอ้อเจี่ยหยาบๆ คายๆ ที่หน้าห้องของนาง ยิวเอ้อเจี่ยสุดที่จะทน
สุดท้ายก็ตัดสินใจกลืนทองก้อน ฆ่าตัวตาย

ตำรากลยุทธ์ส่วนใหญ่ชมชอบยกตัวอย่างแผน “ยืมดาบฆ่าคน” จากกรณีของยีเอ๋งโดยสมองก้อนโตของโจโฉ
แต่เส้นทางในแบบของหวังซีฟ่งถือว่าเฉียบขาด
ดำเนินไปตามบทสรุปของ ประดิษฐ์ พีระมาน ที่ว่า เป็นกลอุบายลวงให้กองทัพข้าศึกหวาดระแวงแม่ทัพนายกองของตนจะทรยศหักหลัง
จึงเกิดความหวาดระแวง จับผิดลงโทษ
ทำให้กองทัพข้าศึกแตกแยก เมื่อได้โอกาสก็ยกทัพไปโจมตีและพิชิตกองทัพข้าศึกได้โดยง่าย
ยิ่งอ่านของ บุญศักดิ์ แสงระวี ยิ่งแยบยล

เมื่อศัตรูปรากฏแน่ชัดที่มิตรยังลังเล สิ่งที่พึงกระทำก็คือล่อให้พันธมิตรออกไปปะทะกับศัตรู
นี่เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่ใช้ “ความขัดแย้ง”
ยืมกำลังของคนอื่นไปทำลายศัตรู เพื่อรักษากำลังของตนเองไว้ แต่การยืมเช่นนี้จะต้องแนบเนียน
มิเช่นนั้นแล้วก็ไม่อาจทำลายศัตรูได้ กลับอาจจะถูกศัตรูย้อนรอย
ตรงตามคำอธิบายของ สมศักดิ์ แต้มบุญเลิศชัย สภาพของศัตรูเห็นได้ชัดเจน แต่ท่าทีของมิตรยังไม่แน่นอน ถ้าใช้อุบายทำให้ฝ่ายที่เป็นมิตรกับเราไปสู้รบกับศัตรูได้
ตนเองก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองกำลัง

จังซิงแซ จึงรวบรัดสะบัดผลผ่าน “ยืมมือคนอื่น” ให้กระจ่างมากยิ่งขึ้นว่า อาศัยความช่วยเหลือจากผู้อื่นเพื่อประโยชน์ในการบรรลุถึงจุดมุ่งหมายของตนเอง
นั่นก็คือ ไม่จำเป็นต้องลงมือทำ
โดยเฉพาะในเวลาที่ตนไม่สะดวกที่จะลงมือ หรือมีเหตุผลบางประการที่ทำให้ออกหน้าไม่ได้
หรือถ้าลงมือเองแล้วอาจมีอันตราย
ไม่ว่าการรัก การพิศวาส ไม่ว่าการศึก การสงคราม ล้วนต้องเข้าสู่ “สมรภูมิ” ประลองพลัง ประลองความสามารถ
พลังหญิงยอกย้อน พลังรักซ่อนปม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image