ไทยพบพม่า : รัฐบาลจีนและท่าทีล่าสุดต่อการสู้รบในรัฐฉาน

ไทยพบพม่า : รัฐบาลจีนและท่าทีล่าสุดต่อการสู้รบในรัฐฉาน

ต้องยอมรับว่าการสู้รบในรัฐฉานกลับมาเป็นประเด็นสุดฮอตอีกครั้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะมีผู้ได้รับผลกระทบในวงกว้าง ไม่ใช่เฉพาะในพม่าเท่านั้น แต่ยังกระทบคนไทยที่เข้าไปทำงานในรัฐฉานตอนเหนือ และยังกระทบจิตใจของรัฐบาลจีนมากกว่าที่คิด

ผู้เขียนเคยรายงานไปเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าปฏิบัติการ 1027 ที่มีมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ทำให้รัฐบาลจีนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทอยู่นี้เป็นรัฐฉานส่วนของ Chinese Shan State นั่นคือเป็นเขตที่อยู่ติดกับชายแดนจีน และเป็นเขตปกครองพิเศษของกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาจีนอย่างโกก้าง ซึ่งมีเมืองเล้าก์ก่าย (Laukkaing) เป็นเมืองเอก และยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของธุรกิจจีนเทาในปัจจุบัน ในพื้นที่นี้ รัฐบาลจีนยังมีเมกะโปรเจ็กต์หลายโครงการ จีนจึงพยายามเรียกร้องและกดดันให้กองกำลังทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน และยุติการใช้ความรุนแรง แต่สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงในรัฐฉานตอนเหนือในปัจจุบัน ต้องบอกว่า แม้แต่จีนยังบอกให้คู่กรณีหยุดโจมตีกันไม่ได้

จีนให้ความสำคัญกับความสงบภายในรัฐฉานตอนเหนือมากเป็นพิเศษ เพราะนี่คือพื้นที่ที่ท่อส่งก๊าซและน้ำมันเชื่อมมณฑลยูนนานกับอ่าวเบงกอลพาดผ่าน ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลกระทบทางเศรษฐกิจสำหรับพม่าหรือรัฐฉานเท่านั้น แต่ยังกระทบเศรษฐกิจกับภาคการผลิต และอาจกระทบชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในจีนตอนใต้ด้วยในอนาคต

Advertisement

เมื่อจีนไม่สามารถเจรจาเพื่อให้กองกำลังทุกฝั่งหยุดโจมตีกันได้ จีนจึงนำกองกำลังของตนเองเข้าไปประจำในเมืองเล้าก์ก่าย ในรายงานของสำนักข่าวบีบีซีภาษาพม่ากล่าวไว้ว่า กองกำลังของรัฐบาลจีนถูกส่งเข้าไปในเมืองเล้าก์ก่ายเพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์

แนวคิดเรื่องการนำกองกำลัง หรือตำรวจของจีนเข้าไปประจำในรัฐฉานตอนเหนือ หรือพื้นที่อื่นๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปัจจุบัน สังคมไทยก็ถกเถียงกันมาก เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ออกมาเปิดเผยว่ามีแนวคิดร่วมกับสถานทูตจีนที่จะให้ตำรวจจากประเทศจีนเข้ามาร่วมลาดตระเวนตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเมืองหลักของไทย ประเด็นนี้สร้างความสับสนเป็นอย่างมาก เพราะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงหลังจากนั้นว่าตำรวจจีนจะเข้ามาสนับสนุนให้ตำรวจไทยปราบปรามกลุ่มจีนเทาเพียงเท่านั้น

ผู้เขียนมองว่า ด้วยกระแสสังคมในไทยค่อนข้างจะรุนแรง และมีคำถามเรื่องอำนาจอธิปไตยตามมามาก ทำให้รัฐบาลไทยจำเป็นต้องถอย ตำรวจจีนที่เข้าไปลาดตระเวนตามเมืองต่างๆ ที่เป็นฐานที่มั่นของแก๊งจีนเทานั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ไชน่าทาวน์ในเมืองใหญ่ทุกแห่งทั้งในอเมริกาเหนือและยุโรปก็ล้วนเป็นแหล่งปฏิบัติการของจีนเทาทั้งสิ้น รัฐบาลจีนเคยส่งตำรวจไปร่วมลาดตระเวนในหลายเมืองมาแล้ว และล่าสุดก็เพิ่งส่งกองกำลัง (ที่ไม่ได้มีเพียงตำรวจ) เข้าไปในเมืองเล้าก์ก่ายโดยตรง

Advertisement

แผนการของจีนมีมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม เมื่อนายหวัง เสี่ยวหง (Wang Xiaohong) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนไปเยือนเนปยีดออย่างเป็นทางการ และรัฐบาลคณะรัฐประหารของพม่าเห็นชอบให้จีนส่งคนของตนเข้าไปในเขตปกครองพิเศษของโกก้างได้

ประเด็นหนึ่งที่เราต้องทำความเข้าใจ คือ รัฐฉานไม่ได้เป็นพื้นที่ของคนฉานเท่านั้น ตั้งแต่อดีต รัฐฉานเป็นแหล่งรวมผู้คนหลากหลายกลุ่ม มีทั้งคนฉานที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธแบบเถรวาท ปะหล่อง ปะโอ กับโกก้างที่เป็นคนจีนฮั่น พูดภาษาจีน และมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับคนจีนในยูนนาน รวมทั้งว้าแดง ที่มีภาษาและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์จากกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้มีกองกำลังเป็นของตนเอง เป้าหมาย คือ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง และส่วนใหญ่มีวาระหลัก คือ ต้องการปลดแอกพื้นที่ของตนจากการปกครองของพม่า กองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันก็ไม่ได้มีเสถียรภาพมากนัก เราอาจเคยได้ยินมาว่ากองกำลังฉานด้วยกันเปิดฉากโจมตีกัน หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force) ของโกก้าง ก็ไม่ลงรอยกับกองกำลังหลักของโกก้างอย่าง MNDAA (Myanmar National Democratic Alliance Army)

ในเขตปกครองตนเองโกก้างปัจจุบัน BGF ของโกก้างควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ เป้าหมายของ BGF ซึ่งสนับสนุนการทำงานของคณะรัฐประหารและกองทัพพม่า คือ ต้องการขับกลุ่มจีนเทาออกไปจากเขตโกก้าง และน้อมรับนโยบายจากปักกิ่งเพื่อร่วมกันปราบปรามจีนเทาให้สิ้นซาก

ในความเป็นจริง ธุรกิจของจีนเทานั้นทำให้เศรษฐกิจในเขตโกก้างเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้รัฐบาลจีนไม่ปลื้มคนกลุ่มนี้ เพราะจีนเทาเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น และยังมีอาชญากรรมเกิดขึ้นในเขตโกก้างและเขตที่จีนเทามีฐานปฏิบัติการอยู่เพิ่มขึ้น และเคยมีกรณีที่มีคนจีนถูกลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ และเคยมีคนจีนเสียชีวิตหลายคน ด้านกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ (Three Brotherhood Alliance) ที่เป็นการรวมตัวกันของกองกำลังโกก้าง ตะอาง และอาระกัน ก็ถูกกดดันจากจีนมาเหมือนกัน และอาจเป็นเหตุผลหนึ่งให้กองกำลังกลุ่มนี้เปิดฉากโจมตีรัฐฉานตอนเหนือ (โดยได้รับไฟเขียวจากปักกิ่ง) เพื่อขับจีนเทาออกไปจากพื้นที่ยุทธศาสตร์ของตนให้ได้

ต่อเนื่องจากปฏิบัติการ 1027 รัฐบาลจีนประกาศจับกุมผู้นำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในรัฐฉานตอนเหนือ 4 คน เจ้าหน้าที่โกก้าง 2 คน และคนจีนอีก 2 คน ในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมีส่วนร่วมกับอาชญากรรมการลักพาตัวและฆาตกรรมชาวจีน ตำรวจในเมืองเวินโจว ในมณฑลเจ้อเจียง (ซึ่งไม่ได้อยู่ใกล้กับเขตของโกก้างเลย) ตั้งรางวัลนำจับไว้ที่ 1-5 แสนหยวน (ประมาณ 5 แสน-2.5 ล้านบาท)

มีรายงานออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองกำลังของจีนได้บุกเข้าไปสังหารสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลายคน บางส่วนเป็นคนจีน ระหว่างที่พยายามหลบหนีออกมาจากหนึ่งในที่ทำการในเมืองเล้าก์ก่าย ปฏิบัติการของรัฐบาลจีน ที่ให้การสนับสนุนกองกำลังพันธมิตรสามฝ่ายในรัฐฉานเหนือ เป็นเรื่องที่น่าจับตามอง เพราะนี่คือการยืนยันว่าความอดทนของรัฐบาลปักกิ่งที่มีต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขตรอยต่อรัฐฉานกับจีนสิ้นสุดลงแล้ว

ในอนาคตเราอาจเห็นปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในรัฐฉานตอนเหนือมีน้อยลง แต่เมื่อคนเหล่านี้มีฐานปฏิบัติการอยู่ทั่วโลก โอกาสที่จะปราบปรามให้ราบคาบคงจะเป็นไปได้ยาก แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้เลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image