วันหนึ่งในการประชุมคณะอนุกรรมการประสานงานเครือข่ายสื่อสารมวลชน ในคณะกรรมการบริหารเครือข่ายร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่มีคุณพี่โฆษิต สุวินิจจิต ผู้มีความตั้งใจที่จะทำกรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง หมายถึงตั้งแต่ผู้บริหารถึงเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครต้องทำงาน 24 ชั่วโมง เพราะกรุงเทพฯ ไม่เคยหลับ พูดถึงเรื่องอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายในเทศกาลปีใหม่ที่ทำลายสถิติเดิมลงราบคาบ
คณะอนุกรรมการแสดงความคิดเห็นกันกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาเหตุ เรื่องคนขับ เรื่องของสภาพยานพาหนะ สภาพของความคึกคะนอง ที่สุดคือความประมาท ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บคนตายนับร้อยนับพัน โดยเฉพาในห้วงสงกรานต์ที่จะมาถึงในอีกสองเดือนกว่าข้างหน้านี้
ประเด็นหนึ่งที่นำเสนอ คือจะทำอย่างไรให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์สาธารณะ และรถโดยสารทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง มีจิตสำนึก มีวินัยในการขับขี่ยานพาหนะไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้โดยสารและผู้อื่น
การอภิปรายว่าถึงสาเหตุที่สำคัญคือผู้มีหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะคือผู้ที่ก่อให้เกิดอันตราย ไม่ว่าจะเป็นรถชนกัน รถคว่ำ รถไปชนผู้อื่น รถไปขนกับรถคันอื่น และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสารพัด
ประการหนึ่ง คือเรื่องของสภาพรถ ดังกล่าวไปแล้วประการแรกคือยางรถยนต์ที่ไม่มีดอก ยางรถยนต์เก่านำมาหล่อดอก และไม่มีการตรวจสภาพยางรถยนต์ว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือยัง ไปถึงสภาพอื่น เช่น ระบบเบรก ระบบเครื่องยนต์ และระบบอื่นที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องยนต์
สภาพรถไม่ว่าจะเป็นยางรถยนต์ เครื่องยนต์ หรืออื่นใด หากได้รับการตรวจสภาพสม่ำเสมอ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุยังน้อยกว่าสภาพของผู้ปฏิบัติหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะ
วันนี้เราพยายามรณรงค์เรื่องการขับขี่ยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นอันดับแรก คือ “เมาไม่ขับ” อันดับต่อมาคือ “ง่วงไม่ขับ” ไม่ขับรถเร็ว ไม่ฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎจราจร สุดท้ายคือ “ไม่ประมาท”
การรณรงค์เรื่องความปลอดภัยในท้องถนนมีมานานแล้ว แต่มีอย่างจริงจัง หลังจากมีการบาดเจ็บล้มตายจากอุบัติเหตุในห้วงเทศกาลสำคัญคือสงกรานต์ และเทศกาลปีใหม่ สาเหตุสำคัญคือ “เมาแล้วขับ” ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก จึงมีความพยายามลดการดื่มลงด้วยการรณรงค์ให้หยุดดื่มเมื่อเข้าพรรษา
การรณรงค์นั้นอาจได้ผลบ้าง แต่ในที่สุดเมื่อมีผู้ขับขี่ยานพาหนะเพิ่มมากขึ้น ผู้ขับขี่มีอายุน้อยลง สติสัมปชัญญะของผู้ขับขี่ยังไม่ดีพอ จึงเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้นทุกปี จนปีนี้ทำลายสถิติเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา
คณะอนุกรรมการชุดนี้มีความคิดว่า หากทำให้อุบัติเหตุลดลงด้วยประการใด จะเป็นคุณูปการอย่างล้นเหลือ ด้วยความคิดที่ว่า ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บคนตาย ผู้ที่อยู่ข้างหลังคือผู้ที่เสียใจ ทุกข์ทรมาน
ประธานโฆษิตเสนอความคิดกับที่ประชุมว่า ทุกวันนี้เราไถ่ชีวิตวัวควายเป็นประจำ วันนี้เรามาไถ่ชีวิตคนด้วยกัน ด้วยการรณรงค์ให้ไม่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนกันดีไหม ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ ไม่ว่าใครจะรู้หรือไม่ว่าพวกเราคือผู้ที่ทำให้เกิดการเรียกร้องครั้งนี้ เพื่อเป็นการปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง
สัปดาห์หน้าเรามาหาสโลแกนเรียกร้องให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะลดทุกอย่างลงเพื่อลดการสูญเสียชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันดีไหม
เรียกร้องพร้อมกัน จากพฤติกรรมของเราด้วยกันเอง การบังคับใช้กฎหมาย การเห็นคุณค่าของมนุษย์ที่ทำงานด้านนี้ให้มีรายได้เพียงพอ ไม่ต้อง “ควงกะ” โดยเฉพาะในเทศกาล
แล้วดูซิว่าผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร
อนึ่ง วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคมนี้ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่ประจำปี 2560 เวลา 10.30 น. ลงทะเบียน มีกิจกรรมไปถึง 13.00 น. ประชุมใหญ่ และเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ 15.00 น. ณ สถาบันปรีดี พนมยงค์ ถนนสุขุมวิท ซอย 55
ขอเชิญสมาชิกไปร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ด้วยครับ
