ออกแบบประวัติศาสตร์ไทย มีต้นแบบสมัย ร.5 โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ

ประชาชนพลเมืองไทยในบางกอกสมัยก่อน อยู่ย่านตลาดริมกำแพงเมืองกรุงเทพฯ ล้วนเป็นคนร้อยพ่อพันแม่นานาชาติพันธุ์ จนบอกไม่ได้แน่ชัดว่าไผเป็นไผ? ใครเป็นใคร? มาจากไหน? (ภาพเก่าจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ)

“HISTORY 101 ออกแบบประวัติศาสตร์อย่างไรให้โดนใจคนไทยทุก GEN” เป็นหัวข้ออภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จัดเวทีเสวนาวิชาการ “เปิดโฉมหน้าวิชาประวัติศาสตร์ไทย : คน GEN ใหม่ เรียนเรื่องเก่าแบบไหนในยุค AI ครองเมือง” วันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2567

ประวัติศาสตร์ไทย “แห่งชาติ” ไม่ซื่อตรงต่อหลักฐานทางวิชาการประวัติศาสตร์โบราณคดี ดังนั้นจะออกแบบเลอเลิศประเสริฐศรีอย่างไรก็ไม่โดนใจคนไทยทุก GEN ไปชั่วฟ้าดินสลาย เพราะงมงายใน “เชื้อชาติ” ที่ไม่มีจริง ดังนี้

เชื้อชาติ เป็นที่รู้ทั่วกันว่าในโลกนี้ไม่มีเชื้อชาติ ดังนั้นประเทศต่างๆ ในโลกทยอยยกเลิกเชื้อชาติมานานแล้ว

สำนึกเชื้อชาติเริ่มแรกมีในยุโรป แล้วถูกใช้ล่าอาณานิคม จนแผ่ถึงสยามราวต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แล้วแพร่หลายในแผ่นดิน ร.6

Advertisement

แต่ประวัติศาสตร์ไทย “แห่งชาติ” ไม่ซื่อตรง จึงเน้นย้ำประวัติศาสตร์ชนชาติไทย มีคนไทย เชื้อชาติไทย สายเลือดบริสุทธิ์ ถิ่นกำเนิดในเมืองจีนที่เทือกเขาอัลไต ต่อมาถูกทักท้วงจากนักวิชาการนานาชาติ ก็เลื่อนถิ่นกำเนิดลงไปอยู่ตอนใต้ของจีน แต่ยังรักษาแนวคิด (ทฤษฎี) อพยพยกโขยงถอนรากถอนโคนจากที่ใดที่หนึ่งในเมืองจีน เพื่อยืนยันการ “ยกเมฆ” สุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของไทย ซึ่งไม่เคยพบหลักฐานสนับสนุน

ชาติ เป็นที่รู้ทั่วโลกว่าสำนึกเรื่องชาติเพิ่งมีไม่นานมานี้ เริ่มจากยุโรป แล้วแผ่ถึงไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์ แผ่นดิน ร.4, ร.5 เริ่มทำแผนที่แสดงอาณาเขตประเทศสยาม

แต่ประวัติศาสตร์ไทย “แห่งชาติ” ไม่ซื่อตรง ได้เน้นย้ำ “ชาติไทย” มีอย่างน้อยตั้งแต่สมัยสุโขทัย และมีเส้นกั้นอาณาเขตทางทิศใต้ตลอดแหลมมลายู ทั้งๆ ไม่จริง และไม่เคยพบหลักฐานอย่างนั้น

Advertisement

ดังนั้น ประวัติศาสตร์ไทยไม่ทำให้เข้าใจตนเองและรากเหง้าของตนเอง ตามข้อความในเอกสารชักชวนของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา แต่ในทางตรงข้าม ประวัติศาสตร์ชนเชื้อชาติไทยของทางการไทยเป็นประวัติศาสตร์บิดเบือน และเป็นประวัติศาสตร์บาดหมางสร้างบาดแผล ดังรู้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งโลกมายาวนานมาก โดยเฉพาะบริเวณสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ประวัติศาสตร์ไทยควรเป็นประวัติศาสตร์ดินแดนและผู้คนในประเทศไทยโดยไม่จำกัดชาติพันธุ์ ซึ่งเคยมีต้นแบบเมื่อ 117 ปีที่แล้ว ในพระราชดำรัส ร.5 ทรงเปิดโบราณคดีสโมสร

ประวัติศาสตร์ดินแดนและผู้คน (ไม่เชื้อชาติ) ในประเทศไทย มีความหมาย ดังนี้

ดินแดน  หมายถึง พื้นที่บริเวณประเทศไทย ซึ่งเดิมเรียกประเทศสยาม อันเป็นส่วนหนึ่งซึ่งแยกไม่ได้จากพื้นที่บริเวณอุษาคเนย์ มีความเป็นมาอย่างสรุป ดังนี้

(1.) เริ่มต้นบริเวณจำกัดที่ดินแดนสยาม หลังจากนั้นขยายไปผนวกดินแดนที่อยู่ต่อเนื่องและใกล้เคียงเข้าด้วยกัน เป็น “ราชอาณาจักรสยาม” หรือ “เมืองไทย” (มีบอกชัดเจนในจดหมายเหตุลา ลูแบร์)

(2.) สมัยแรกไม่มีเส้นกั้นอาณาเขต แต่มีสมัยหลังในแผ่นดิน ร.5

(3.) สมัยดั้งเดิมพื้นที่กว้างขวางรกร้างว่างเปล่ามีมาก ผู้คนไม่มาก

(4.) สยามถูกเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทย เมื่อ 85 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2482)

ผู้คน หมายถึง คนไม่จำกัดชาติพันธุ์ที่อยู่ในดินแดนประเทศไทย ได้แก่ มอญ, เขมร, ลาว, มลายู, จีน, จาม, อินเดีย, อิหร่าน (เปอร์เซีย) ฯลฯ

บรรดาคนหลายชาติพันธุ์เหล่านี้มีจำนวนหนึ่งเป็นชาวสยามที่ต่อไปข้างหน้าเมื่ออยู่ในภาษาและวัฒนธรรมไทยจะกลายตนเป็นไทย

(1.) ชาวสยาม ประกอบด้วยคนหลากหลายชาติพันธุ์ และพูดหลายภาษา จึงเลือกภาษาไท-ไต เป็น “ภาษากลาง” ใช้พูดสื่อสารระหว่างชาติพันธุ์

(2.) ภาษาไท-ไต ที่เป็น “ภาษากลาง” ของคนหลายชาติพันธ์บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ผสมกับภาษานานาชาติ ได้แก่ ภาษาบาลี-สันสกฤต (อินเดีย), ภาษาเปอร์เซีย (อิหร่าน), ภาษาจีน, ภาษามอญ, ภาษาเขมร, ภาษามลายู ฯลฯ ได้ถูกเรียกชื่อใหม่แบบภาษาบาลีว่า เทยฺย แล้วกลายคำว่าไทย ใช้เรียกภาษาไทย

(3.) ชาวสยามหลายชาติพันธุ์เคยพูดภาษาไท-ไต เป็นภาษากลางก็เปลี่ยนเป็นพูดภาษาไทย แล้วกลายตนเป็นคนไทย และถูกเรียกว่าคนไทย

คนไทยเริ่มแรก หมายถึงคนที่เรียกตนเองว่าไทย และถูกคนอื่นเรียกว่าไทย คนไทยกลุ่มเริ่มแรกมีในอโยธยา (เมืองต้นกำเนิดอยุธยา) เรือน พ.ศ. 1700 พบกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จเป็นภาษาไทย ตราขึ้นเมื่อ 115 ปีก่อนมีอยุธยา ตรงกับ พ.ศ. 1778

ต้นทางประเทศไทย คืออโยธยา เพราะเริ่มแรกมีคนไทย และเรียกประเทศว่าเมืองไทย ต่อจากนั้นอโยธยาสืบเนื่องเป็นกรุงศรีอยุธยา, กรุงธนบุรี, กรุงรัตนโกสินทร์-ประเทศไทย

ดังนั้น “ราชธานีแห่งแรกของไทย” (ถ้าอยากมี) คืออโยธยา (ไม่ใช่สุโขทัย) การศึกษาประวัติศาสตร์ไทยที่แท้จริงต้องพิทักษ์รักษาเมืองอโยธยาเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีที่จะสร้าง “มูลค่า” มหาศาลในอนาคต อย่าให้ถูกทำลาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image