เมื่อยิว…กลับเป็น‘ผู้ล่า’นาซี

เมื่อยิว…กลับเป็น‘ผู้ล่า’นาซี

ชนชาติยิว..ระทมทุกข์ ระเหเร่ร่อน มาหลายชั่วอายุคน ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์ตั้งหน่วยงานเพื่อล่าสังหารชาวยิว ทำลายกิจการค้า ธุรกิจ ขุดราก-ถอนโคน ชนชาติยิวในเยอรมนีแบบไม่ต้องเกรงใจมนุษย์หน้าไหนในโลก

เมื่อเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 หน่วย SS จอมโหด ตระเวนไปล่าสังหารชาวยิวในยุโรป มือสังหารในหน่วยนี้ แข่งกันสังหาร ปล้น ข่มขืน กรรโชกทรัพย์ ชาวยิว เพื่อรายงานท่านผู้นำฮิตเลอร์

การ “กำจัดยิวเป็นรายย่อย” ไม่ทันใจ เลยต้องหาวิธีจัดการ “สังหารหมู่” คือ จับเข้าห้องอบก๊าซพิษในค่ายเอาชวิทซ์ ในโปแลนด์

Advertisement

ทั้งวันทั้งคืน เตาอบก๊าซพิษทำงานไม่หยุด ปลิดชีพชาย หญิง เด็ก แล้วลากศพออกมาทิ้งที่ปลายอุโมงค์ ควันดำมืด กลิ่นเหม็นจากปล่องไฟของเตาเผาลอยขึ้นไปในอากาศดำทะมึน ยิวนับแสน นับล้านคน แทบไม่มีใครรอดไปได้

(ผู้เขียนเกรงว่าจะผิดจรรยาบรรณที่จะบรรยายด้วยตัวอักษร ขอให้ผู้อ่านค้นหาจากทางสื่อโซเชียล…ใช้คำว่า Holocaust)

รถตักดินมาโกยศพไปทิ้ง ใช้แรงงานชาวยิวด้วยกันเป็นผู้ดำเนินการ นำร่างของพี่-น้อง ร่วมสายโลหิต ไปทำลาย ฝังกลบ เผา วันแล้ว วันเล่า นาซีที่อยู่ต่างเมือง มีหน้าที่กวาดจับ ไล่ล่าชาวยิว จับบรรทุกใส่รถไฟที่เกือบจะเป็นห้องมืด ลำเลียงชาวยิวไปเข้าค่ายสังหาร

Advertisement

(องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 27 ม.ค.ของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล ที่ชาวยิวราว 6 ล้านคน และผู้บริสุทธิ์อีก 5 ล้านคน ตกเป็นเหยื่อของการสังหารอย่างเป็นระบบโดยนาซี … พ.ศ.2563 นายชโลโม เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานว่า ประชาชน 1.5 ล้านคน ถูกสังหารในค่ายนรกเอาชวิทซ์ ในจำนวนนี้เป็นชาวยิว 1.1 ล้านคน)

มีค่ายสังหารหลายค่าย ทั้งในเยอรมนีและในยุโรปที่เยอรมนีไปยึดครอง เป็นประวัติศาสตร์ที่
ชาวโลก “ขยะแขยง”

กองทัพของเผด็จการฮิตเลอร์ ทำศึกสงคราม บุกตะลุยดินแดนในทวีปยุโรปแบบบ้าคลั่ง นาซีเยอรมัน เกือบจะได้ครอบครองยุโรป ยึดดินแดน ปล้นเอาทรัพย์สมบัติของเมืองต่างๆ ส่งกลับไปเยอรมนี

นาซี รู้ดีว่า ฮิตเลอร์ คลั่งไคล้ ใหลหลง โปรดปรานภาพวาดสีน้ำมัน ดังนั้น ภาพวาดโดยจิตรกรระดับโลกในพระราชวัง ในคฤหาสน์เศรษฐีในยุโรป ถูกบรรจุในกล่อง ลำเลียงไปสู่สายตาของฮิตเลอร์ ที่แสนจะปลื้มในผลงานของทหารหาญทั้งหลาย

(ก่อนเป็นทหาร ฮิตเลอร์ไปเรียนวาดรูปเพื่อจำหน่าย เพราะมีพรสวรรค์ เพื่อเลี้ยงชีพ หากแต่ไม่รุ่ง)

22 มิถุนายน 2484 ฮิตเลอร์…เกิดละโมบ ตะกละ คลั่งสงคราม ไปเปิดแนวรบใหม่ สั่งทหารนับแสนบุกเข้าสหภาพโซเวียต แบ่งเป็น 3 เส้นทาง เพื่อจะเข้ายึดกรุงมอสโก ทหารนาซีบางส่วนเข้าไปถึงกรุงมอสโก ในขณะที่กองทัพและชาวโซเวียตที่รักแผ่นดินเกิด ขอพลีชีพ สู้ยิบตา รบพลาง ถอยพลาง ในความหนาวหฤโหด

กองทัพนาซี…ไปเจอ “กลยุทธ์” หมีขาว “รบหน่วงเวลา” ลากยาวให้ถึงหน้าหนาว เด็กหนุ่มเยอรมันเกือบ 1 ล้านคน ต้องตายอย่างแสนทรมานในความหนาว ศพทหารนาซีเกลื่อนดินแดนโซเวียต กองทัพเยอรมันทรุดหนัก พลาดท่า “แพ้สงคราม” ในยุโรป

นาซีทำศึก พร้อมกับ กวาดจับ สังหารชาวยิวในทุกหนแห่ง

อเมริกาที่เฝ้าดูสงคราม รอจังหวะจะเข้าไปช่วยยุโรป

พ.ศ.2484 รัฐสภาสหรัฐ อนุมัติให้กลาโหม ส่งทหารนับแสนนายไปช่วย “กอบกู้ยุโรป” ที่กลายเป็นซาก

ชาวยิว นับล้านคนที่ไม่มีประเทศ ได้รับการช่วยเหลือจากอเมริกาและอังกฤษ ให้มาปักหลักอยู่
ณ ประเทศอิสราเอล ทุกวันนี้ …

(เป็นข้อมูลเสริมนะครับ ค่ายนรกเอาชวิทซ์ ที่คาดว่าปลิดชีพชาวยิวไปมากกว่า 1 ล้านคน ค่ายนรกแห่งนี้ได้รับการปลดปล่อยโดยกองกำลังรัสเซียเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488)

ผู้เขียนขอข้ามประเด็นเรื่อง “การตั้งดินแดน” ของอิสราเอล ที่เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก

หลังสงคราม ชาวยิวมุ่งติดตามหานาซี และทหารหน่วย SS

ชาวยิว ที่เกือบจะสิ้นเผ่าพันธุ์กระจายกันอยู่ในยุโรป และที่ทยอยกลับเข้าไปในดินแดนตนเอง …ขอตั้งตัวเป็น “ผู้ไล่ล่า” นาซีที่เคยก่อเวร กระทำทารุณกรรมชาวยิว เพื่อแก้แค้น-เอาคืน

ชาวยิวที่รอดตาย ที่หนีมาได้ ช่วยกันจัดทำบัญชีของทหารนาซีเอาไว้ได้บางส่วน สร้างข่ายติดต่อเพื่อสืบค้นหาตัวนาซี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก จะผ่าตัดเปลี่ยนรูปหน้า จะใช้เวลาเท่าใด…กูจะกัดไม่ปล่อย หากแต่ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่ก็เหนื่อยล้า

หลักการกว้างๆ คือ ชาวยิวแต่ละคน มีความรับผิดชอบ ต้องหาทางทำร้ายนาซีแต่ละคนเท่าที่ทำได้ กลุ่มนี้มีชื่อรหัสว่า นาคัม (Nakam) ซึ่งเป็นภาษาฮิบรูเป็นองค์กรลับเพื่อการแก้แค้น

พ.ศ.2488 หลังจากเยอรมันยอมแพ้สงคราม กระบวนการ “นาคัม” ขยับตัว โดยชาวยิวผู้รอดชีวิตประมาณ 50 คน แสวงหาวิธีการแก้แค้น นำโดยอับบา คอฟเนอร์ (Abba Kovner) สมาชิกจะหาทางสังหารอดีตนาซีเยอรมัน

เมื่อเยอรมันแพ้สงคราม กลุ่ม “นาซีระดับผู้นำ” เกือบทั้งหมดหนีตายออกจากยุโรป เพราะหาไม่จะต้องเจอกับคดีอาชญากรรมสงคราม มีหลายกลุ่มหลายองค์กรช่วยการหลบหนี

ในปี พ.ศ.2493 อดอล์ฟ ไอค์มันน์ เจ้าหน้าที่นาซี SS ที่รู้จักกันในนาม “สถาปนิกแห่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ได้หลบหนีออกจากยุโรปไปยังอาร์เจนตินา (ไกลโพ้นอยู่ในอเมริกาใต้)

พ.ศ.2503 และเขาถูกหน่วยข่าวกรองอิสราเอลเจอตัวและ “อุ้ม” กลับไปอิสราเอลสำเร็จ จอมโหดรายนี้ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีโดยถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อาชญากรสงครามรายนี้ ได้ช่วยให้ชาวโลกประจักษ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นกับชาวยิว

อาร์เจนตินา คือ แหล่งกบดานของบรรดานาซี

พวกนาซีบางส่วนหลบหนีเข้าไปเดนมาร์ก ต่อไปยังสวีเดน ปลายทางคืออาร์เจนตินา บางส่วนหลบหนีผ่านเข้าอิตาลีไปยังอาร์เจนตินาผ่านสเปน หรือผ่านทางโรมและเจนัว (ผ่านเส้นทางนครวาติกัน) จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาว

องค์กรของชาวยิว พิมพ์ชื่อ รูปร่าง หน้าตา แบบประกาศจับ แจกจ่ายไปทั่วเพื่อ “ไล่ล่า” มีขบวนการผลิตหนังสือเดินทางปลอม เอกสารปลอม เพื่อหนีเอาตัวรอดของนาซีทั้งหลาย

หน่วยข่าวกรองกองทัพสหรัฐ ก็เข้ามาทำงานช่วยเหลือให้ข้อมูลบางส่วนหลังสงคราม

หน่วย Mossad ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล ทำงานหนักตลอดเวลา เพื่อจะนำนาซีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ชาวยิวที่อยู่ในยุโรป อเมริกา และกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกที่มีฐานะ มีพลังในทางการเมือง ต่างเป็นหนึ่ง รวมตัว รวมพลังเงิน เพื่อการตามล่า

บุคคล 1 ที่ถูกตามล่าสุดขอบฟ้า คือ นายแพทย์ โจเซฟ รูดอล์ฟ เมนเกเล (Mengele) แพทย์ทหารในหน่วย SS เขาฉายา “เทวดาแห่งความตาย” เป็นสมาชิกคนหนึ่งของทีมแพทย์ที่จะเลือกเหยื่อที่จะถูกสังหารในห้องก๊าซ เป็น 1 ในแพทย์ที่ปล่อยก๊าซสังหารชาวยิว

จบการศึกษาแพทย์เมื่อ พ.ศ.2480 เข้าร่วมในกองทัพนาซี และหน่วย SS ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2

ต้นปี พ.ศ.2486 ไปประจำที่ค่ายเอาชวิทซ์ถือโอกาสเพื่อทำการวิจัยทางพันธุกรรมในมนุษย์ ทดลองยาชนิดต่างๆ การทรมานมนุษย์ด้วยวิธีการต่างๆ แบบสุดโหด ทดลองการสังหารด้วยวิธีต่างๆ ถือว่าเป็นฆาตกรตัวเป้ง ที่ชาวยิวต้องการมากที่สุด

หน่วยแพทย์ของ SS ในค่ายฯ มีหน้าที่คัดเลือกโดยแยกชาวยิวที่ถูกจับเข้ามาทางรถไฟ ผู้ที่คิดว่าสามารถทำงานหนักได้จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาในค่ายฯ ในขณะที่ผู้ที่ถือว่า “ไม่เหมาะ” กับการใช้แรงงานจะถูกสังหารทันทีในห้องรมก๊าซ

เมนเกเล เป็น 1 ในทีมแพทย์ที่จะกำหนดชะตาชีวิตชาวยิว

ประมาณ 3 ใน 4 ของชาวยิว รวมถึงเด็ก ผู้หญิง สตรีมีครรภ์ คนชรา จะถูกนำตัวไปห้องรมก๊าซ

หลังสงคราม หมอทหารคนนี้เผ่นหนีไปอาร์เจนตินา โดยได้รับความช่วยเหลือจาก เครือข่ายของอดีตสมาชิก SS เขาไปอาศัยอยู่รอบๆ กรุงบัวโนสไอเรส ต่อมาหนีไปประเทศปารากวัย หนีต่อไปบราซิล

นักล่าจากอิสราเอล ทุ่มเท ควานหาล่าตัวเพื่อจะเอาไปขึ้นศาล แต่เขาก็รอดการจับกุมไปได้ทุกครั้ง

พ.ศ.2522 มีรายงานว่าเขาเสียชีวิตขณะว่ายน้ำ ศพถูกนำไปฝัง

หน่วยข่าวของอิสราเอล “ไม่เชื่อ” ว่าเป็นนายแพทย์เมนเกเล

31 พฤษภาคม พ.ศ.2528 สำนักงานอัยการเยอรมันตะวันตก และตำรวจได้บุกเข้าไปใน
บ้านของเพื่อนสนิทของเมนเกเล พบหลักฐานอีกมาก เพื่อนสนิทยอมเปิดเผยตำแหน่งของหลุมศพของหมอทหาร

6 มิถุนายน พ.ศ.2528 จากการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ อย่างละเอียด บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นศพของเมนเกเล (ในเวลานั้น ระบบการตรวจ DNA ยังไม่ทันสมัย)

ยิว…ยังไม่ลดละในการตรวจสอบ

พ.ศ.2535 มีการตรวจ DNA อีกครั้ง ยืนยันตัวว่าเป็นศพของหมอเมนเกเลอย่างไม่ต้องสงสัย เขาใช้ชื่อปลอม เอกสารปลอมมาตลอดในการหลบหนีในหลายประเทศ เป็นข่าวครึกโครมระดับโลกที่แสดงถึงฝีมือการไล่ล่าของหน่วยข่าวอิสราเอล

วันเวลาผ่านไปกว่า 80 ปี ถึงแม้วายร้ายจะแก่เฒ่า ยิวยังตามหา สืบค้นฆาตกรกันอีกหลายคน นาซีจำนวนมากไปผ่าตัดแปลงโฉม รอดตัวบ้าง ถูกรวบตัวบ้าง เป็นข่าวต่อเนื่องเสมอมา

ลองค้นหาข้อมูลจากสารคดีจากสื่อโซเชียลเพิ่มเติมนะครับ…

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image