พยัคฆ์ซ่อน มังกรซุ่ม : หนังสือ หานซิ่น กำลัง‘ตน’ กำลัง‘ท่าน’ ลึกซึ้ง ในการศึก

พยัคฆ์ซ่อน มังกรซุ่ม : หนังสือ หานซิ่น กำลัง‘ตน’ กำลัง‘ท่าน’ ลึกซึ้ง ในการศึก

คนที่มองเห็นรูปสุวรรณอันซ่อนอยู่ภายในของหานซิ่นเป็นคนแรกมิใช่จางเหลียง หากแต่เป็นฟานเจิง
ฟานเจิงซึ่งเป็น “ที่ปรึกษา” ของเซี่ยงหวี่ ฌ้อปาอ๋อง
ใครที่ได้อ่าน “ไซ่ฮั่น” ย่อมพบกับข้อเสนอของฟานเขิงข้อหนึ่งแด่ฌ้อปาอ๋องแจ่มแจ้ง
“หานซิ่นเป็นคนดีมีปัญญาแต่ยังหาได้ตั้งแต่งขึ้นไม่
ขอให้เลี้ยงหานซิ่นเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ถ้าพระองค์จะไม่เลี้ยงขอให้จับฆ่าเสีย ถ้าละไว้เห็นหานซิ่นจะไปอยู่เมืองอื่นภายหลังจะเป็นเสี้ยนศัตรู”
เป็นข้อเสนออันมาพร้อมกับให้เฝ้าระวัง “เล่าปัง” ทุกฝีก้าว
มีเพียงแต่ฟานเจิงเท่านั้นที่มองแต่ละจังหวะก้าวของเล่าปังได้แจ้งแทงตลอด มีเพียงแต่ฟานเจิงเท่านั้นที่มองเส้นทางข้างหน้าของหานซิ่นได้แจ้งแทงตลอด
เพียงแต่ข้อเสนอนี้ฌ้อปาอ๋องกึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อ
น่าสังเกตว่าจางเหลียงแม้ว่าจะได้ “อนุศาสน์” จากตำรากลศึกเจียงไท่กงอันหวงสือกงมอบและถ่ายทอดให้ แต่ในเบื้องต้นก็ยังไม่แจ้งในรูปสุวรรณอันซ่อนอยู่ภายในตัวของหานซิ่น
กล่าวสำหรับหานซิ่นเองเป้าหมายของเขาเริ่มต้นที่เซี่ยงหวี่ เริ่มที่ฌ้อปาอ๋อง เห็นได้จากหนังสือของหานซิ่น
ต้องอ่าน

ข้าพเจ้า หานซิ่น ขอกราบเรียน จงจู๊หลง ให้เอาหนังสือข้าพเจ้าขึ้นกราบทูล พระเจ้าฌ้อปาอ๋อง ให้ทราบ
ประเพณีกษัตริย์พระองค์ใดเป็นใหญ่
ทำศึกรักษาแผ่นดิน จงพิเคราะห์ดูให้รู้การรอบคอบ ต้องกับตำรับคัมภีร์พิชัยสงคราม
ควรจะยกจึงเคลื่อนพล ดูกำลังตนกำลังท่าน อย่าห้าวหาญถือกำลังแต่ผู้เดียว
ถ้าข้าศึกฝีมืออ่อนแอ แต่กำลังศึกกล้า อย่าเพ่อเข้าโจมตี ดูทีทำนองศึกก่อน ถ้าเห็นทัพใดไม่ปกติ จึงทำ
บัดนี้ ไต้อ๋องก็ถือพระองค์ว่ามีกำลังมาก ได้ครองสมบัติในเมืองหลวง
หัวเมืองขึ้นทั้งปวงแลอาณาประชาราษฎร์ยังมิได้อ่อนน้อม กระด้างกระเดื่องอยู่มากนัก ถ้ากำลังย่อหย่อนลงจะรักษาแผ่นดินต่อไปไม่ได้ตลอด
ข้าพเจ้ามีความวิตก
ด้วยเล่าปังซึ่งมีรับสั่งให้ไปตั้งอยู่เมืองโปต๋งนั้น แต่ก่อนไม่ซื่อตรง เป็นคนโลภ มักเล่นแต่สตรีเป็นอัตรา เที่ยวเสพสุราเป็นนิตย์ บัดนี้กลับตัวได้ คิดแปลงกฎหมายบ้านเมืองเสียใหม่ ตรองการแต่จะให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินได้ความสุขไป
เพราะใคร่จะเป็นเจ้าเมืองหลวง

ถึงสมบัติและบรรดาเมืองทั้งปวงที่อยู่ในไต้อ๋องถ้าบำรุงแผ่นดินต้องตามกษัตริย์แต่ก่อนอันครองยุติธรรม
ก็จะค่อยเป็นสุข
ถ้าจะฆ่าผู้คนและฟังคำยุยง มีอาญาเหมือนจิ๋นซีฮ่องเต้นั้น ไม่ควร
ทุกวันนี้คนทั้งปวงก็มีใจเจ็บแค้นเป็นอันมากว่าฆ่าซืออิงซึ่งเป็นซาซีฮอง
เต้ แลขุดศพ แลเผาตำหนักอาฝางจงเสีย หัวเมืองทั้งนั้นหันไปเข้าด้วยฮั่นอ๋อง ทหารข้าศึกก็จะมากขึ้น
ซึ่งจะให้เผาหนทางจั่นโต๋เสียนั้นโดยความคิดจะให้ประมาท
อนึ่ง ด่านจงกวนก็หามั่นคงไม่พระองค์ให้ฮั่นอ๋องไปครั้งนี้เหมือนหนึ่งให้ไปหัดทหาร ฝึกเพลงอาวุธ จะกลับมาตีชิงสมบัติเป็นมั่นคง
อันทหารของพระองค์ซึ่งยังอยู่นี้รู้แต่จะรบมิได้มีปัญหา ดีแต่ปากกล้า คอยพูดข้างนอกมิอาจออกทูลทัดทานพระองค์ได้
ขออย่าได้ประมาทพระทัยว่ามิได้มีผู้ใดเสมอ

Advertisement

จงให้หัดทหารที่มีฝีมือแลความคิดไปรักษาด่านจงกวนไว้ให้ตัวจังหาน ตั้งยี่ สุมาหิน เข้ามาไว้ในเมือง
แลให้ทหารไปรับบิดาแลพรรคพวกบุตรภรรยาฮั่นอ๋องมาคุมไว้
คิดแต่งทหารไปกับหัวเมืองทั้งปวงดูแยบคาบ จงจัดทหารคนมีสติปัญญากล้าแข็งสัก 2 คนมาตั้งเป็นที่ไจเสี่ยง
สำหรับว่าการในพระนครคนหนึ่ง
คนหนึ่งเป็นไต้เจียงกุน แม่ทัพจะได้ฝึกทหารไว้ปราบหัวเมืองทั้งปวง
เหมือนอย่างพระเจ้าบู๊อ๋องครองแผ่นดิน ตั๊วก๊กจิว

น่าสนใจว่าไม่เพียงแต่ฟางเจิงจะมองเห็นรูปสุวรรณที่ซ่อนอยู่ชั้นในตัวของหานซิ่น หากหานซิ่นเองก็ฝากความหวังไว้กับฌ้อปาอ๋อง
ทั้งยังมอง “เป้าหมาย” ของเล่าปัง ฮั่นอ๋องทะลุปรุโปร่ง
จะว่าเป็นความไม่ใส่ใจของฌ้อปาอ๋องก็เป็นได้ที่เมินข้อเสนอแนะอันมาจากฟานเจิง
ขณะเดียวกัน ก็มองไม่เห็นตัวตนอย่างแท้จริงของหานซิ่น
หนังสือของหานซิ่นที่กราบทูลด้วยความมุ่งมาดปรารถนาดี จึงไม่ได้รับความสนใจจากฌ้อปาอ๋อง
แต่หนังสือนี้เซี่ยงป๋อได้พบ

เซี่ยงป๋อกับจางเหลียงเป็น “สหาย” คบหาอย่างชนิดรู้ใจกันมาอย่างยาวนาน หากใครติดตามงานเลี้ยงที่หงเหมินก็จะได้คำตอบแจ่มชัด
เพ่ยกง เล่าปัง รอดจากคมหอกเพราะใคร
และใครในที่นี้ย่อมเป็นเซี่ยงป๋อที่รุดไปหาจางเหลียงด้วยความห่วงหาอาทรเพราะต้องการรักษาชีวิตของจางเหลียง
อานิสงส์จึงตกเป็นผลดีต่อเล่าปัง
เมื่อหนังสือของหานซิ่นอยู่ในมือของเซี่ยงป๋อก็เท่ากับตกอยู่ในมือของจางเหลียงไปด้วยเพราะจางเหลียงก็อาศัยหลบซ่อนอยู่ในเรือนของเซี่ยงป๋อ
การพลิกเปลี่ยนของสถานการณ์จึงอยู่ห้วงยามนี้

Advertisement

ฝ่ายจางเหลียงครั้นได้อ่านหนังสือของหานซิ่นแล้วก็ตกใจ คิดว่าถ้าฌ้อปาอ๋องเชื่อและทำเหมือนหนังสือนี้
ไฉนฮั่นอ๋องจะทำการใหญ่ได้ก็จะตายอยู่ ณ เมืองโปต๋ง
จึงนึกว่าหนังสือฉบับนี้ลึกซึ้งยากที่จะรู้ความคิด หานซิ่นเปรียบเสมือนเกียงจูแหยทหารเอกของพระเจ้าบู๊อ๋อง ถ้ามีดังนั้นก็อุปมาเหมือนอิอิ๋นครั้งแผ่นดินเสียงถาง
2 คนนี้เป็นแม่ทัพปราบยุคเข็ญ
หานซิ่นก็เป็นผู้มีสติปัญญาหาผู้เสมอมิได้ ถ้าเราได้พบจะเกลี้ยกล่อมให้อยู่ด้วยฮั่นอ๋องครั้นแล้วก็เรียงหนังสือลงไว้ดังเก่า
เมื่อเซี่ยงป๋อกลับมาก็เชิญไปสนทนากันบนตึกกลางสวน
จางเหลียงจึงถามว่า “หนังสือนี้ผู้ใดให้มา”
“หนังสือของ 6 หัวเมืองใหญ่ให้มาถึงพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง” เป็นคำตอบจากเซี่ยงป๋อ
จางเหลียงก็ทำเป็นเรียงหนังสือต่อไปและเมื่อเห็นหนังสือหานซิ่นฉบับนั้นจึงถามขึ้นว่า
“นี่เป็นของผู้ใดเล่า”

เซี่ยงป๋อจึงบอกว่า “เป็นของผู้มีสติปัญญาอยู่บ้านไหวอินชื่อหานซิ่น เดิมเป็นคนจนเที่ยวขอทาน ไม่มีผู้ใดนับถือ แต่ท่านฟานเจิงรู้ว่าเป็นคนดีจึงทูลพระเจ้าฌ้อปาอ๋องให้เลี้ยงเป็นขุนนาง
ผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ไม่ตั้งตามคำฟานเจิง ให้เป็นแค่จิบเก๊กหนึ่ง คนถือทวนสำหรับแห่
แต่เตือนสติในการฝึกหลายหนก็มิได้เชื่อจึงทำหนังสือฉบับนี้ถวายพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง พระเจ้าฌ้อปาอ๋องเคืองพระทัยฉีกหนังสือทิ้งลงไว้แล้วให้เอาไปฆ่าเสีย ข้าพเจ้าขอโทษไว้จึงไม่ตาย
เราเสียดายความคิด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image