ที่มา | คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สมหมาย ปาริจฉัตต์ |
เผยแพร่ |
ยังให้กำลังใจในความพยายามของ คสช. เกี่ยวกับเรื่องปรองดองอยู่
เพียงแต่…น่าจะเหนื่อยหนัก
เหตุที่เหนื่อยเพราะ “ความเชื่อ” กับ “ความจริง” ที่เป็นอยู่นั้นต่างกัน
อาทิ ฝ่ายทหารเชื่อว่าพวกเขาเป็น “กรรมการ” ที่ผ่านมาไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร
ทหารจึงไม่ใช่ “คู่ขัดแย้ง”
นั่นเป็นความเชื่อที่ฝ่าย คสช.คิด
แต่ในความเป็นจริง ตัวแทนของพรรคเพื่อไทยได้ทยอยออกมาแล้วว่า ฝ่ายทหารคือคู่ขัดแย้ง
คู่ขัดแย้งกับฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย
พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้เจ้าภาพในการสร้างความปรองดองเป็น “กลาง”
โอ้ ในสังคมนี้ยังมีใครที่คงความเป็นกลางอยู่อีกไหม?
วกกลับมาประเด็นการสร้างความปรองดอง ที่แต่เดิมคิดว่าจะเริ่มกันที่นิรโทษกรรม
แต่ด้วยท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯแล้ว
สรุปว่า ไม่ใช่!
นายสุวิทย์มองว่าการแก้ไขปัญหาที่จะนำไปสู่ความปรองดองคือการลดความเหลื่อมล้ำ
ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจนั้นยังพอบรรเทาได้ แต่ความเหลื่อมล้ำทางการเมืองและสิทธิเสรีภาพนี่สิ…จะแก้ไขอย่างไร
ทั้งนี้ เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ในมาตรา 35 ได้ตีกรอบการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคือร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์
มาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวบัญญัติขึ้นมาด้วยกรอบความคิดกลัว “เสียของ”
กรอบความคิดที่กลัว “เสียของ” เพราะกลัวประชาชนจะเลือก ทักษิณ ชินวัตร หรือพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีก
กลัวว่าหากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีก จะทำให้ประเทศชาติเป็นนั่นเป็นนี่ บลา บลา บลา
ผลที่ตามมาคือการตั้งกลไกจากการแต่งตั้งมาคานเลือกตั้ง
ใช้ตัวแทนกลุ่มคนเล็กมาคานตัวแทนของกลุ่มคนใหญ่ๆ ภายใต้สโลแกน “ไม่ผิดแล้วจะกลัวอะไร”
ผลที่ออกมาแบบนี้…จะแก้เหลื่อมล้ำอย่างไร?
นี่แค่ร่างรัฐธรรมนูญนะ ยังไม่มีใครรู้ว่าการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ใหม่จะเป็นอย่างไร
ยังไม่รู้ว่ากฎหมายที่ สนช.ผ่านแล้วนั้น มีฉบับไหนที่ “เหลื่อมล้ำ” บ้าง
หากมี แล้วพบในภายหลัง จะยิ่งกลายเป็นปัญหาหนักเข้าไปอีก
ทั้งหมดนี้แค่อยากจะสะท้อนปัญหาของการปรองดอง
ปัญหาแค่ว่า จะเริ่มต้นที่ไหนยังมืดมน
แต่ทุกปัญหาใช่ว่าจะไม่มีทางออก เพราะก่อนหน้านี้เรามีคณะทำงานศึกษากระบวนการปรองดองกันมาแล้ว
ทั้งชุดของ นายดิเรก ถึงฝั่ง ทั้งชุดของ นายคณิต ณ นคร ทั้งผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า เป็นต้น
แต่ละชุดแต่ละฉบับมีการนำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขครบถ้วน
เพียงแต่…ยังทำไม่สำเร็จ
สาเหตุหนึ่งที่ทำไม่สำเร็จเป็นเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
ที่ผ่านมาเมื่อเริ่มก็ร่วงผล็อยลงไปทันที
คราวนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เริ่มต้นใหม่
ต้นกุมภาพันธ์ดีเดย์ลุยกันแล้ว
ขอสารภาพว่า…จนถึงบัดนี้ยังมองไม่เห็นหนทางปรองดอง
ยังไม่พบสัญญาณใดๆ ที่บ่งบอกออกมาว่า…ยอมถอย
ทั้ง 2 ขั้วยังมีไฟลุกโชน…พร้อมจะเผชิญหน้ากันต่อไป