หน่วยบัญชาการอวกาศสหรัฐ

หน่วยบัญชาการอวกาศสหรัฐ

หลายร้อยปีก่อน ความเป็นมหาอำนาจวัดกันด้วย “เรือปืน” ที่สยามประเทศก็เคยโดนข่มขู่จากฝรั่งเศส ต้องเสียค่าปรับแทบสิ้นเนื้อประดาตัว

พลเรือตรี อัลเฟรด เธเยอร์ มาฮาน (Rear Admiral Alfred Thayer Mahan) เสนอแนวคิดครั้งแรกผ่านหนังสือ The influence of Sea Power upon History 1660-1973 ซึ่งมาฮานนั้นเป็นนักยุทธศาสตร์ทางเรือผู้มีชื่อเสียง

สรุปเป็นทฤษฎีสมุททานุภาพ เปรียบเทียบขีดความสามารถของสหรัฐในการเป็นชาติมหาอำนาจทางทะเล ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับมหาอำนาจอังกฤษ

Advertisement

แก่นสาระของ “สมุททานุภาพ” ถือหลักสำคัญว่า มหาอำนาจทางทะเลจะเหนือกว่ามหาอำนาจทางบกในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitic) ซึ่งในทฤษฎีนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริงและผ่านการพิสูจน์จากสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง

สงคราม ที่มนุษย์ประหัตประหารกันมาตลอด ปัจจุบันมีอากาศยานขนาดยักษ์นำรถถังขึ้นไปลอยบนฟ้าได้ หากแต่การส่งกำลังบำรุงที่ต่อเนื่องที่ยืดเยื้อ อาวุธ กระสุน อาหาร น้ำมัน ยังคงใช้เรือเดินทะเลเป็นหลัก

ตามทฤษฎีของมาฮาน เรือยังสามารถขยายอำนาจจากทะเลขึ้นสู่ฝั่ง (Power Projection Ashore) ได้คล้ายกับการขยายอำนาจของกำลังทางบก แต่ทฤษฎีนี้ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว

Advertisement

ดินแดนที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ สถานีการค้าโพ้นทะเล ก่อตั้งระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 เจริญถึงขีดสุด จักรวรรดิบริติชเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นมหาอำนาจโลกชั้นแนวหน้านานกว่า 1 ศตวรรษ

อิทธิพลของอังกฤษที่ขยายตัวออกไปทางทะเล กลายเป็นมรดกทางการเมือง กฎหมาย ภาษาและวัฒนธรรม สำหรับมนุษย์ค่อนโลก

วลีที่ยกย่องอังกฤษ คือ “จักรวรรดิที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน” เพราะดินแดนที่มีอยู่ทั่วโลกทำให้ดวงอาทิตย์ยังส่องแสงอยู่ในดินแดนใต้ปกครองอย่างน้อยที่สุดหนึ่งแห่งตลอดเวลา

มนุษยชาติไม่เคยหยุดการแข่งขัน

สหภาพโซเวียตมีนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เป็นรองใครในโลก มีการทดลอง วิศวกรเก็บข้อมูลด้านอวกาศสะสมต่อเนื่อง

พ.ศ.2473 หลังประสบความสำเร็จในการทดลองตลอดมา รวมถึงการทดลองส่งสุนัข ชื่อ ไลก้า (Laika) ไปท่องอวกาศ วิศวกรโซเวียตเปิดรับอาสาสมัครที่จะขึ้นไปในอวกาศ ยอดมนุษย์ผู้ที่ผ่านการทดสอบ คือ ยูริ กาการิน ที่มีประสบการณ์ในกองทัพอากาศโซเวียตมา มาเป็นนักบินอวกาศคนแรกของโลก

12 เมษายน พ.ศ.2504 ยานวอสตอค 1 (Vostok 1) ถูกปล่อยจากฐานยิงเมื่อเวลา 09.07 น.
และโคจรรอบโลก 1 รอบ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 29 นาที ที่ระดับความสูงมากที่สุด 187 ไมล์ (301 กิโลเมตร) แล้วลงจอดอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 10.55 น.

ถือว่าสหภาพโซเวียตเป็นชาติแรกในโลกที่ส่งมนุษย์ขึ้นไปอวกาศโคจรรอบโลกเป็นผลสำเร็จ ในขณะที่อเมริกายังเพิ่งเริ่ม

ประธานาธิบดีหนุ่มหล่อของสหรัฐ ชื่อเคนเนดี้ ประกาศต่อชาวโลกว่า อเมริกาจะส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์เป็นชาติแรก

20 กรกฎาคม พ.ศ.2512 อเมริกาทำได้จริง นีล อาร์มสตรอง นักบินหนุ่มหล่อชาวอเมริกัน
เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้เหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ด้วยยานอะพอลโล 11

กิจการอวกาศของประเทศต่างๆ มีพัฒนาการ แข่งขันกัน ไม่มีใครยอมใคร เพราะในอวกาศไม่มีใครเป็นเจ้าของ ระบบการติดต่อสื่อสารของมนุษย์ใช้ดาวเทียมบนท้องฟ้าเป็นตัวกระจาย แพร่สัญญาณ

ดาวเทียมเพื่อการติดต่อสื่อสาร แปลงภารกิจเป็นดาวเทียมจารกรรม ถ่ายภาพจากนอกโลก สืบสภาพของดินแดนทุกแห่งที่ต้องการ ไม่ช้าไม่นาน การทำงานเชิงพาณิชย์เพื่อการส่งดาวเทียมไปในอวกาศก็กลายเป็นเรื่องไม่ยากนักถ้ามีเงินลงทุน

พ.ศ.2499 สหรัฐเปิดตัวเครื่องบินสอดแนม U-2 เพื่อการสอดแนม เพดานบินอยู่ที่ 24,000 เมตร (80,000 ฟุต) ที่พ้นจากการยิงของกองทัพโซเวียต ขีปนาวุธยิงไม่ถึง เรดาร์ตรวจจับไม่ได้

พ.ศ.2503 เครื่องบินสอดแนม U-2 ของสหรัฐ ถูกยิงตกโดยขีปนาวุธพื้น สู่อากาศ S-75 Dvina (SA-2 Guideline) ของกองกำลังป้องกันทางอากาศ โซเวียต ขณะทำการถ่ายภาพการลาดตระเวนทางอากาศลึกเข้าไปในดินแดนโซเวียต

สงครามอ่าวเปอร์เซีย ถือได้ว่าเป็น “สงครามอวกาศ” ครั้งแรก

สมัยแรก ดาวเทียมมีขนาดใหญ่ ปัจจุบันขนาดเล็ก มีขีดความสามารถสูง คาดว่าดาวเทียมโคจรรอบโลกมีประมาณ 3,000 ดวง มีองค์กรในการจัดระเบียบดาวเทียมที่ชัดเจน

ดาวเทียมถูกพัฒนาให้มีขีดความสามารถของการปฏิบัติการรบทางอวกาศ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงจากพื้นเพื่อเข้าวงโคจรในอวกาศ โดยใช้แรงโน้มถ่วงของโลกในการเคลื่อนที่ ซึ่งทำให้ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเชื้อเพลิงและระยะการใช้อาวุธ (Range) โดยหลายประเทศพัฒนาขีปนาวุธระยะกลางและระยะไกลที่มีประสิทธิภาพสูง ตลอดจนขีปนาวุธข้ามทวีปที่มีประสิทธิภาพสูงและแม่นยำ

ขีปนาวุธแบบ RS-28 Sarmat (Satan 2) ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ที่พัฒนาเสร็จสิ้นแล้วโดยรัสเซีย สามารถยิงขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศ ทำให้มีรัศมีการปฏิบัติการมากกว่า 10,000 กิโลเมตร มีความเร็วมากกว่า 20 เท่าของความเร็วเสียง มีความแม่นยำสูง โดยหัวรบสามารถแยกตัวออกเป็นกว่า 15 ชิ้น เพื่อโจมตีเป้าหมายแต่ละที่

เหตุการณ์ 9/11 เครื่องบินผู้ก่อการร้ายนำเครื่องบินชนตึกแฝดในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นจุดเปลี่ยนการทำสงคราม

การทำสงครามยุคดิจิทัล ดาวเทียม คือ องค์ประกอบที่สำคัญยิ่ง

29 สิงหาคม พ.ศ.2562 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ไปเปิดกองบัญชาการอวกาศ (US Space Command) อย่างเป็นทางการ เพื่อตอบสนองต่อทุกฝ่าย ทุกกลุ่มที่มีแนวโน้มจะเป็นภัยคุกคามทางอวกาศต่อสหรัฐ

ภารกิจส่วนใหญ่เป็นความลับ มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องออกมาให้สาธารณชนรับรู้น้อยมาก มีภารกิจแบบพื้นๆ คือ ในการดำรงขีดความสามารถด้านอวกาศ เช่น การใช้ GPS ในการช่วยเดินอากาศ เพื่อการสื่อสาร ติดตามแนวโน้มของฝ่ายตรงข้ามและการป้องกันดาวเทียมของสหรัฐในกรณีที่ถูกโจมตี

หมายความว่า ดาวเทียมด้วยกันเองก็โจมตีทำลายกันเองได้ หน่วยงานนี้มีหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ ประดุจยามในอวกาศ

กองบัญชาการอวกาศไม่ใช่กองกำลังทางอวกาศ ทรัมป์แถลงว่า การจัดตั้งกองทัพอวกาศขึ้นใหม่เพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐในอวกาศ” …กองบัญชาการอวกาศ ไม่ใช่กองทัพอวกาศ มันมีความแตกต่างกันระหว่างกองบัญชาการอวกาศและกองทัพอากาศ โดยกองบัญชาการอวกาศนั้นมีภารกิจในการเตรียมปฏิบัติการทางทหารทั้งปวงในอวกาศ และได้รับการสนับสนุนโดยกองทัพอื่นๆ โดยมาจากกองทัพอากาศเป็นหลัก

กองบัญชาการอวกาศสหรัฐ เป็น 1 ใน 11 กองบัญชาการ มีตัวตน มีศักยภาพ อานุภาพ ทำให้การตัดสินใจแม่นยำ สำหรับการปฏิบัติการอวกาศ (การทำสงคราม) ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับอำนาจกำลังรบในอากาศ บนพื้นดิน ในทะเล แม้กระทั่งใต้ทะเล

มีสำนักงานใหญ่ชั่วคราวที่ฐานทัพอากาศ Peterson รัฐโคโลราโด พร้อมด้วยบุคลากรและหน้าที่เพิ่มเติมที่ฐานทัพอากาศ Schriever รัฐโคโลราโด ฐานทัพอากาศ Offutt รัฐเนแบรสกา และฐานทัพอากาศ Vandenberg แคลิฟอร์เนีย

อำนาจ หน้าที่ อเมริกาก็มิได้ปิดบังอะไร บอกโต้งๆ ว่า เมื่อมีการสู้รบในอวกาศ เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันของสหรัฐและพันธมิตร ส่งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพ เพื่อเพิ่มความพร้อมในการสู้รบในอวกาศและการทำลายล้าง ขณะเดียวกันก็เร่งการบูรณาการขีดความสามารถด้านอวกาศเข้ากับกองกำลังรบอื่นๆ

กำลังพล ประกอบด้วย ทหาร ลูกจ้างพลเรือน และบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษ จะมีการตรวจสอบประวัติของกำลังพลอย่างเข้มงวด

มาถึงสมัยของประธานาธิบดีไบเดน มีการทบทวนที่ตั้งกองบัญชาการ โดยให้ไปตั้งที่ Redstone Arsenal ในฮันต์สวิลล์ รัฐแอละแบมา

สงครามที่กำลังรบกันดุเดือดในรัสเซีย-ยูเครน อิสราเอล-ฮามาส ความตึงเครียดบริเวณช่องแคบไต้หวัน สถานการณ์ในทะเลจีน รวมถึงหลายพื้นที่ในโลก มีการเฝ้ามอง จ้องดู โดยเครื่องมือในอวกาศ มิใช่จากอเมริกาเท่านั้น มหาอำนาจทั้งหลายมีดาวเทียมของตัวเอง ติดตามได้แม้กระทั่งเสียงพูด ใบหน้า

จรวด ขีปนาวุธ โดรน ของทุกฝ่ายบินว่อนทั่วฟ้า มีโดรนทำลายโดรน มีจรวดพุ่งขึ้นไปทำลายจรวด ทำลายอากาศยาน แม้กระทั่งสงครามในเมียนมาเพื่อนบ้าน ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลใช้จรวดยิงเครื่องบินรบของทหารพม่าตกแล้วหลายลำ

การสู้รบในอวกาศที่เป็นภาพยนตร์สมัยก่อนเพื่อความบันเทิง…บัดนี้กลายเป็นเรื่องจริงซะแล้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image