สูตรปรองดอง โดยวรศักดิ์ ประยูรศุข

แฟ้มภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ปฏิเสธใช้แนวทาง 66/23 ในการปรองดอง

ด้วยเหตุผลว่า เป็นคนละเรื่องกัน

คำสั่ง 66/2523 ออกมาในยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ โดยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้ผลักดัน

สถานการณ์ตอนนั้น เป็นผลต่อเนื่องจาก 6 ตุลาฯ 2519 ที่มีการสังหารนักศึกษาประชาชนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตามมาด้วยการรัฐประหาร โดยคณะปฏิรูปการปกครองฯ ในเย็นวันเดียวกัน

Advertisement

ส่วนหนึ่งถูกจับกุมคุมขัง อีกจำนวนหนึ่งเข้าป่าจร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย สู้กับรัฐบาล

ปี พ.ศ.2521 รัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมนิสิตนักศึกษาที่ถูกจับกุมจากเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ

การสู้รบตามป่าเขายังดำเนินต่อไป รัฐบาล พล.อ.เปรม ซึ่งเข้าทำหน้าที่ต่อจาก พล.อ.เกรียงศักดิ์ ออกคำสั่ง 66/23 ในปี 2523

Advertisement

เปิดทางให้ผู้เข้าร่วมกับ พคท.กลับถิ่นฐาน กลัเมือง มาเรียนต่อ ทำอาชีพ ที่เรียกว่ามาร่วมพัฒนาชาติไทย

รายละเอียดเหตุการณ์ของปี 2523 กับ 2560 มีความต่างกันอยู่จริง

แต่ข้อเสนอของ สปท.ให้เอา “หลักการ” หรือแนวคิดของคำสั่งดังกล่าวมาใช้ ใช่ว่าจะยกมาทั้งดุ้น

หากให้นำแนวทางการเมืองนำการทหาร ในคำสั่งที่ว่ามาใช้

ในครั้งนั้น แทนที่จะรบกันนับศพไปเรื่อยๆ ก็ใช้คำสั่งนี้ วางปืน ตั้งวงคุยกันด้วยภาษาไทยว่า จะอยู่ร่วมกันยังไงดี

สาระสำคัญคือ การให้โอกาส การให้อภัย

ผลคือ รัฐบาล พล.อ.เปรมได้ชัยชนะโดยไม่ต้องสู้รบ สงครามระหว่างคนไทยยุติ

กลายเป็นโมเดลสร้างความสุขสงบที่มักนำมากล่าวถึงกันบ่อยๆ

พล.อ.ชวลิต หรือบิ๊กจิ๋ว ต่อมาเป็น ผบ.ทบ. ตั้งพรรค ลงเลือกตั้ง ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2540

แต่เมื่อรัฐบาลนี้เห็นว่า สภาพปัญหาของปี 2560 ต่างจากเมื่อปี 2523 ก็ต้องมาจินตนาการกันใหม่ว่า “ปรองดอง” ที่รัฐบาลกำลังมุ่งไปนั้นจะอยู่ตรงไหน

ประเด็นหนึ่งคือ รัฐบาลและ คสช.พูดหลายครั้งว่าการปรองดองจะไม่มีการนิรโทษกรรม หรือมาตรการทำนองเดียวกัน

ทำให้เห็น “ขอบเขต” ของการปรองดองชัดเจนขึ้น

โครงการปรองดอง คงมุ่งไปที่การให้นักการเมือง พรรคการเมือง มาร่วมเสวนา เซ็นชื่อในบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยูสงบศึกกัน

เพราะรัฐบาลเห็นว่า นักการเมือง พรรคการเมือง เป็น “คู่ขัดแย้ง” สำคัญ ท่ามกลางเสียงถกเถียงโต้แย้งว่า คู่ขัดแย้งที่สำคัญไม่แพ้กันไม่ยอมลงสนาม

การปรองดองสูตรนี้ จะหวังผลใกล้ๆ แค่ “เลือกตั้ง” ปี 2561 หรือหวังไกลระดับเดียวกับปี 2523 เห็นรูปขบวนแล้ว พอจะเข้าใจได้

จะอย่างไรก็ตาม เรื่องปรองดอง แค่ได้พูดจากันอย่างทุกวันนี้ และได้พูดกันไปเรื่อยๆ ก็ต้องถือว่าพอมีความหวัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image