ไม่มี66ในปี60 โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

คอการเมืองค่อนข้างฮือฮากันมาก เมื่อสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. เสนอสูตร 66/2523 เอามาใช้ในแผนสร้างความปรองดองสมานฉันท์ปี 2560 โดยถือว่า แนวคิดแบบนี้ เป็นพวกใจกว้าง และเชื่อว่าหลักการให้อภัยและให้เกียรติทุกฝ่ายอย่างเสมอกัน จะเป็นหนทางยุติความขัดแย้งแตกแยกได้ดีที่สุด

แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ผู้นำรัฐบาลและ คสช.ออกมาปฏิเสธ ไม่ยอมรับแนวทางนี้อย่างทันทีทันควัน ด้วยเหตุผลว่า สถานการณ์ในปี 2523 นั้นเป็นคนละเรื่องกับสถานการณ์ในยุคสมัยนี้ ตอนนั้นเป็นสงครามการสู้รบด้วยอาวุธ เป็นเรื่องของลัทธิอุดมการณ์ แต่ตอนนี้ไม่ใช่

จุดสำคัญสุดที่ผู้นำรัฐบาลและ คสช.เน้นย้ำคือ การสร้างความปรองดองที่กำลังดำเนินอยู่นี้ ต้องการทำให้คนไทยหันกลับมารักกัน อยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติ แต่หลักกฎหมาย การดำเนินคดีก็จะต้องมีต่อไป

ฟังแล้วก็เห็นได้ชัด เหตุที่ไม่เอา 66/23 เพราะหัวใจของคำสั่งดังกล่าวนั้น คือ การยอมรับว่าการใช้ความรุนแรงในสถานการณ์ความขัดแย้งนั้น มาจากปมการเมือง จึงไม่ถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรม จึงไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับผู้ที่วางปืนเข้าร่วมพัฒนาชาติไทย

แต่ถ้ายุคนี้ไม่เอาแนวทางนี้ ก็คือ ไม่อยากใช้หลักการนิรโทษกรรม หรือลบล้างความผิดที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ขัดแย้งรุนแรงหลายปีที่ผ่านมา

หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2523 ที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่ง66/2523 ออกมาใช้ เป็นเพราะนายทหารที่มีบทบาทในกองทัพยุคนั้น เป็นพวก “มันสมอง” และมีมุมมองต่อปัญหาความขัดแย้งทางลัทธิอุดมการณ์แบบฉีกไปจากกรอบเดิมๆ หลังผ่านการคลุกคลีศึกษาอย่างลึกซึ้ง จนเรียกกันว่านายทหารสายพิราบ ขณะที่ทหารสายเหยี่ยวที่ไม่เห็นด้วยก็ระแวงว่า พวกนี้กำลังจะเป็นคอมมิวนิสต์เสียเอง

แต่สุดท้าย กองทัพเองยอมรับว่า สงครามคอมมิวนิสต์ยิ่งลุกลามขยายตัวอย่างน่ากลัว เข้าทำนองยิ่งปราบก็ยิ่งโต

ลงเอยแนวทางสายพิราบที่นำโดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็เป็นที่ยอมรับ และเมื่อ พล.อ.เปรมเซ็นคำสั่งที่ 66/2523 ออกมาใช้ ก็สามารถยุติสงครามชนบทล้อมเมืองอย่างได้ผลทันที

คนในป่าพากันวางปืนกลับคืนเมือง มาใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่มีความผิดทางอาญาติดตัว บ้างก็เลิกสนใจการเมือง บ้างก็หันมาทำงานเพื่อสังคมแนวเอ็นจีโอ บ้างก็ลงเล่นการเมืองตามระบบรัฐสภา

ทั้งที่คำสั่ง 66/2523 เปิดกว้างอย่างมาก ให้คนที่เชื่อในแนวคิดคอมมิวนิสต์ สังคมนิยม กลับมาเคลื่อนไหวแนวคิดเดิมก็ได้ เพียงแต่ต้องสันติวิธี แต่ผลก็คือ ไม่มีการเคลื่อนไหวในทางรุนแรงจากคนที่เคยร่วมสู้รบในป่าเหล่านี้อีกเลย

แต่การปรองดองในวันนี้ ส่วนหนึ่งไม่อยากใช้ 66/23 น่าจะเป็นเพราะกรอบความคิดของผู้นำรัฐบาลและกองทัพ ต้องการให้ทุกคนเลิกความคิดความเชื่อที่แตกต่างหลากหลาย ต้องเข้ามาอยู่ในกรอบเดียวกัน โดยต้องยอมรับและเชื่อฟัง ห้ามทะเลาะกันอีกต่อไป

แนวคิดแบบปี 2523 นั้น คิดแบบทหารสายพิราบ เปิดกว้างเลย จะคิดทางการเมืองแบบไหนก็ได้ เรื่องคดีเลิกให้หมด ขอเพียงยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ

แนวคิดปรองดองปี 2560 มาแบบสายเหยี่ยว คือ ทุกคนต้องเลิกคิดแบบเก่าๆ ต้องเอาแบบที่กำหนดให้ คดีความที่ติดค้างต้องมีต่อไป จะได้เข็ดหลาบกัน อะไรแบบนี้

นี่จึงเป็นยุคที่จะสร้างความสงบในชาติแบบเหยี่ยว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่