ภาพเก่าเล่าตำนาน : ลุงโฮ…เคยมาทำอะไรใน จ.นครพนม ประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า…ช่วงที่ขาดหายไป…

Ho Chi Minh President Memorial, Nakhon Phanom

ภาพเก่าเล่าตำนาน : ลุงโฮ…เคยมาทำอะไรใน จ.นครพนม ประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า…ช่วงที่ขาดหายไป…

17 กุมภาพันธ์ 2567 นายกฯเศรษฐา ทวีสิน เดินทางไป จ.นครพนม เยี่ยมชมอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ พบปะพูดคุยกับชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ประกาศขอผลักดันให้เป็น “แหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง”หวังกระชับสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ตั้งเป้านักท่องเที่ยวแห่เข้า 1.2 แสนคนต่อปี

โฮจิมินห์ เป็นใคร – ชาวเวียดนามมาทำอะไรที่ จ.นครพนม

โฮจิมินห์เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2433 ที่หมู่บ้านหว่างจู่ จ.เหงะอาน ตอนบนของเวียดนาม ชื่อเดิม คือ เหงียน ซิญ กุง

Advertisement

ฝรั่งเศส เข้ามาปกครองดินแดนเวียดนาม (ที่ยังมิได้แยกเป็นเหนือ-ใต้) เป็นอาณานิคม ครอบครัวโฮจิมินห์เสมือนอยู่ใน 2 วัฒนธรรม…คือ ของฝรั่งเศสและวัฒนธรรมตะวันออกแบบจีนและลัทธิขงจื๊อ อันเป็นวัฒนธรรมของเวียดนาม

วัยเยาว์….บิดาต้องไปเมืองเว้เพื่อสอบจอหงวน โฮจิมินห์ได้อาศัยอยู่กับมารดาตามลำพังเพียง 2 คน เพราะเมื่อบิดาสอบจอหงวนได้ ได้ย้ายไปรับราชการที่ต่างเมือง ขณะที่มารดากำลังตั้งครรภ์ ต่อมาแม่คลอดลูกคนเล็กออกมา โฮจิมินห์ในวัย 11 ขวบ ต้องเลี้ยงน้องเอง เนื่องจากมารดาได้เสียชีวิตไปในขณะคลอด และไม่นานน้องคนเล็กก็เสียชีวิต

โฮจิมินห์ เป็นเด็กหนุ่มที่มีสติปัญญาดี รักการอ่าน ชอบเรียนรู้ เป็นล่ามภาษาฝรั่งเศสให้กับชาวนาที่ถูกเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสกดขี่ เอาเปรียบ แบบกินเลือดกินเนื้อ …เกลียดฝรั่งเศสเข้ากระดูกดำ

Advertisement

พ.ศ.2454 ตัดสินใจไปสมัครเป็นพ่อครัวในฝรั่งเศส ด้วยการสมัครเป็นลูกเรือบนเรือเดินสมุทรที่ฝรั่งเศสซึ่ง ได้ศึกษาเรียนต่อในฝรั่งเศส ใช้ชื่อว่า เหงียน อ๊าย โกว๊ก ซึ่งแปลว่า “เหงียนผู้รักชาติ”

ระหว่างเรียนหนังสือ โฮกล้าที่จะเคลื่อนไหวเพื่อบ้านเกิดเมืองนอน ประสานงานกับชาวเวียดนามในฝรั่งเศสเพื่อรวมตัวกันเรียกร้องเอกราช อิสรภาพจากชาติมหาอำนาจตะวันตก

เดินทางไปเข้าร่วมกับ “พรรคคอมมิวนิสต์จีน” ที่กำลังต่อสู้กับรัฐบาลก๊กมินตั๋ง (KMT) ของเจียงไคเช็คที่กำลังปราบ สังหาร กลุ่มคอมมิวนิสต์ของ เหมา เจ๋อ ตุง

เหงียน อ๊าย โกว๊ก เรียนรู้ ซึมซับ อุดมการณ์ทางการเมือง การสู้รบแบบกองโจร มาจากกองกำลังคอมมิวนิสต์จีน ที่แสนจะยากไร้

โฮ หนีออกมาจากจีนโดยทางเรือ มาถึงกรุงเทพฯ ขึ้นเรือที่ท่าน้ำเอสบี (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมแม่น้ำ) เดินทางต่อไปยัง จ.พิจิตร ไป จ.อุดรธานี จ.หนองคาย โดยใช้ชื่อว่า “เฒ่าจิ๋น” ไปสิ้นสุดที่ จ.นครพนม ที่มีชาวญวนมาตั้งชุมชนอยู่ก่อนแล้ว (ชาวญวนเหล่านี้ทยอยหลบหนีการกดขี่ของฝรั่งเศสมาอยู่ในนครพนมอยู่ก่อนแล้ว)

ชาวญวนที่อพยพเข้ามาอยู่ในนครพนม ทำมาค้าขายเก่ง ขยัน อดทน ไม่นานนักกลายเป็นเจ้าของธุรกิจ แทบจะกุมสภาพเศรษฐกิจในนครพนม รักพวกพ้อง รักบ้านเกิดเมืองนอน…คือ ประเทศเวียดนาม

โฮที่ผ่านการศึกษาจากฝรั่งเศส สอนลัทธิสังคมนิยมให้ชุมชน ชาวบ้าน คนไทย คนญวน ที่กำลังยากจน แร้นแค้น โดยใช้ชื่อว่า “ลุงโฮ”

ประเทศไทยในยามนั้น เรื่องการเมือง การปกครอง การศึกษาโดยเฉพาะชีวิตการทำมาหากินฝืดเคือง เรื่องระบอบคอมมิวนิสต์เป็นแนวคิดใหม่ แต่ยังไกลตัว

ระหว่างปี พ.ศ.2466 ถึง พ.ศ.2474 พำนักอยู่ ณ บ้านของนายเตียว เหงี่ยนวัน เลขที่ 48 หมู่ 5 บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

รวมเวลาพำนักอยู่ในไทยราว 7 ปี เดินทางไปติดต่อกับองค์กรของคอมมิวนิสต์ในหลายพื้นที่ในไทย ใช้ชื่อปลอมหลากหลาย

บรรพบุรุษของผู้เขียนเคยเล่าว่า ลุงโฮเป็นคนใจดีสุภาพเรียบร้อย มีความรู้ ที่เคยเดินทางด้วยเท้าไปหลายจังหวัด ตระเวนไปตามแนวชายแดนไทย-ลาว ไทย-เขมร ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกหมู่บ้าน แม้กระทั่งชุมชนชาวจีน ก็เข้าไปผูกมิตร สร้างไมตรี

โฮ ผู้มุ่งมั่นในการกอบกู้บ้านเมืองจากฝรั่งเศส ดำรงการติดต่อกับพรรคคอมมิวนิสต์ต่างประเทศ

ครั้งหนึ่ง โฮจิมินห์ถูกตำรวจฮ่องกงจับกุม ถูกขังคุกนานเป็นระยะเวลานาน 1 ปีเต็ม สภาพร่างกายย่ำแย่ เป็นโรคขาดสารอาหาร แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือให้พ้นออกมา จากเพื่อนเก่าในสมาคมชาวเวียดนามในฝรั่งเศส (เชื่อกันว่า โจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีของจีน ซึ่งเป็นสหายรักของโฮจิมินห์ ยื่นมือมาช่วยด้วย)

ลุงโฮมีความตั้งใจแน่วแน่เรื่องการขับไล่ฝรั่งเศสออกจากเวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยมีสหภาพโซเวียตและจีน เป็นผู้ให้การสนับสนุน

โฮจิมินห์ เดินทางกลับมาเวียดนามอีกครั้งในปี พ.ศ.2484 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสในขณะนั้นถูกนาซีเยอรมนีบุกยึดครอง

ฝรั่งเศส…เจ้าอาณานิคมกำลังหมดสภาพ

โฮ สบโอกาสรวบรวมชาวเวียดนาม แล้วตั้งกองกำลัง “เวียดมินห์” ที่ใช้ชาวบ้านเป็นหลัก ฮึกเหิม ห้าวหาญ พร้อมจะกู้ชาติ

ชาวเวียดนามในขณะนั้นยังไม่มีการศึกษา และส่วนใหญ่อดอยากยากจน โฮจิมินห์ได้เข้าถึงตัวชาวบ้านระดับล่าง ด้วยการทำตัวกลมกลืนผูกมิตรไปกับชาวบ้าน ได้พูดคุยและทำความเข้าใจกันอย่างง่ายๆ และเพิ่มจำนวนสมาชิกขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการบอกแบบปากต่อปาก

ไม่มีใครเคยเรียน เคยฝึกทหารมาก่อน ชายหนุ่มผู้กลายเป็นมันสมองของกองทัพชาวบ้าน ชื่อ หวอ เงวียน ซ้าป ซึ่งต่อมาเป็นสหายคนสำคัญของโฮจิมินห์ทั้งคู่ยังเป็นคู่เขยของกันและกัน เนื่องจากภรรยาของทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน

ในช่วงนี้เองที่มีการใช้ชื่อ “โฮจิมินห์” เป็นครั้งแรก

เหตุการณ์ที่ไม่ค่อยมีใครทราบ…ในขณะที่ฝรั่งเศสกำลังโดนเยอรมันบุกยึด …กองทัพญี่ปุ่นบุกเข้ามายึดเวียดนาม

เชื่อมั้ยครับ…วันนั้น ลุงโฮทำงานในทางลับกับหน่วย OSS ของอเมริกา (ต่อมา คือ CIA) จับมือกันเพื่อต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น เป็นการร่วมมือกันของทั้ง 2 ฝ่าย เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ

สงครามพลิกกลับ เยอรมันแพ้สงคราม…

ฝรั่งเศสนึกเสียดายดินแดน เวียดนาม ลาว และเขมร จึงยกกำลังกลับเข้ามา วางกำลังรบแบบป้อมค่าย ที่เมือง “เดียนเบียนฟู”

โฮจิมินห์ประกาศจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

2 กันยายน พ.ศ.2488 จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิเวียดนามพระองค์สุดท้ายประกาศสละราชสมบัติ

พ.ศ.2497 โลกต้องตกตะลึง เมื่อกองทัพเวียดมินห์ ใช้เวลาราว 3 เดือน บดขยี้กองทัพฝรั่งเศส ที่เดียนเบียนฟู แตกพ่าย จับทหารฝรั่งเศสเป็นเชลยนับพันนาย

สงครามเดียนเบียนฟู อเมริกา “ถลำตัว” เข้ามาช่วยฝรั่งเศส… เครื่องบินที่นำพลร่ม ส่งกำลังบำรุง ทั้งหมดเป็นของอเมริกา

ลุงโฮ ด้วยพลังสมองของแม่ทัพหวอ เงวียน ซ้าป และประชาชนชาวเวียดนามผู้รักชาติกลายเป็นข่าวไปทั่วโลก ที่ทำการรบ ขับไล่ฝรั่งเศสออกไปจากเวียดนาม ลาว และเขมร สำเร็จ

ถ้าจะว่าไปแล้ว…ลุงโฮ คือ ผู้กอบกู้เอกราชให้ 3 ชาติ

ลุงโฮที่เคยมาอยู่ที่ จ.นครพนม คนนี้แหละ ประกาศเอกราช

ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามเป็นคนแรก ด้วยการประกาศแถลงการณ์ที่จัตุรัสบาดิ่ญ ซึ่งเริ่มต้นด้วยประโยคแบบเดียวกับประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา

ชาวญวนทั้งหลาย รวมทั้งที่อยู่ในไทย ยกย่องลุงโฮเสมือนบิดา เป็นที่เคารพบูชา

(ชาติตะวันตก ยังไม่ยอมปล่อยให้เวียดนามเป็นเอกราชอย่างแท้จริง ขัดขวางโฮจิมินห์มิให้ขึ้นเป็นผู้นำ ด้วยไม่ต้องการให้ภูมิภาคนี้ตกอยู่ในการแพร่ขยายของคอมมิวนิสต์ …ผู้เขียนขอไม่กล่าวถึง)

พ.ศ.2498 อเมริกาทยอยส่งเจ้าหน้าที่การข่าว เข้ามาในเวียดนาม ไทย ลาว …พัฒนาต่อไปเป็นทหารสหรัฐนับหมื่น

พ.ศ.2507 สงครามเวียดนามได้อุบัติขึ้นเต็มรูปแบบอเมริกาและชาติพันธมิตรอื่นๆ รวมถึงกองทัพไทย ก็ได้เข้าร่วมสงครามเพื่อปราบปรามคอมมิวนิสต์

พ.ศ.2518 โฮจิมินห์ ที่เป็นผู้นำสูงสุด เป็นขุนพลของกองทัพเวียดนามเหนือที่เป็นฝ่ายคอมมิวนิสต์ เป็นผู้นำของชาวเวียดนามนับล้านคนต่อสู้กับอเมริกาอย่างทรหด ชาวเวียดนามพลีชีพนับล้าน เพื่อบ้านเกิด

พ.ศ.2516 อเมริกาเริ่มถอนตัวออกจากสงครามเวียดนาม

ผู้เขียนขอใช้ศัพท์ว่า… “อเมริกาเทเวียดนามใต้”

ไม่ถึง 2 ปี กองทัพเวียดนามเหนือบุกยึดไซ่ง่อน

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่โฮจิมินห์มิได้อยู่ถึงการชื่นชมชัยชนะ

2 กันยายน พ.ศ.2512 ลุงโฮเสียชีวิตที่บ้านพักในฮานอย ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว สิริอายุได้ 79 ปี ร่างของโฮจิมินห์ได้รับการบรรจุในโลงแก้ว เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เคารพ ตั้งไว้ที่จัตุรัสบาดิ่ญ

ผู้เขียนยอมรับว่า สุภาพบุรุษท่านนี้ ยิ่งใหญ่ น่ายกย่อง…

กลับมาที่อนุสรณ์สถาน จ.นครพนม…

24 มีนาคม พ.ศ.2557 รัฐบาลไทยอนุมัติให้ก่อสร้างอนุสรณ์สถานโฮจิมินห์ใน จ.นครพนม โดยใช้งบประมาณ 45 ล้านบาท จาก ฯพณฯ เหงียน
ฝู จ่อง เลขาธิการพรรค ในนามประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และเงินบริจาคของชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม

อนุสรณ์สถาน เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 126 ปี วันคล้ายวันเกิดของลุงโฮ มีเนื้อที่ 7 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์

นี่คือนิสัยใจคอของชาวเวียดนาม ที่ต้องเป็นผู้ชนะและยกย่องบรรพบุรุษของตนเสมอ

พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image