| ผู้เขียน | นายพล |
|---|
ไทรทัน แอทลีท ท้าสู้ศึกกระบะหรู
มีคนถามกันเยอะว่า ทำไมรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้ ถึงไม่ค่อยมีเห็นวิ่งบนถนน
ได้คำตอบจากมิตซูบิชิมาว่า สาเหตุเพราะเจอปัญหาไฟแนนซ์ไม่ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่จองเข้ามามาก ด้วยกฎเกณฑ์จากแบงก์ชาติ เพราะกลัวเกิดหนี้เสีย เป็นผลกระทบมาจากสภาวะเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด ทำให้ยอดขายรถกระบะไม่ใช่เฉพาะมิตซูบิชิเท่านั้นที่ร่วง แต่เป็นสถานการณ์กอดคอกันร่วงทั้งตลาด
แต่ค่ายรถก็คาดหวังว่าปีนี้ปัญหานี้จะดีขึ้น ตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่ทั้งทางรัฐบาลหรือแม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มองว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ดูจากตัวบ่งชี้ทั้งการส่งออก และการท่องเที่ยวที่ทางรัฐบาลพยายามจะกระตุ้นจนสุดแรงในขณะนี้
แม้ว่าตลาดกระบะยังชะลอตัว แต่ทางมิตซูบิชิยังคงเดินหน้าปล่อยของ เพราะเชื่อมั่นในการผลิตรถกระบะส่งไปขายทั่วโลก
ล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกระบะสไตล์หรู ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท (All New Mitsubishi Triton Athlete 2024) รถกระบะ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ลงมาสู้ศึกตลาดรถกระบะกลุ่มนี้
ไทรทัน แอทลีท ออกแบบภายใต้แนวคิด “บีสต์ โหมด” (BEAST MODE) ไลฟ์สไตล์แบบพรีเมียม ผสานความปราดเปรียวสไตล์สปอร์ต
รูปลักษณ์ยังคงบึกบึน แต่รุ่นนี้จะออกแบบเป็นเหลี่ยมมากกว่าไทรทันรุ่นก่อนหน้านี้ มาพร้อมแต่งชุดพาร์ตรอบคันด้วยโทนสีดำเงา ทั้งกระจังหน้าและกันชนหน้า ซุ้มล้อ มือเปิดประตูภายนอก ฝากระจกมองข้าง ราวหลังคา สปอร์ตบาร์ที่กระบะท้าย มือเปิดฝากระบะท้ายและกันชนท้าย ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว
ตัวถังเพิ่มสีพิเศษสีส้ม ยามาบูกิ ออเรนจ์ เมทัลลิก (Yamabuki Orange Metallic) สีเฉพาะของรุ่นแอทลีท ส่วนเฉดสีตัวถังอื่นๆ ได้แก่ สีดำ Jet Black Mica สีเทา Graphite Grey และสีขาว White Diamond
มิติขนาดตัวรถยาว 5,320 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,795 มม. ระยะฐานล้อ Wheelbase 3,130 มม. มาพร้อมระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 222 มม.
ห้องโดยสารตกแต่งดีไซน์สปอร์ต เช่นเดียวกันตัวถังภายนอก มาในโทนสีส้ม-ดำ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีส้ม สลับหนังกลับสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีส้ม เบาะที่นั่งฝั่งผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังด้วยระบบไฟฟ้า (Lumbar Support) พวงมาลัยเดินตะเข็บด้ายสีส้ม คอนโซลหน้าและแผงประตู ตกแต่งด้วยตะเข็บด้ายสีส้ม ส่วนเพดานหลังคาภายในห้องโดยสารบุด้วยโทนสีดำ
แผงแดชบอร์ด ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี LCD ขนาด 7 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง แอปเปิล คาร์เพลย์ (Apple CarPlay) และ แอนดรอยด์ ออโต้ (Android Auto) แบบไร้สาย (Wireless) มาพร้อมระบบ มิรเรอร์ ลิงก์ (Mirror Link) คือการนำภาพและเสียงในโทรศัพท์ขึ้นจอรถยนต์ โดยการเชื่อมต่อด้วยระบบไวไฟ เพื่อสร้างความเพลิดเพลินขณะขับรถ ระบบเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธ และระบบนำทางเนวิเกเตอร์
ระบบกุญแจ เคโอเอส สมาร์ท คีย์เลส เอ็นทรี่ (KOS Smart Keyless Entry) ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ (Push Start Button) ระบบปรับอากาศ แบบแยกอิสระ ซ้าย-ขวา Dual Zone, ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง ช่องชาร์จไฟ ยูเอสบี ไทพ์ เอ และ ไทพ์ ซี ชาร์จเร็วสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ติดตั้งเทคโนโลยีมิตซูบิชิ คอนเน็กต์ รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น มาย มิตซูบิชิ คอนเน็กต์ (My MITSUBISHI CONNECT) สั่งการตัวรถแบบไร้สายได้จากระยะไกล ทั้งการเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร การล็อกและปลดล็อกประตูรถ การเปิดไฟหน้า การกดแตรรถ การค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของตัวรถ
สามารถตรวจสอบข้อมูลสถานะตัวรถ เช่น ระดับน้ำมันคงเหลือและระยะทางที่วิ่งต่อได้ ความดันลมยาง มีฟังก์ชั่นความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ บริการช่วยเหลือบนถนน การแจ้งอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ การช่วยเหลือเมื่อรถถูกโจรกรรม และระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ผ่านตัวรถ (e-call)
ระบบความปลอดภัยมาพร้อม ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ไดมอนด์ เซนส์ อาทิ ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ กล้องมองภาพรอบคัน เทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งหมดนี้ สามารถตรวจจับการเคลื่อนที่ของตัวรถและสภาพแวดล้อมด้วยเซ็นเซอร์และเรดาร์ที่ควบคุมด้วยระบบเอไอได้รอบคัน
ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (Reinforced Impact Safety Evolution) แข็งแกร่งสูง รองรับแรงปะทะ ลดการเปลี่ยนแปลงสภาพของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุให้น้อยที่สุด
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ ทู (Hyper Power X2) กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่น 4 ล้อ ซุปเปอร์ ซีเลคต์ โฟว์วีลไดรฟ์ ทู (Super Select 4WD II) แบบฟูลไทม์ เสริมด้วยระบบ แอ๊กทีฟ ยอว์ คอนโทรล (Active Yaw Control) การขับขี่เลือกได้ 7 โหมด ประกอบด้วย โหมดปกติ (Normal), โหมดประหยัดเชื้อเพลิง (Eco), โหมดลูกรังหรือทางฝุ่น (Gravel), โหมดหิมะหรือฝนตกผิวถนนเปียกลื่น (Snow), โหมดโคลนหรือผิวทางเหนียวลื่น (Mud), โหมดทรายหรือผิวทางดินร่วน (Sand) และโหมดหินหรือผิวทางที่เป็นหินขรุขระ (Rock)
ราคารุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เริ่มต้น 1,125,000 บาท รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เริ่มต้นที่ 1,298,000 บาท (สำหรับสีขาว White Diamond เพิ่ม 10,000 บาท)
มิตซูบิชิ จัดให้สื่อมวลชนทดสอบ แอทลีท เส้นทางเชียงใหม่-แม่สลอง-เชียงราย ถนนคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา
ทำให้เห็นว่าไทรทัน แอทลีท ยังคงจุดเด่นรถกระบะสมรรถนะการขับขี่ กำลังดี แรงบิดมาเร็ว ระยะทอล์กกว้างมาก กำลังม้าทั้งตีนต้นตีนปลาย ทำให้ขับสนุก แถมมาคราวนี้เติมเต็มการปรับช่วงล่างแบบยกเซต นั่งสบายขึ้นอย่างชัดเจน อุปกรณ์และเทคโนโลยีค่อนข้างหลากหลาย
เพื่อเป้าหมายเป็นกระบะสไตล์ มิด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (MID PERFORMANCE) หรือรถกระบะหรูทรงพลังระดับกลาง ไม่ใช่พวกไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ พวกตัวแรงทั้งหลาย จึงเหมาะกับสำหรับคนทำงานแต่ชอบผจญภัยแต่ไม่โหดมากนัก น่าจะเหมาะ
นายพล
