09.00 INDEX : รากฐาน ไม่ปลดล็อก การเมือง มาจาก หวาดระแวง และ ‘กลัว’

พลันที่มีการเสนอคำว่า “ปรองดอง” ขึ้นมาผู้คนต่างนึกถึง”ประชาธิปไตย”ลอยมา

หากไม่มี “ประชาธิปไตย” ก็ยากยิ่งจะ “ปรองดอง”

คำว่า “ประชาธิปไตย” มิได้กินความไปยัง “เลือกตั้ง”เท่านั้นแต่ยังหมายลึกไปยังสิ่งที่เรียกว่า

“จิตวิญญาณ”

Advertisement

เพราะหากไม่สวมจิตวิญญาณอันเปี่ยมด้วยความเป็น “ประชา ธิปไตย” แล้วอย่าได้พูดถึงคำว่า “ปรองดอง” อย่างเด็ดขาด

“ปรองดอง”จะไร้”ความหมาย”อย่างสิ้นเชิง

ที่หลายๆฝ่ายทอดตามองและฝาก “ความหวัง” ไว้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็จากพื้นฐานเช่นนี้

Advertisement

มิได้คิดหรอกว่าท่านจะเป็น”นักประชาธิปไตย”สุดโต่ง

เพียงแต่รู้สึกว่า อย่างน้อยท่าทีและท่วงทำนอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แสดงสีสัน “ประชาธิปไตย” มากกว่าคนอื่นๆ

แต่เมื่อสัมผัสท่าทีต่อ “การปลดล็อก” ก็ต้องเหน็ดเหนื่อย

การไม่ยอม “ปลดล็อก” ให้กับพรรคการเมือง หรือให้กับนักการเมืองเป็นสภาพที่เข้าใจได้

หากเป็นหลัง”รัฐประหาร”ใหม่หมาด

ความจำเป็นต้องจัดระเบียบมีความสำคัญ เพราะมิเช่นนั้นก็คงทำอะไรไม่ได้

คำสั่งคสช.จึงพุ่งเป้าไปที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน

แต่เมื่อรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เดินผ่านเดือนพฤษภาคม 2558 เดินผ่านเดือนพฤษภาคม 2559 มาแล้ว

และกำลังเข้าสู่โหมด “ปรองดอง”

ทั้งๆที่ในความเป็นจริง กระบวนการ “ปรองดอง” สัมพันธ์กับพรรคการเมืองและนักการเมืองเป็นอย่างมาก

กระนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ยังไม่ยอม

“ถ้าปลดล็อกแล้วพรรคการเมืองทำอะไรที่นอกเหนือจากเรื่องปรองดองแล้วใครจะรับผิดชอบ”

เปี่ยมด้วยความระแวง มากด้วย”ความกลัว”

ถามว่าอำนาจทางการเมือง อำนาจทางการทหารในขณะนี้อยู่ในมือของใคร

ตอบได้เลยว่า อยู่ในมือ”คสช.”

อย่าว่าแต่อำนาจทางการทหารเลย แม้กระทั่งข้าราชการสายอื่นๆก็ล้วนจัดระเบียบโดย “คสช.”ทั้งสิ้น

อย่างนี้ “พรรคการเมือง”จะกล้าหรือ

“อำนาจ” อยู่ในมือและผ่านการใช้อำนาจมาแล้วเป็นเวลากว่า 2 ปี “คสช.”ยังไม่มั่นใจอีกหรือ

หากไม่มั่นใจแล้วจะ “ปรองดอง”ได้อย่างไร

เพราะในที่สุดของ “ปรองดอง” ก็คือการเปิดทางให้ “ประชา ธิปไตย”ได้หวนกลับมาแทนที่ “เผด็จการ”

จิตใจที่”เปิดกว้าง”อย่าง”ไม่กลัว”จึงสำคัญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image