พยัคฆ์ซ่อน มังกรซุ่ม : ทดสอบ เคี่ยวกรำ ยึดกุม สัจจการ แห่งตน ปักจิต เด็ดเดี่ยว

พยัคฆ์ซ่อน มังกรซุ่ม : ทดสอบ เคี่ยวกรำ
ยึดกุม สัจจการ แห่งตน
ปักจิต เด็ดเดี่ยว

หานซิ่นรับเอา 1 กระบี่ 1 แผนที่ 1 และ 1 หนังสือลับ เอาไว้ ลุกขึ้นคำนับและถามจางเหลียงว่า
“แล้วท่านจะไปแห่งใด เกลือกพระเจ้าฮั่นอ๋องตรัสถามจะได้กราบทูล”
จางเหลียงจึงว่า “จะคอยเฝ้าดูพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง ถ้าหากยกไปจากเมืองเสียนหยางแล้วข้าพเจ้าจะทำให้เหมือนกับซูอินครั้งแผ่นดินเลียดก๊ก”
เพียงจางเหลียงเอ่ย หานซิ่นก็เข้าใจ
เข้าใจเพราะหานซิ่นก็ศึกษาในเรื่องของเลียดก๊ก เข้าใจเพราะจางเหลียงก็เจนจบในกรณีต่างๆ ในยุคเลียดก๊ก
แต่เราท่านอาจยังมี “คำถาม”

เรื่องราวของซูฉินจดจารเอาไว้ว่า เดิมซูฉินเห็นว่าเมืองจิ้นมีความสำคัญจึงมาดหมายจะไปสวามิภักดิ์อยู่ด้วยกับจิ้นอ๋อง
แต่จิ้นอ๋องไม่รับไว้
ซูฉินจึงเที่ยวไปฝากตัวกับ 6 หัวเมืองใหญ่ เจ้าเมืองทั้งหกยกให้ซูฉินเป็นที่ไจเสี่ยง
ว่ากล่าวในการศึกย้อนกลับไปตีเมืองจิ้นได้
นี่ย่อมเป็นกลยุทธ์อันซูฉินและ 6 เจ้าเมืองเห็นพ้องต้องกันเพื่อโดดเดี่ยวเมืองจิ้นโดยอัตโนมัติ
นี่ย่อมเป็น “กลยุทธ์” อันจางเหลียงคิดอยู่

จางเหลียงจึงแจ้งแก่หานซิ่น “ข้าพเจ้าจะคิดอ่านให้หัวเมืองทั้งปวงแข็งเมืองขึ้น ไม่ยอมขึ้นต่อพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง
ให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องพะว้าพะวัง
ในความพะว้าพะวังของพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง ท่านจะได้กลับมาตีกวนจงเอาเมืองเสียนหยางเป็นที่มั่นได้โดยง่าย”
ได้ยินดังนั้น หานซิ่นจึงว่า
“ข้าพเจ้าไปถึงเมืองโปต๋งแล้ว แม้นพระเจ้าฮั่นอ๋องให้ข้าพเจ้าเป็นแม่ทัพจะขออยู่ พอฝึกทหารชำนาญแล้วจะรีบยกมา”
นี่ย่อมเป็น “กลยุทธ์” ที่กำหนดไว้ “ล่วงหน้า”
นี่ย่อมเป็นการขานรับโดยที่ทั้งสองฝ่ายหมายว่าสภาพการณ์ทุกอย่างจักดำเนินไปด้วยความราบรื่น
ราบรื่นจริงหรือ

Advertisement

จางเหลียงกับหานซิ่นสนทนากันจนรุ่งอุสาสาง อาทิตย์อุทัยไขแสง นกกาบินออกจากรวงรัง
ก็อำลาจากกัน
เข้าทำนอง “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” หานซิ่นมุ่งไปยังเมืองโปต๋ง จางเหลียงมุ่งไปยังเมืองหานบ้านเกิด
คบคิดกับบุตรของกีเสง
แต่งหนังสือเป็นอุบายไปทุกหัวเมือง ดำเนินตามกลยุทธ์อันมาจากสมองก้อนโตของซูฉิน
เป้าหมายเพื่อโดดเดี่ยวฌ้อปาอ๋อง
เท่ากับปูทางและสร้างเงื่อนไขให้กับพระเจ้าฮั่นอ๋อง เท่ากับปูทางและสร้างเงื่อนไขให้กับหานซิ่น
จำเป็นต้องติดตามหานซิ่นไปอย่างใกล้ชิด

กล่าวสำหรับหานซิ่น การเดินทางไปยังโปต๋งใช่ว่าจะดำเนินไปด้วยความราบรื่น มีความยากลำบากดำรงอยู่ตลอดสองรายทาง
แม้จะมี “แผนที่ลับ” แม้จะมี “หนังสือลับ”
ปมเงื่อนอยู่ที่ “วิธีคิด” เป็นหลักยึดที่หานซิ่นกุมเป็น “แนวทาง” มาด้วยความมั่นแน่วจนฝังรากลึก
ฝังรากลึกจนแตกแขนงประกอบส่วนขึ้น
“คำโบราณว่า ผู้ใดจะเอาผู้มีบุญเป็นที่พึ่ง ย่อมตรึกตรองดูให้รอบคอบ ถ้าใจเร็วเข้าอยู่ง่าย นานไปจะถอนตัวยาก แม้นเมื่อจะเข้าอยู่นั้นได้ยาก ถึงยามจะถอนตัวก็ทำได้ง่าย”
เมื่อยึดกุมเช่นนี้ย่อมถอดออกมาเป็นการปฏิบัติ
ในความคิดของหานซิ่น
เรามาครั้งนี้ถ้าจะให้สมคิดโดยเร็ว เพียงเอาหนังสือของจางเหลียงให้ดูก็คงจะได้เป็น “แม่ทัพ”
แต่คนทั้งปวงจะไม่รู้ว่าเรามี “สติปัญญา”
ก็จะ “ดูหมิ่น” ไม่นับถือ
แล้วประการหนึ่งจะมีคำนินทา ว่าเราไปฝากเนื้อฝากตัวกับจางเหลียงให้ช่วยทำนุบำรุงจึงได้ดี
ครั้งนี้ถ้าจะต้องเหนื่อยเป็นสองครั้งก็จำเป็น

นั่นก็คือ เข้าไปแฮเฮาหยินก่อนแล้วจึงจะไปหาเซียวเหอ สำแดงวิชาการของเราที่ได้เรียนรู้ให้ปรากฏทั้ง 2 แห่ง
จะได้ทูลพระเจ้าฮั่นอ๋องให้ทราบ
ถึงพระเจ้าฮั่นอ๋องจะไม่ชุบเลี้ยงเรา เราก็ไม่สู้มีความอายแก่ขุนนางและนายทหารชาวเมืองโปต๋ง
เพราะความดีของเรา แฮเฮาหยิน เซียวเหอ ย่อมรู้อยู่เป็นอย่างดี
หลักคิดเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า หานซิ่นมีความมั่นใจใน “วิชา” ฝีมืออันมีอยู่ของตนเป็นอย่างสูง
ขณะเดียวกัน ก็มั่นใจใน “วิจารณญาณ” แฮเฮาหยิน เซียวเหอ

Advertisement

ยุทธนิยาย “ไซ่ฮั่น” ฉบับวังหลังยืนยันว่า เมื่อหานซิ่นเข้าพบและผ่านการทดสอบจากแฮเฮาหยิน
ปรากฏว่า
ไม่ว่าตำราพิชัยสงคราม ไม่ว่าตำราโหร ไม่ว่าคัมภีร์แพทย์ ที่แฮเฮาหยินยกขึ้นมาถาม
“หานซิ่นผินหลังตอบ” ได้อย่าง “ถูกต้อง” ครบถ้วน
จึงรวดเร็วอย่างยิ่งที่จะผ่านการตรวจสอบและยอมรับจากแฮเฮาหยินอย่างชนิดสะดวกโยธิน
ครั้นไปถึงมือของเซียวเหอ
ผ่านการสัมภาษณ์อย่างรอบด้าน ผ่านการตั้งคำถามอย่างรอบด้าน สร้างความประทับใจให้กับเซียวเหออย่างเยี่ยมยอด
ขาดเพียงอย่างเดียว คือ ไม่มีหนังสือรับรอง

ความเชื่อมั่นในแนวทางแห่งตนของหานซิ่นจึงได้กลายเป็นอุปสรรค ยืนยันให้เห็นว่าหนังสือรับรองมีความหมาย
สำคัญและมีผลชี้ขาด
แนวทางของหานซิ่นจึงดำเนินไปอย่างท้าทาย การดำรงอยู่ของหนังสือรับรองจากจางเหลียงจึงดำเนินไปอย่างท้าทาย
ท้าทายระบบ ท้าทายระบอบ

สถานการณ์ของหานซิ่นระหว่างการยอมรับและแต่งตั้งให้เป็น “แม่ทัพ” นี้เองนำไปสู่ความเข้าใจที่ว่าทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับบทบาทของเซียวเหอ
ทั้งที่แท้จริงแล้วปัญหาอยู่ที่ตัวของหานซิ่นเอง
เป็นหานซิ่นต้องการพิสูจน์ตนเองผ่านกระบวนการของแฮเฮาหยิน ผ่านกระบวนการของเซียวเหอ
ผ่านแม้กระทั่งกระบวนการของฮั่นอ๋อง
โดยไม่ยอมสำแดง “หนังสือลับ” ที่จางเหลียงมอบให้มา นั่นก็คือ หานซิ่นต้องการให้ทั้งแฮเฮาหยิน เซียวเหอ และฮั่นอ๋อง
ยอมรับในความสามารถของตนอย่างบริบูรณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image