‘จริงใจ-ซื่อสัตย์-พอเพียง’คำตอบในทุกเรื่อง : โดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล

มีบทความทางวิชาการหลากหลายเสนอในมุมมองว่า ‘Only compromise can end the crisis’ อาทิ วิเคราะห์โดย Marc Saxer คือ การออมชอมหรือประนีประนอมอย่างบริสุทธิ์ใจที่จะสามารถยุติปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย ในขณะที่การเล่นละครสวมหน้ากากเข้าหากัน ซ้ำมีการกำหนดวิธีการที่เป็นความสลับซับซ้อน ก็ย่อมมีแต่เสียกับเสียตั้งแต่เริ่มต้น และอาจล้มทั้งยืน

ฟังดูดีทั้งนั้น กับความคิดเรื่องการเจรจาต่อรอง ใครจะไม่อยากให้เหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจบลงและจบโดยบริบูรณ์ได้ก็ยิ่งดี เดี๋ยวไม่ใช่พอวันดีคืนดีเกิดกิเลสกลับ อยากใช้จ่ายเงินทองของแผ่นดินอันมากมายขึ้นมาอีก โดยอยากให้เกิดปัญหาต่อชาติบ้านเมืองและระหว่างคนไทยด้วยกันเอง แล้วใช้ปัจจัยคือเงินทองหว่านล้อม (Persuade) สร้างปัญหารอบใหม่ให้กับชาติ ความทะเยอทะยานอย่างสุดโต่งของใครก็ตามที่ไม่รู้จักคำว่าพอเพียง จึงถือเป็นภยันตรายต่อความมั่นคงของชาติ หากบุคคลผู้นั้นขาดความสำนึกที่ดี หรือความรับผิดชอบอันพึงมีพึงแสดงออกต่อส่วนรวม

การยุติปัญหามองได้เป็นเรื่องหลักๆ 2 ประการที่สังคมจะต้องรีบช่วยกันแก้ไขโดยไม่ชักช้า คือ :

1) การเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนให้ตระหนักในความหมายของประชาธิปไตยที่มีระเบียบและสร้างสรรค์กับคุณงามความดีที่ต้องไปด้วยกันให้ได้ กล่าวคือเป็นของควบคู่กัน ไม่ใช่ประชาธิปไตยกับความชั่วร้ายและทุจริตคดโกง เพราะถ้าเป็นอย่างหลัง ผลลัพธ์ก็จะออกมาทำลายล้างระบบของมันเอง ความคิดในเชิงนี้จึงต้องมองครบถ้วนทุกด้าน ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่รับเงินรับทองจากใครที่เรียกว่าโจรหรือกินสินบาทคาดสินบน ไม่เอารัดเอาเปรียบเพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีปัจจัยเรื่องเงินทองที่เหนือกว่าแล้วนำมาสร้างคะแนนนิยมอย่างผิดๆ ประชาธิปไตยจะเป็นได้เพียงแค่อุดมการณ์ที่เลื่อนลอยและเพ้อฝัน ไม่สามารถเกิดเป็นจริงขึ้นได้ เพราะประเด็นสำคัญ คือ ความเห็นแก่ตัวและทะเยอทะยานชนิดที่คนปกติธรรมดาเขาไม่กล้ากระทำหรือแม้แต่คิด

Advertisement

2) ชนทุกกลุ่มต้องปรับทัศนคติตนเองที่จะต้องแสดงออกถึงความจริงใจและความปรารถนาดีที่มีต่อกัน ไม่สร้างภาพ ไม่หลงลืมตัว ไม่เจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่คิดว่าตนเก่งกล้าสามารถอยู่คนเดียว อันความยากดีมีจนก็คือคนโดยเท่าเทียมกัน แต่ทุกๆ คนต้องอยู่ร่วมกันด้วยความรอบรู้และขวนขวายที่เราทุกคนได้รับการอบรมบ่มสอนกันมาหลายชั่วคน ที่จะต้องมีการช่วยกันเร่งรัดติดตามการทำงานโดยองค์กรตรวจสอบที่มีความเข้มงวดกวดขัน เรื่องนี้โยงมาถึงระบบราชการประจำที่ต้องพิสูจน์ความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ สร้างผลประโยชน์สูงสุดให้เกิดขึ้นแก่การดำรงชีวิตของประชาชนทุกหมู่เหล่าโดยมีประเทศชาติเป็นตัวตั้งไม่ใช่ตัวบุคคลทางการเมืองการปกครองเป็นตัวตั้ง

การทำงานในบริบทดังกล่าว จะช่วยให้ระบบการเมืองการปกครองเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของสังคม เพราะการโกหกหลอกลวงบ่อยครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมุ่งเอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตนหรือส่วนพวกเป็นที่ตั้ง ย่อมก่อให้เกิดบรรยากาศของความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ น่าเบื่อหน่าย ความล้าหลัง และหมดความนิยมศรัทธาต่อระบบ ดั่งเช่นเหตุการณ์ที่สังคมไทยเผชิญมาในช่วงกว่าสิบปี นำมาซึ่งความเสียหายต่อบ้านเมืองที่เรารักอย่างประเมินไม่ได้

เราหลอกใครหลอกได้ แต่หลอกตนเองไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดี มันไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อชาติบ้านเมืองแม้แต่น้อย แต่ก็ยังฝืนกระทำ คนโบราณท่านเรียกว่า ‘พวกอธรรมทางโลก’ อันหมายรวมถึงพวกโจรผู้ร้าย ฆาตกร คนทุจริต คดโกงและเอาเปรียบ แต่หากถ้าปราศจากความรอบรู้และมุ่งมั่น แยกแยะไม่ได้ แบ่งแยกไม่ออก บอกความแตกต่างไม่เป็น ระหว่างความควรไม่ควร ความดีความไม่ดี แต่ยังดันทุรังกระทำ บุคคลประเภทนี้ควรต้องพิจารณาไปประกอบอาชีพอื่นใดเสียที่เป็นอิสระส่วนตัว จงอย่าได้นำเอาชื่อเสียงเกียรติภูมิของประเทศชาติบ้านเมืองไปเกี่ยวพันหรือเสี่ยงภัยเป็นอันขาด

Advertisement

อาจกล่าวโดยย่อได้ว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำนุบำรุงบ้านเมืองไทยของเรา มีความรักในประเทศชาติ ไม่มองอะไรเป็นเรื่องของ ‘การเล่น’ การเมืองไปเสียหมด และทำให้บ้านเมืองเสียหาย เพราะประเทศชาติไม่ใช่ของใครผู้หนึ่งผู้ใด แต่เป็นของประชาชนคนไทยทุกคน

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสอนไว้เป็นอมตะวาจาแก่ศิษย์สวนกุหลาบและเทพศิรินทร์ว่า “ข้าราชการมิใช่อภิสิทธิ์ชน หากแต่จะต้องบำเพ็ญตนให้เป็นแบบอย่างของคนดีแก่สังคม และความสุจริตซื่อตรง ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้ใด ความมีความรู้ความเข้าใจ มีความจริงใจ และเป็นสุภาพชนด้วยกิริยา วาจา ใจ จะมุ่งมั่นกระทำสิ่งใดก็ตามที ความสำเร็จย่อมมีมากกว่าครึ่งแล้ว ถือเป็นคติธรรมคำสอนที่ควรแก่การศึกษาอย่างยิ่ง”

มีข้าราชการรุ่นใหม่ขอเพิ่มเติมประโยคเข้าด้วยว่า “หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก ผู้เป็นหัวหน้าองค์กรต้องเป็นแบบอย่างของคุณงามความดี ไม่ทุจริต ไม่เอาเปรียบ ไม่ข่มเหงรังแกผู้น้อย ไม่ให้ร้ายป้ายสีใครผู้ใด โดยยึดหลักศีลธรรมในการครองตนและครองงาน”

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image