| ผู้เขียน | สุชาติ ศรีสุวรรณ |
|---|
ที่เห็นและเป็นไป : ‘อุปสรรครัฐบาล’ที่ไม่สมควรมี
ที่ห้องคริสตัล บ็อกซ์ ชั้น 19 เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท อาคารเกษรทาวเวอร์ แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ เช้าวันที่ 24 พฤษภาคมหนังสือพิมพ์มติชนจัด “มติชนฟอรั่ม หัวข้อ Thailand 2024 : Surviving Geopolitics” ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข ให้ภาพรวมของเรื่องอย่างที่ทุกคนได้ฟังและบอกตัวเองว่าต้องให้ความสนใจ และให้ความสำคัญ
“Geopolitics” ณ ขณะนี้ในมุมมองของอาจารย์สุรชาติครอบคลุมได้สถานการณ์ใหญ่ที่โลกต้องเผชิญ 3 เรื่อง สงคราม เชื้อโรค อากาศเปลี่ยน
อาจารย์ชี้ให้เห็นว่าทั้ง 3 เรื่องส่งผลสะเทือนต่อชีวิตในโลกอย่างทั่วถึง
สงคราม ส่งผลต่อค่าครองชีพของคนทั่วโลก ราคาพลังงาน วัตถุดิบผลิตอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น เชื้อโรคทั้งใหม่และเก่าที่ยังระบาดไม่หยุด ทำให้ต้องเตรียมการรับมือกันด้วยภาระที่หนักหน่วง อากาศเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน
ฟังอาจารย์สรุป Geopolitics ใน 3 มุมนี้ให้ฟังแล้วมานั่งแลกเปลี่ยนกันก็เห็นจริงตามนั้น
เป็นเรื่องใหญ่ที่ประเทศต่างๆ ต้องอาศัยความรู้ความสามารถของรัฐบาลในการบริหารจัดการอย่างรู้เท่าทัน และชาญฉลาดในการกำหนดมาตรการ และปฏิบัติการรับมืออย่างได้ผล
ประเทศที่รัฐบาลมีศักยภาพในการจัดการปัญหา ประชาชนก็พออุ่นใจได้บ้าง แต่ประเทศที่ได้รัฐบาลไม่ดีพอ ปัญหาที่ยุ่งยากในการจัดการอยู่แล้วเหล่านั้น ย่อมส่งผลหนักหนาสาหัสมากขึ้น
เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้มองมาที่ประเทศไทยของเราแล้วเกิดความรู้สึกน่าเศร้า
ประเทศเราได้รับผลกระทบจาก Geopolitics ไม่ต่างจากประเทศอื่น แต่การรับมือกับเชื้อโรคเท่านั้นที่พออุ่นใจได้บ้าง เพราะการบริหารจัดการที่ผ่านมาระบบสาธารณสุขของประเทศไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะดูแลประชาชน
ส่วนผลกระทบที่เกิดจากสงครามและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงนั้นเห็นได้ชัดว่าการรับมือของประเทศเราเป็นไปอย่างโกลาหล ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อปัญหาค่าครองชีพสูง ขณะที่การหารายได้ไม่ทันกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการอยู่รอดของธุรกิจมีปัญหา เช่นเดียวกับสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นและอากาศที่ร้อนขึ้นทำความทุกข์ให้ผู้คน ซ้ำยังต้องกังวลกับน้ำท่วมที่ยังมองไม่เห็นแผนที่จะรับมือ
เปล่า! ปัญหาของประเทศเราไม่ใช่ไม่ได้รัฐบาลที่มีความรู้ความสามารถ
นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่ทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการบริหาร และรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรีมีประสบการณ์ที่ต้องถือว่ามีความรู้ความสามารถ
แต่ที่น่าเศร้าคือทั้งที่มีความสามารถ และทุ่มเทในการทำหน้าที่อย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย แต่ดูเหมือนว่าการรับมือกับปัญหาที่เกิดจาก Geopolitics ดังกล่าว ไม่เพียงแต่ไม่มีอะไรทำให้รู้สึกว่าดีขึ้น ซ้ำยังมีภาพว่าแนวโน้มจะแย่ลงไปอีก แม้แต่ระบบสาธารณสุขที่เป็นจุดแข็ง ถึงวันนี้มีสภาพของ “การกินบุญเก่า” ที่ไม่รู้ว่าจะหมดลงไปเมื่อไร
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะต้องบริหารประเทศภายใต้โครงสร้างอำนาจที่ถูกออกแบบไว้ให้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้มากนักในการบริหารจัดการประเทศ มีกลไกอำนาจที่ควบคุมไว้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีทัศนคติในเชิงไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
เห็นได้ชัดเจนว่าแม้กระทั่งการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลให้การกระทำของรัฐบาลเป็นตามกฎหมายอย่างเข้มงวดแล้ว ยังกลับกลายเป็นว่าทำให้นายกรัฐมนตรีถูกพิจารณาว่าเป็นความผิดถึงขั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่กลไกราชการ ซึ่งทำหน้าที่มาอย่างยาวนานจะบกพร่อง หรือละเลยต่อความมั่นคงของผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด ที่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลขนาดนั้น
ความเป็นประเทศที่โครงสร้างอำนาจมีความสับสน ก่อความหวาดระแวง ท่ามกลางความแตกแยกโดยไม่มีใครคิดแก้ไขอย่างจริงจัง ทำให้รัฐบาลแม้จะมีผู้นำที่มีความรู้ความสามารถเพียงใดก็ทำงานยาก เพราะถูกสั่นคลอนอำนาจได้ทุกเมื่อ แม้กระทั่งจากกลไกที่ตามปกติควรจะเป็นเครื่องมือสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลยังให้ความไว้วางใจอะไรไม่ได้เลย
ท่ามกลางปัญหาใหญ่ระดับโลกที่รุมล้อมหลายด้าน อันมีความจำเป็นต้องร่วมกันรับมืออย่างจริงจังเพื่อแสดงพลังของความรู้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหมายถึงเกิดความมั่นใจในการบริหารอย่างราบรื่น
กลับกลายเป็นผู้บริหารต้องระมัดระวังทุกฝีก้าวจากโครงสร้างอำนาจที่สร้างขึ้นมาจากความหวาดระแวงอำนาจประชาชนนั้น
