เหลี่ยมโต๊ะกลม โดย จำลอง ดอกปิก

พรรคการเมืองตอบรับเวทีปรองดองเกินคาดหมาย จากแรกๆ จับสัญญาณจากน้ำเสียงดูขานรับแผ่วเบา อิดออดเหมือนไม่อยากร่วม หวั่นแค่พิธีกรรม สร้างภาพฉากใหม่

แต่เอาเข้าจริง ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี

รัฐมองฝ่ายการเมืองคือตัวการปัญหา การให้สัมภาษณ์ และท่าทีการแสดงออกในต่างกรรมต่างวาระที่ผ่านมา

ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ค่อยจะให้น้ำหนักกับคำพูดคำจาของนักการเมืองเท่าใดนัก

แม้แต่สื่อที่ถ่ายทอดความคิดความเห็นก็ยังถูกกระแนะกระแหน หาว่าตกเป็นเครื่องมือ กระบอกเสียงให้กับนักการเมือง ผู้ตกเป็นจำเลย ทำประเทศยุ่งเหยิง

ทั้งที่ไม่ควรมองข้ามเสียงเจ้าของอำนาจ ประชาชนทั่วไป นักธุรกิจ นักการเมือง หรือใครก็ตาม

และต้องรู้จักแยกแยะคนกับความ ไม่เหมารวม ดูแต่ชื่อแซ่-สังกัด

ตั้งแง่ ถ้าเป็นคนนี้เชื่อได้ อีกคนไม่รับฟัง ถึงพูดเรื่องเดียวกันก็ตาม

ไม่มีใครปฏิเสธว่านักการเมืองมิได้เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการก่อปัญหา

แต่ที่จริง วิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเฉพาะนักการเมืองเท่านั้น

มีคนหลายวงการเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งโดยตรงและทางอ้อม

วางแผน กระทำอย่างเป็นระบบขบวนการก็มี

ปากว่าตาขยิบ สารพัดวิธีการ ปูทางให้เข้าทาง

การไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ละเลยเพิกเฉย ก็เป็นอีกหัวข้อใหญ่

ปล่อยให้เกิดการทำลายกระบวนการทางรัฐสภา ปิดกั้นเลือกตั้ง

ใช้เป็นทางออกแก้ปัญหาประเทศไม่ได้

ฝีมือใคร?

ฉะนั้น ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองฝ่ายเดียวแน่นอนที่ก่อปัญหา

แต่ถึงกระนั้น ฝ่ายการเมืองที่เล่นในระบบ จะถูกผิด ดีเลว โดยโครงสร้างของระบบ สามารถแก้ไขปัญหาได้

ต้องรับผิดชอบต่อสภา รับผิดชอบต่อประชาชน และรับผิดชอบทางกฎหมาย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ประการสำคัญก็คือ พวกเขาเข้าสู่อำนาจโดยชอบธรรม ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน

ใครกันที่สับสนประชาธิปไตย

ยึดเอาอำนาจที่ไม่มีใครมอบฉันทานุมัติให้ไปใช้โดยพลการ

บ้านเมืองปกครองด้วยวิธีพิเศษมา 2 ปีกว่า

2 ปีที่ผ่านมา ไม่ต้องบรรยายอะไรอีก การเมืองว่าด้วยเรื่องสิทธิเสรีภาพ ภาวะเศรษฐกิจ สภาพสังคมเป็นที่ประจักษ์

เมื่อรัฐบาล คสช.ประกาศเอาจริงเอาจัง (อีกครั้ง)

ตั้งซุปเปอร์บอร์ด ป.ย.ป.-ยกหัวข้อปรองดองขึ้นโต๊ะกลมอย่างอึกทึกครึกโครม

ทุกฝ่ายพร้อมใจเห็นพ้อง-สนับสนุนเต็มที่

แม้แต่พรรคการเมืองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี คนที่เคยหวังแอบตั้งความหวังอีกครั้ง คนที่ไม่เชื่อแม้แต่น้อยแต่ก็ไม่นิ่งเฉยมองข้าม ยินดีร่วมมือเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาขัดแย้งอย่างไม่มีเงื่อนไข

สัปดาห์แรก บรรยากาศศาลาว่าการกลาโหมดำเนินไปอย่างคึกคัก

พรรคการเมืองตบเท้าเสนอความเห็น ปูทางสร้างความปรองดองสามัคคี

แต่ถึงกระเนื้อหาก็มิได้มีอะไรแปลกใหม่

ทุกอย่างสอดคล้องกับความเห็น สปท. นักวิชาการ และใครต่อใครก่อนหน้านี้ ที่ว่าไม่ต้องตั้งบอร์ดเล็กบอร์ดน้อยศึกษาอะไรอีกก็ได้

ผลศึกษา-แนวทางสร้างความปรองดอง แก้ขัดแย้ง ลดเหลื่อมล้ำ ฯลฯ มีอยู่เยอะแยะ สามารถหยิบจับมาใช้ได้เลย

ข้อเสนอพรรคการเมืองก็เหมือนกัน ให้ยอมรับผลการเลือกตั้ง ใช้กระบวนการทางรัฐสภาแก้ปัญหาการเมือง ไม่เล่นตามท้องถนน ยึดนิติธรรม นิติรัฐ มาตรฐานเดียว

ไม่มีอะไรใหม่

เรื่องเก่าผลศึกษาฝุ่นเขรอะ นักวิชาการ นักการเมืองชี้จุด-พูดกันทุกวี่ทุกวันทั้งนั้น

เรื่องใหม่มีอยู่เรื่องเดียว รัฐบาล คสช.จะแก้จริงหรือไม่

ทำใจ-ยอมรับผลเลือกตั้งครั้งใหม่ได้หรือไม่ ก็เท่านั้น

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่