ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
---|
มีความจำเป็นต้องมีการประเมิน ไม่ว่าจะมองจากด้านของทัพฮั่น ไม่ว่าจะมองจากด้านของทัพฌ้อ
ต้องยอมรับว่าค่ายกล “ไทอิด” ไม่ประสบความสำเร็จ
แม้จะสร้างความตื่นตระหนกในเบื้องต้นให้กับทัพฌ้อ กระทั่งเกิดภาวะรวนเรในเบื้องต้น
แต่จิ๋วลัน จงลิมวย ชิวอุนก็ไหวทัน
เป็นการสร้างความปั่นป่วนให้กับทัพฌ้อ แต่ก็มิได้ปั่นป่วนกระทั่งต้องอยู่ในสภาพพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
ปมเงื่อนอยู่ที่ไทก๋งยังอยู่ในกำมือฌ้อปาอ๋อง
ปัจจัยนี้สร้างความปั่นป่วนละล้าละลังให้กับทัพฮั่น มีก็แต่จางเหลียง ตันแผงเท่านั้นที่ยังยืนหยัดไม่ยอมอ่อนข้อ
แม้ว่าฮั่นอ๋องจะหวั่นไหวเป็นอย่างสูงก็ตาม
ฝ่ายพระเจ้าฮั่นอ๋องเมื่อตีทัพฌ้อแตกพ่ายไปเสด็จเข้าค่ายด้วยความวิตกด้วยพระบิดา จึงปรึกษาจางเหลียง ตันแผง
“พระบิดาเรารอดชีวิตแต่กลัวว่าวันหน้าฌ้อปาอ๋องจะฆ่า”
จางเหลียง ตันแผง ทูลว่า “ไต้อ๋อง อย่าได้วิตกไปเลย ข้าพเจ้าจะคิดไม่ให้พระบิดาเป็นอันตราย”
ว่าแล้ว จางเหลียง ตันแผง ก็ออกมาคิดกัน
เรียกหาทหารฌ้อปาอ๋องซึ่งจับมาได้และตกเป็นเชลย ทหารคนหนึ่งรูปร่างสะอาดเห็นทีจะมีสติปัญญาจึงเรียกเข้าไปในที่ลับ
เริ่มโอภาสอย่างสันถวมิตรอย่างเป็นพิเศษ
“เราดูลักษณะท่านควรที่จะเป็นขุนนาง เหตุใดไม่มียศถาบรรดาศักดิ์
เรารักท่านจะให้ได้ดีแม้นท่านรับธุระเราไปได้สมความคิด
จะทำนุบำรุงให้พระเจ้าฮั่นอ๋องชุบเลี้ยงท่านตามความชอบ”
เป็นท่าทีตรงไปตรงมา ให้ความเป็นมิตร สอบถามและเสนอความดีความชอบให้เป็นบำเหน็จรางวัล
“ท่านมีข้อความประการใดจงบอกมาข้าพเจ้าจะอาสาไป”
“เรากับไตสุมาเซี่ยงป๋อรักใคร่กันมาแต่ก่อนช้านานแล้วมิได้พบกัน ประกอบกับเรามีใจคิดถึง
จะมีหนังสือฝากไปให้เซี่ยงป๋อ
ถ้าท่านไปถึงค่ายฌ้อปาอ๋องอย่าให้ใครรู้ จำเพาะส่งให้แต่กับมือ หากเซี่ยงป๋อจะสั่งประการใดจงมาบอกกับเรา”
“การเพียงแค่นี้ไม่ยากนัก ท่านจงเขียนหนังสือมอบแก่ข้าพเจ้าเถิด
“จางเหลียงก็เขียนหนังสือเข้าผนึก แล้วเอาเข็มเย็บเข้าไว้กับมือเสื้อชั้นในของทหารผู้นั้น”
ฝ่ายทหารคำนับลาไป
กระบวนท่าของจางเหลียง กระบวนท่าของทหารซึ่งตกเป็นเชลย ย่อมเป็นการอันเกี่ยวกับการใช่จารชน แทรกซึม
“หากตระหนี่การใช้ยศศักดิ์ รางวัล จนมิรู้สภาพข้าศึก”
บนพื้นฐานแห่งอนุสาสน์ของซุนวูที่ว่า “การล่วงรู้ก่อนมิควรพึ่งผีสาง เทวดา มิควรยึดแบบอย่างในอดีต มิควรพึ่งฤกษ์เบิกยาม
แต่พึงฟังเอาจากคน ผู้รู้สภาพข้าศึก”
หากรับรู้ต่อกรณี “การเลี้ยงที่หงเหมิน” ก็ย่อมตระหนักในสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นยิ่งระหว่างเซี่ยงป๋อกับจางเหลียง
แม้กระทั่งการรับรู้เรื่องของ “หานซิ่น” ก็จากบ้านของเซี่ยงป๋อ
อย่าได้แปลกใจหากว่าจางเหลียงจะใช้สายสัมพันธ์เดิมแต่ด้วยกระบวนการใหม่เพื่อหาทางคลี่คลายการศึก
เป็นการคลี่คลายจาก “ข้อมูล” ในด้านของทัพฌ้อ
ครั้นทหารผู้ถือหนังสือลับของจางเหลียงเดินทางถึงค่ายหัวเมืองฌ้อปาอ๋อง กองตระเวนพบเข้าจึงถามว่า
“เจ้านี้ถูกทหารฮั่นอ๋องจับไป เหตุใดจึงกลับมาได้”
ทหารผู้นั้นจึงว่า “เราคิดถึงบุตร บิดามารดา ภรรยา ซึ่งอยู่เมืองเผิงเฉิงจึงอ้อนวอนทหารฮั่นอ๋องเขาก็มีใจเมตตาไม่ควบคุมจึงหนีมาได้
ท่านจงเอ็นดูพาไปหาไตสุมาเซี่ยงป๋อจะได้บอกบัญชีว่าเรากลับมา”
ครั้นรุ่งเช้าเซียงป๋อออกว่าราชการกองตระเวนก็พาเข้าไปแจ้งความ ไตสุมาเซี่ยงป๋อจึงถาม
“เอ็งไปอยู่ค่ายฮั่นอ๋องนั้นรู้จักจางเหลียงหรือไม่”
สะท้อนให้เห็น 1 เซี่ยงป๋อเองก็รับรู้ในการเคลื่อนไหวและดำรงอยู่ของจางเหลียง 1 เป็นความรับรู้ในความคิดถึง
นี่ย่อมเข้าทางตามที่จางเหลียงคาดหมายอยู่แล้ว
คําถามอันมาจากไตสุมา เซี่ยงป๋อ ย่อมเข้าทางของทหารจึงรีบสำนองคำตอบไปโดยพลัน
“เมื่อข้าพเจ้าไปอยู่ค่ายฮั่นอ๋องนั้น เขาจ่ายให้อยู่กับจางเหลียง
จางเหลียงออกชื่อท่านอยู่เนืองๆ ว่า ท่านมีคุณมามาก รักใคร่กันยิ่งนัก ซึ่งข้าพเจ้าหลบหนีมาครั้งนี้เพราะครอบครัวอยู่เมืองเผิงเฉิง”
“จางเหลียงพูดสิ่งใดหรือ จึงถามถึงเราบ่อย” เป็นคำถาม
ทหารผู้นั้นเห็นกองตระเวนกลับออกไป เมื่อไม่มีผู้ใดอยู่ จึงแก้หนังสือออกมาจากมือเสื้อส่งให้ไตสุมา เซียงป๋อ
เซี่ยงป๋อฉีกผนึกออกอ่านได้ความว่า
หนังสือจางเหลียงให้มาถึงไตสุมา เซี่ยงป๋อ ด้วยเป็นเพื่อนรักกันมาแต่ก่อน เราจากกันมาแต่บ้านเซี่ยเผย
ได้พบกันที่เมืองเสียนหยางครั้งหนึ่งแล้วจากกันมา
เราคิดว่าจะไปเที่ยวอยู่ป่าแลเขาหาความสุข มิได้สังเกตว่าได้ทำราชการด้วยพระเจ้าฮั่นอ๋อง เราคิดจะใคร่บำรุงแผ่นดินจึงมาแอบอยู่ด้วย ไม่อาจทิ้งพระเจ้าฮั่นอ๋องได้
ตัวเราเปรียบเหมือนนกบินมาหาคน คนก็คิดเอ็นดูนก
บัดนี้ พระเจ้าฮั่นอ๋องมีทุกข์เรากับท่านจะนิ่งอยู่ได้หรือ ด้วยอุบายฌ้อปาอ๋องคิดจะฆ่าไทก๋งเพื่อให้พระเจ้าฮั่นอ๋องถอยทัพ ซึ่งพระเจ้าฮั่นอ๋องมาตั้ง ณ เมืองเซงโก๋ เพราะไม่มีที่จะถอยไปอยู่ที่อื่น
ถ้ากองทัพพระเจ้าฮั่นอ๋องไม่ถอยไปฌ้อปาอ๋องจะเอาไทก๋งทอดน้ำมันเสีย ถ้าไทก๋องเป็นอันตราย ไปข้างหน้าท่านกับพระเจ้าฮั่นอ๋องรับคำว่าเป็นเกี่ยวดองกันนั้นจะมีหน้าไปหาพระเจ้าฮั่นอ๋องอย่างไรได้
จึงแต่งหนังสือมาให้ท่าน
ถ้าฌ้อปาอ๋องจะทำโทษแก่ไทก๋งเมื่อใด ท่านจงช่วยทัดทานแก้ไขให้รอดชีวิต ทั้งไทก๋องและฮั่นอ๋องก็จะไม่เป็นคนอกตัญญู ท่านจงทำไมตรีไว้ สืบไปเบื้องหน้าจะมีทั้งบุญแลคุณต่อกัน
ถ้าเห็นแก่ไมตรีเรา จะรับธุระประการใด จงแต่หนังสือบอกให้ทหารผู้นี้ถือกลับมาให้เรารู้
เราจะได้แก้ทุกข์พระเจ้าฮั่นอ๋องให้ค่อยสบายพระทัยขึ้น
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ไตสุมา เซี่ยงป๋อ ไม่เพียงแต่ดำรงตำแหน่งเป็นไตสุมา หากแต่ยังเป็นคนในตระกูลเซี่ยง
เช่นเดียวกับฌ้อปาอ๋อง หรือเซี่ยงอวี่
นี่ย่อมเป็นสถานะอันสูงยิ่งเมื่อมองจากอำนาจที่อยู่ในมือของเซี่ยงอวี่ หรือฌ้อปาอ๋อง
อย่าลืมเหตุการณ์อันเนื่องแต่ “งานเลี้ยงที่หงเหมิง” เป็นอันขาด
หากมิใช่เพราะเซี่ยงป๋อหรอก หรือที่นำความนัยมาแจ้งให้จางเหลียงได้รับรู้และเล่ารายละเอียดแก่เพ่ยกง หรือฮั่นอ๋องในวันนี้กระทั่งกลายเป็นสายสัมพันธ์อันลึกซึ้ง
เมื่อเล่าปัง เพ่ยกง ยกลูกสาวให้เป็นภรรยาเซี่ยงป๋อ