ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
---|
สุจิตต์ วงษ์เทศ : ปากน้ำโพของแม่น้ำน่าน
ปากน้ำโพ (จ.นครสวรรค์) ได้ชื่อจากแม่น้ำโพ (จ.อุตรดิตถ์) ไหลออกปากน้ำที่นครสวรรค์
แม่น้ำโพเป็นลำน้ำสาขาไหลรวมแม่น้ำน่านที่อุตรดิตถ์ แต่คนสมัยก่อนเรียกแม่น้ำน่านว่าแม่น้ำโพ (พบหลักฐานเก่าสุดเป็นรายงานการสำรวจของฝรั่ง สมัย ร.5) มีปากน้ำที่นครสวรรค์ เลยเรียกตรงนั้นว่าปากน้ำโพ
น่าน แปลว่า น้ำ
น่าน แปลว่าน้ำ มักเรียกซ้ำซ้อนกันว่าน่านน้ำ
ต่อมาหมายถึงเขต, ย่าน เช่น น่านฟ้า แปลว่าเขตพื้นที่ทางอากาศ
มีร่องรอยอยู่ในคำบอกเล่ากำเนิดเมืองน่าน เกี่ยวกับปัญหาแล้งน้ำ และต้องการแหล่งน้ำ มีในราชวงศ์ปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน ดังนี้
แม่ท้าวคำปิน (นางพระยาของพระยาเก้าเกื่อน เจ้าเมืองปัว) ท้องแก่ออกจากเมืองปัวไปอาศัยกระท่อมชาวไร่อยู่ป่า หนีทัพเมืองพะเยาที่ยกไปยึดเมืองปัว
ต่อมาคลอดลูกชาย แล้วรำพันว่าแล้งนัก ลำบากยากเข็ญ หาน้ำกินน้ำอาบก็ไม่ได้
พอขาดคำก็เกิดพายุฝนห่าใหญ่ตกลงมามากนัก “น้ำก็นองพัดก้อนหินก้อนผา น่าสะพรึงกลัวมากนัก”
เมื่อฝนหายจนขาดเม็ดแล้ว แม่ท้าวคำปินอุ้มลูกชายไปนั่งบนก้อนหินที่ไหลนองมากับน้ำ แล้วอาบน้ำลูกชายสบายดี
หลังจากนั้นทัพเมืองพะเยายกกลับ กระทั่งลูกชายแม่ท้าวคำปินได้เป็นเจ้าเมืองปัวแทนบิดา (คือ พระยาเก้าเกื่อน) แล้วได้นามครองเมืองตามนิมิตว่า พระยาผานอง เหตุจากเมื่อเกิดมานั้นหาน้ำอาบกินไม่ได้ จนเกิดพายุฝนตกใหญ่มีน้ำนองพัดก้อนหินก้อนผามามากนัก
ลูกชายพระยาผานอง ชื่อ ผากอง เป็นเจ้าเมืองปัว (สืบต่อจากพ่อ) หาแหล่งสร้างเมืองใหม่ที่มีน้ำสมบูรณ์อยู่บริเวณห้วยไค้ แล้วเรียก เวียงน่าน เพราะเมื่อย้ายจากเมืองปัวอยู่ชั่วคราวที่เวียงพระธาตุแช่แห้งก็แล้งน้ำกันดารมาก
แม่น้ำน่าน มีต้นน้ำเกิดจากดอยภูแว ใน อ.ปัว จ.น่าน ในทิวเขาหลวงพระบาง แบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ไหลไปทางทิศเหนือ เข้า อ.ทุ่งช้าง แล้ววกลงทางใต้ ผ่าน อ.พรหมพิราม ผ่านเขื่อนนเรศวร ผ่าน อ.เมืองฯ, อ.บางกระทุ่ม
เข้าเขต จ.พิจิตร ผ่าน อ. เมืองฯ, อ. ตะพานหิน, อ. บางมูลนาก
เข้าเขต จ.นครสวรรค์ ผ่าน อ.ชุมแสง มีแม่น้ำยมไหลมารวมที่บ้านเกยไชย
ไหลต่อไปทางใต้ เข้าเขต อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ มีแม่น้ำปิงไหลมาบรรจบ ใน ต.แควใหญ่ จากนั้นรวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากน้ำ
รวมความยาวของแม่น้ำน่าน 740 กม.
[อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย เล่ม 1 ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (แก้ไขเพิ่มเติม) พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2545 หน้า 114-115]