ผู้เขียน | พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก |
---|
ท่านผู้อ่านที่ได้พบปะพูดคุยกับผู้เขียนต่างกล่าวตรงกันว่า นึกไม่ถึงและไม่เคยทราบมาก่อนว่า การใช้ชีวิต การทำงานการเมืองในประเทศที่มีเสรีภาพแบบสหรัฐอเมริกา จะมีเหตุการณ์ดวลดาบ ดวลปืน ที่จะต้องปกป้องเกียรติยศ ชื่อเสียง ต้องเอาชีวิตเข้าแลก ตรรกะของสังคมในเวลานั้น คือ เมื่อคุณกล้ากล่าวหา-ทำร้ายด้วยคำพูด-ดูหมิ่น-ก้าวล่วงสิทธิของผู้อื่น คุณต้องกล้ารับผิดชอบ
ขอย้ำอีกครั้งว่า ข้อมูลเหล่านี้เป็นหลักฐานที่รัฐสภาสหรัฐบันทึกไว้ รวมทั้งข้อมูลจากหลายสำนักอาจจะแตกต่างกันไปบ้างในรายละเอียด แต่ทั้งนี้เพื่อการศึกษาของคนรุ่นหลัง ลองมาติดตามอีก 2 คู่ขัดแย้งครับ
อับราฮัม ลินคอล์น ดวลดาบกับ เจมส์ ชิลด์ (Lincoln-Shields Duel)
อับราฮัม ลินคอล์น เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2342 พ่อ-แม่ลินคอล์นเป็นชาวนาไม่ได้เรียนหนังสือ มีฐานะยากจนอยู่ในรัฐเคนตักกี
ในปี พ.ศ.2359 ครอบครัวของลินคอล์นมีชีวิตที่แสนลำเค็ญ ตอนอายุ 9 ขวบ แม่ตายเพราะดื่มนมวัวที่มีสารพิษ ชีวิตต้องระเหเร่ร่อนต่อไปจนถึงชนบทในรัฐอิลลินอยส์ เด็กชายลินคอล์นไปโรงเรียนเพื่อให้อ่านออกเขียนได้เพียง 18 เดือน เด็กคนนี้หัดอ่านเขียนเรียนหนังสือด้วยตัวเองที่บ้าน
ลินคอล์นมุมานะศึกษาด้วยตนเอง จนจบปริญญาด้านกฎหมาย เคยรับราชการทหารมียศร้อยเอก ลาออกมาเป็นทนายความ มีชื่อเสียงเรื่องความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐอิลลินอยส์ และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)
สิงหาคม พ.ศ.2385 ธนาคารของรัฐอิลลินอยส์ล้มละลายและประกาศไม่ขอรับธนบัตรเพื่อทำธุรกรรม ขอให้ใช้ทองและเงินมาชำระแทน ซึ่งในเวลานั้นประชาชนไม่มีใครสะสมเงิน-ทองไว้
เจมส์ ชิลด์ เป็นผู้ตรวจบัญชีที่เป็นคนของพรรคเดโมแครต รีบออกมาประกาศสนับสนุนและขอให้ปิดธนาคารไปซะเลย
นักกฎหมายหนุ่มชื่อ ลินคอล์น ที่เป็นเพื่อนกับเจ้าของหนังสือพิมพ์ซากาโม (Sangamo) เลยขอส่งจดหมายใช้นามแฝงว่า รีเบคกา เขียนวิจารณ์นายชิลด์ผู้ตรวจบัญชีของรัฐในทำนองว่าเป็น “พวกไอ้ห้อย-ไอ้โหน เป็นคนโกหก”
ชิลด์เดือดจัด สอบถามไปที่บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ซึ่งต่อมาทราบว่าลินคอล์นเป็นคนเขียนจดหมายดังกล่าว การท้าดวลปืนจึงเกิดขึ้น
ชิลด์ส่งจดหมายขอท้าดวลกับลินคอล์น โดยให้ไปดวลที่ Bloody Island (เกาะกระหายเลือด : ผู้เขียน)
ลินคอล์นเป็นฝ่ายถูกท้าดวล จึงมีสิทธิที่จะเลือกอาวุธก่อน ด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ ลินคอล์นเลือกที่จะใช้ดาบทหารม้าขนาดใหญ่ที่สุด (แบบใบมีดแบนกว้าง) ถ้าหากเลือกใช้ปืน ชิลด์จะได้เปรียบทันที เพราะลินคอล์นสูง 193 ซม. ในขณะที่ชิลด์สูงเพียง 173 ซม.
22 กันยายน คือ วันดวลดาบ ชิลด์และลินคอล์นลงเรือพายจากเมืองแอลตัน (Alton) ข้ามแม่น้ำมิสซิสซิปปี พร้อมกรรมการ 3 คนไปที่เกาะกระหายเลือด ใกล้เมืองเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ยอดนิยมที่นักดวลจะมาชิงชัยกันด้วยชีวิตอยู่หรือตาย เมื่อถึงสนามเกียรติยศ (Field of Honor) คู่ดวลรับฟังการเกลี้ยกล่อมจากกรรมการเพื่อไกล่เกลี่ยไม่ต้องดวลดาบ แต่ทั้งสองตกลงกันไม่ได้ สุภาพบุรุษทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน ต่างถือดาบขนาดใหญ่โดยมีไม้กระดานแผ่นใหญ่อยู่ตรงกลางที่เหยียบเข้าไปไม่ได้
ลินคอล์นตวัดดาบแหวกอากาศเหนือศีรษะของคู่ต่อสู้ คมดาบไปฟันกิ่งไม้ร่วงลงพื้น ชิลด์ถึงกับผงะเพราะหมายถึงรัศมีดาบของลินคอล์นที่ยาวกว่าของตนอย่างเห็นได้ชัด
ชิลด์ขอพักการดวลเพื่อตั้งหลัก กรรมการควบคุมการดวล เกลี้ยกล่อมชิลด์ให้เห็นข้อเสียเปรียบในการใช้ดาบ และโอ้โลมขอให้ลินคอล์นกล่าวขอโทษ ซึ่งลินคอล์นก็เอ่ยปากว่า ที่ผ่านมามิได้มีเจตนาจะทำร้ายชื่อเสียงของชิลด์แต่อย่างใด บรรยากาศคลี่คลายทันที และเมื่อเป็นที่พอใจทุกฝ่าย การดวลดาบจึงยุติลงตรงนั้น
นี่ก็เป็นประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้เพื่อการเรียนรู้ เมื่อทำผิดก็ต้องกล้ารับผิดและต้องขอโทษ และพึงอย่าให้เสรีภาพของตนไปรุกล้ำเสรีภาพของผู้อื่น
เหลือเชื่อนะครับ อีก 20 ปีต่อมาในระหว่างสงครามกลางเมืองในอเมริกา เจมส์ ชิลด์ คือ พลจัตวาในกองทัพบกซึ่งมีลินคอล์นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ (ประธานาธิบดีสหรัฐเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดโดยตำแหน่ง) การรบที่เมืองชานาโดห์เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2405 พลจัตวาชิลด์บาดเจ็บจากการรบ ลินคอล์นตอบแทนความกล้าหาญ โดยเลื่อนให้ชิลด์เป็น พลตรี ความบาดหมางทางจิตใจระหว่างคนทั้งสองจึงมลายหายไปสิ้น
ขอแถมประวัติของลินคอล์นให้ท่านผู้อ่านครับ อับราฮัม ลินคอล์น ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐ ตลอดช่วงแข่งขันเป็นประธานาธิบดี ลินคอล์นไม่ได้รณรงค์หาเสียงหรือกล่าวสุนทรพจน์แต่อย่างใด พรรครีพับลิกันชูประเด็นสำคัญของพรรค 2 เรื่อง คือ หนึ่ง นโยบายของพรรคที่จะเลิกทาส และนำชีวประวัติของลินคอล์นเด็กชาวนาที่ยากจน มีความอัจฉริยภาพโดยกำเนิดมาเป็นจุดแข็งในการรณรงค์ และได้รับเลือก
15 เมษายน พ.ศ.2408 เขาถูกลอบสังหารขณะชมการแสดงละครในโรงละคร ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมือปืนคือ จอห์น วิลค์ส บูธ นักแสดงละครเวทีชื่อดังที่ยิงเข้าศีรษะจากด้านหลัง ลินคอล์นเสียชีวิตในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นการลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐครั้งแรก นักวิชาการและสังคมอเมริกันจัดลินคอล์นเป็น 1 ใน 3 ประธานาธิบดีสหรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างต่อเนื่อง
การดวลปืนที่ต้องดวลกัน 2 รอบ ระหว่าง เบนตัน-ลูคัส (Thomas Hart Benton-Charles Lucas Duel)
เบนตัน ในวัยหนุ่มเคยเป็นทหารร่วมรบในแนวหน้า เบนตันเคยผ่านการดวลปืน ใช้อาวุธมาโชกโชนระหว่างอยู่ในสนามรบ
วันหนึ่งในปี พ.ศ.2359 เบนตันต้องไปให้การในศาล ชาร์ลส ลูคัส นักกฎหมายหนุ่มไฟแรงกล่าวพาดพิงในด้านลบต่อเบนตันขณะพิจารณาคดีในศาล ในที่สุดเบนตันแพ้คดี เลยขอท้าลูคัส ผู้ไม่เคยจับปืนมาก่อน แต่ลูคัสขอปฏิเสธการดวลปืน
4 สิงหาคม พ.ศ.2360 เบนตันและลูคัสบังเอิญไปพบกันที่หน่วยลงคะแนนเลือกตั้งในเมือง ลูคัสคะนองปากส่งเสียงถามเบนตันว่า คนที่ไม่จ่ายภาษีอย่างคุณ มีสิทธิลงคะแนนด้วยรึ?
เบนตันเลยสวนออกไปว่า “ผมไม่เคยคิดจะตอบคำถามของไอ้ลูกหมาที่กำลังวิ่งผ่านหน้าผม”
ลูคัสตัดบท เอ่ยปากขอท้าดวลปืน
12 สิงหาคม 2360 การดวลปืน ณ เกาะกระหายเลือด (Bloody Island) ในแม่น้ำมิสซิสซิปปี เมืองเซนต์หลุยส์ ผลการดวลปรากฏว่า ลูคัสถูกยิงที่ลำคอบาดเจ็บ ส่วนเบนตันกระสุนเฉียดลำตัวไปหวุดหวิด แม้กระนั้นลูคัสยังดันไปถามเบนตันว่า พอใจรึยัง ?
เบนตันตอบแบบเลือดเย็นว่า “ยังไม่พอใจ”
กรรมการที่ดูแลการดวล ขอให้พักไว้ก่อนเพื่อให้ลูคัสไปรักษาอาการบาดเจ็บและจะต้องกลับมาดวลกันใหม่ ในช่วงเวลานั้น บรรดาผู้ใกล้ชิดที่ทราบเรื่องต่างทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้มีการดวลปืนรอบสองล้างตา (rematch)
สื่อมวลชนออกข่าวว่า เบนตันเกิดอาการปอดแหกซะแล้ว ไม่กล้าไปดวลรอบสอง เบนตันเลยส่งจดหมายไปยืนยันการดวลโดยขอยิงกันที่ระยะ 9 ฟุต
26 กันยายน 2360 หลังจากลูคัสรักษาแผลจนเกือบหายดี จึงไปสนามดวลเป็นครั้งที่ 2 เมื่อทั้งสองเดินไปเพียง 9 ฟุต กรรมการออกคำสั่ง “ยิง” เบนตันกลับหลังหันแล้วลั่นกระสุนออกไปพุ่งเข้าหน้าอกของลูคัส ในขณะที่ลูคัสกลับหลังหันช้าและยังไม่ทันยกปืน
ลูคัสตะโกนออกไปว่า “ผู้พัน! คุณฆ่าผม ผมจะไม่มีวันให้อภัย”
ลูคัสเสียชีวิตในนาทีต่อมา ส่วนเบนตันปลอดภัย เบนตันไปลงสนามเลือกตั้งท่ามกลางเสียงคัดค้านด้านจริยธรรมและได้เป็นสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐยาวนาน 30 ปี เสียชีวิตในปี พ.ศ.2401 ซึ่งก่อนเสียชีวิตเขาเคยกล่าวแสดงความเสียใจที่เขาคือผู้สังหารลูคัส
สังคมอเมริกัน สื่อมวลชนประณามการดวลปืนสุดเหี้ยมโหดครั้งนี้แบบยับเยิน รวมทั้งชาวเมืองเซนต์หลุยส์ต่างอับอายที่บ้านเมืองของตนเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ปล่อยให้มีเหตุฆาตกรรมบนเกาะกระหายเลือดบ่อยครั้ง ผู้พิพากษาสูงสุดสั่งให้ยุติการใช้สถานที่เกาะนรกกระหายเลือดเป็นสถานที่ดวลปืนอย่างเด็ดขาด
ตั้งแต่นั้นมา “ค่านิยมการดวลปืน” ของบุคคลสำคัญก็ค่อยๆ จางหายไปและเลิกรากันไปในที่สุด
การดวลปืน-ดวลดาบในประวัติศาสตร์ทั้ง 5 คู่นี้ นักดวลทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีการศึกษา หน้าที่การงานในระดับสูงทั้งสิ้น เป็นประวัติศาสตร์ของชนชาติอเมริกันที่เปิดเผยเพื่อการเรียนรู้ และสำนึกของคนรุ่นหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.civilwar.org/…/lincoln…/abraham-lincolns-duel.html
(https://www.stltoday.com/users/profile/toneil)