จาก 2559-2560 สถานการณ์ ธรรมกาย มา ‘ไกล’ อย่างยิ่ง

หากมอง “ย้อน” กลับไปยังคดีอันเกี่ยวกับการทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเริ่มต้นจาก “นายศุภชัย” ในฐานะจำเลย

มาถึงเดือนมีนาคม 2560 ถือว่ามา “ไกล”

เพราะเริ่มต้น “หมายเรียก” ในคดีรับของโจร และคดีฟอกเงินแล้วก็พัฒนาขึ้นเป็น “หมายจับ” ในเดือนพฤษภาคม

แล้วก็พัฒนาเป็น “หมายค้น” ในเดือนมิถุนายน 2559

Advertisement

เมื่อ “หมายค้น” ที่ได้มาประสบความล้มเหลว ที่สำคัญก็คือ เมื่อไม่สามารถรุกเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายได้ นั่นก็คือ อาคารดาวดึงส์

เดือนธันวาคม 2559 มีความพยายามขอ “หมายค้น” อีก

เป็นความพยายาม “ประสาน” ทั้งการหารือร่วมกันระหว่าง “ดีเอสไอ” กับ “วัดพระธรรมกาย” และการขีดเส้นตายเส้นแล้วเส้นเล่า การขยายคดีความอันเกี่ยวกับ “วัดพระธรรมกาย” ออกไป

Advertisement

รวมแล้วเป็นมากกว่า 300 คดี

ที่สุดปฏิบัติการในเดือนธันวาคม 2559 ก็ล้มเหลวเหมือนกับปฏิบัติการในเดือนมิถุนายน 2559 อันเป็นเหมือนกระดานหกเป็นปฏิบัติการในเดือนกุมภาพันธ์ 2560

เหตุปัจจัยอะไรจึงสรุปว่า “สถานการณ์” มา “ไกล” อย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของ “ดีเอสไอ” ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของ “วัดพระธรรมกาย” เหมือนกับยากเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถหันหน้าเข้าหากัน

พลันที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 5/2560 ออกมา

พลันที่มีการนำเอา “มาตรา 44” ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557

มาเป็น “เครื่องมือ” ในการจัดการกับปัญหา

ตอบได้เลยว่า หนทาง “ประนีประนอม” ไม่เหลืออยู่

มีการสนธิกำลังทั้งดีเอสไอ ทั้งตำรวจ

ทั้งทหาร และหน่วยปกครองเข้าด้วยกันด้วยจำนวนไม่ต่ำกว่า 3,000 ในเบื้องต้น

และบัดนี้น่าเชื่อว่าจะทะยานเข้าไปยังไม่ต่ำกว่า 4,000 แล้ว

ไม่เพียงแต่จะมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 5/2560 หากแต่ยังตามมาด้วยคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 12/2560

จากนั้นก็มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีถอด “สมณศักดิ์”

ประสานเข้ากับการกระชับพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นที่ “ตลาดกลาง” คลองหลวง ไม่ว่าจะเป็นที่ทางเข้าสู่อาคาร “บุญรักษา”

เท่ากับยืนยันว่าเหลือเพียง “บุก” เข้าไปหนทางเดียว

กล่าวสำหรับทางด้าน “วัดพระธรรมกาย” ไม่มีทีท่าว่า พระไชยบูลย์ สุทธิผล จะออกมามอบตัวตามข้อเรียกร้องที่ดังตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559

และดังอย่างเฉียบขาดในเดือนมีนาคม 2560

แม้จะมี “หมายเรียก” จาก 14 รูปในฉบับแรก และค่อยๆ พัฒนาขยายตัวเข้าไปสู่หลัก 100 ในแต่ละวัน

แต่ดูเหมือนแกนระดับ “บน” ไม่มีเสียง “ขานรับ”

ที่กระหึ่มมาจากภายในวัด ที่กระหึ่มในพื้นที่ตลาดกลาง คลองหลวง คือเสียงสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร ดังอย่างสม่ำเสมอ

คำประกาศพร้อม “พลีชีพ”

ไม่ว่าจะเป็นพระที่ร่วมอยู่กับประชาชนในพื้นที่ “ตลาดกลาง” คลองหลวง ไม่ว่าพระที่สงบเงียบอยู่ภายในวัดต่างแสดงออกไปในทางเดียวกัน

นั่นก็คือ “หลวงพ่อ” บริสุทธิ์

ไม่ว่าคนที่เคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับ “คอมมิวนิสต์” ในสงครามกลางเมืองจากปี 2508 กระทั่งปี 2524

ไม่ว่าคนที่เคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับสถานการณ์ชายแดน “ภาคใต้”

ต่างนิ่งเงียบไม่สามารถแสดงออกอะไรได้ เพราะหนทางในการเจรจา หนทางในการพบกันครึ่งทางไม่เหลืออยู่เลย

การ “จบ” ในอีก 2-3 วันข้างหน้าจึงสำคัญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image