ท่าที ผ่อนคลาย ‘ธรรมกาย’ เปิด ‘วัด’ ตั้งแต่ 10 มีนาคม

มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงว่า “จุดจบ” ของ “วัดพระธรรมกาย” จะต้องเกิดขึ้นพลันที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 5/2560 ประกาศออกมา

คำว่า “อวสาน” จึง “ปรากฏ” ขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นพาดหัวอย่างชนิดที่เรียกว่า “ตัวไม้” บนหน้าแรกของสื่อหนังสือพิมพ์อันถือว่าเป็น “สื่อเก่า” ไม่ว่าจะเป็น “คอมเมนต์” ในโลกออนไลน์อันถือว่าเป็น “สื่อใหม่”

ยิ่งเมื่อกองกำลังดีเอสไอกับตำรวจเดินเรียงแถวหน้ากระดานเข้าไปในแต่ละอาคารภายในวัดพระธรรมกายระหว่างวันที่ 16 ต่อเนื่องไปยังวันที่ 17 กุมภาพันธ์

Advertisement

ยิ่งมากด้วย “ความมั่นใจ”

พลันที่มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี เหลือเพียงพระไชยบูลย์ สุทธิผล ถอดถอน พระราชภาวนาจารย์ เหลือเพียง พระเผด็จ ทัตตชีโว

ตามมาด้วยการชงเรื่องของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ผ่านวาระจรในวันที่ 10 มีนาคม เพื่อสึก พระไชยบูลย์ สุทธิผล

Advertisement

คำว่า “ปิดเกม” ยิ่งมากด้วยความโดดเด่น

 

กระนั้น ปรากฏการณ์อันถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากของสถานการณ์ในวันที่ 10 มีนาคม ดำเนินไปเหมือนกับเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

1 มีการประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณากรณี พระไชยบูลย์ สุทธิผล

ขณะเดียวกัน 1 มีข้อตกลงร่วมกันระหว่าง “วัดพระธรรมกาย” กับ “ดีเอสไอ” ให้มีการเข้าไปตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย ไม่ว่าจะเป็น “อาคารดาวดึงส์” ไม่ว่าจะเป็น “อาคารบุญรักษา”

ไม่เพียงมี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ หากยังมี พล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดปทุมธานี นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และ พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี

ผลการตรวจสอบ 1 ไม่พบ พระไชยบูลย์ สุทธิผล และ 1 ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ อันถือว่าผิดกฎหมาย

ตอนเย็นวันเดียวกันนั้น “สถานการณ์” ก็ผ่อนคลาย

พระภิกษุ สามเณร ซึ่งตกค้างอยู่นอกวัดได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายในวัด เช่นเดียวกับบรรดาอุบาสกอุบาสิกาต่างเดินพนมมือพร้อมกับดอกบัว

ความปีติ ชื่นบาน เกิดขึ้นภายในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ของวัดพระธรรมกาย

 

ต้องยอมรับว่าการเคลื่อนไหวในวันที่ 10 มีนาคม ไม่ว่าที่มหาเถรสมาคม ไม่ว่าที่วัดพระธรรมกายมีลักษณะอันเป็น “จุดตัด” อย่างสำคัญของสถานการณ์

เป็นจุดตัดอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าบางคนจะรู้สึกอย่างไร หงุดหงิดกระทั่งประเมินว่าคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 5/2560 แทบไม่มีความหมาย

กลายเป็นเหมือนกับ “มวยล้มต้มคนดู”

ไม่ว่าบางคนจะประเมินว่า พลันที่เรื่องการสึก พระไชยบูลย์ สุทธิผล เข้าสู่การพิจารณาของมหาเถรสมาคมเท่ากับเป็นการนับถอยหลัง

แต่ความเป็นจริงที่มิอาจปฏิเสธได้ก็คือ สถานการณ์ “คลี่คลาย”

การประจันหน้าไม่ว่าที่ตลาดกลาง คลองหลวง ไม่ว่าบริเวณโดยรอบวัดพระธรรมกาย ได้หมดสิ้นไปโดยพื้นฐาน

เสียงสวดมนต์ดังกระหึ่มที่ภายในวัดพระธรรมกายแทน

 

บทบาทของดีเอสไอประสานกับบทบาทของตำรวจ คือ การตามจับตัว พระไชยบูลย์ สุทธิผล

หากสรุปว่าจุดอ่อนและความบกพร่องแต่กาลอดีต คือ จุดอ่อนทางด้าน “การข่าว” ก็มีความจำเป็นต้องปรับและเพิ่มเครือข่ายให้เข้มข้น

กระนั้น กิจกรรมภายใน “วัดพระธรรมกาย” ก็สมควรเดินหน้าต่อไป

ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ “บูชาข้าว” ไม่ว่าจะเป็นการสวดพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตรจนกว่าจะครบ 30,000,000 ตามเป้าหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image