ผู้เขียน | พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก |
---|
ภาพเก่าเล่าตำนาน : ทำไมจีนจึงเรียกว่า…กองทัพปลดปล่อยประชาชน
รากเหง้า ที่มาของชื่อนี้ ภูมิใจ เตือนสติ บอกชาวโลกได้
จีนเรียกชื่อกองทัพของตัวเองว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA : People Liberation Army)
แผ่นดินจีนที่กว้างสุดขอบฟ้า คือ สนามประลองกำลังกันมาช้านานหลายพันปี มีชนเผ่า มีเจ้าผู้ปกครอง มีฮ่องเต้ มีขุนพล ขุนศึก ที่นำพาไพร่พลเข้าสู่สนามรบ แย่งชิงอำนาจ สู้กันเองในแผ่นดิน รบกันต่อเนื่อง ตายไปหลายล้านคน
ที่โด่งดังไปทั่วโลก ไม่มีใครทำได้ คือ มีหินแกะสลักเป็นรูปของทหารแต่ละคนนับหมื่นตัว ฝังไว้ใต้ดิน มีแม่ทัพนายกอง ชื่อ สุสานฉินสื่อหวงตั้งอยู่ในเขตหลินถง ซีอาน มณฑลฉ่านซี ของประเทศจีน ที่ชาวจีนสร้างขึ้นมากว่า 2 พันปีที่แล้ว
แผ่นดินจีน ยังถูกชาติมหาอำนาจตะวันตก ยกทัพมาแบ่งแยกแผ่นดินรุกราน ข่มเหง ปล้นสะดมอีกต่างหาก
รบกันเองยังไม่พอ
พ.ศ.2493 ยังส่งทหารนับแสนไปช่วยเกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้ ทหารจีนใช้ยุทธวิธี “คลื่นมนุษย์” (Human Wave)
เมื่อรบด้วยวิธีรุก นักรบจีนจะพร้อมใจกันลุกขึ้น ถือปืน วิ่งเข้าใส่ศัตรูแบบเรียงหน้ากระดาน ทั้งๆ ที่รู้ดีว่า กำลังวิ่งเข้าหาห่ากระสุน ยิงใส่ข้าศึกได้บ้าง…ทหารจีนกล้าหาญ มีวินัย ล้มตายดั่งใบไม้ร่วง
เมื่อระลอกแรกละลาย ตายไปหมด จะตามมาด้วยระลอกที่ 2
ทหารอเมริกันที่ไปช่วยเกาหลีใต้รบดุเดือด ยังสรรเสริญนักรบทหารจีนที่พลีชีพ บ้าเลือด ใจดั่งเหล็กเพชร บุกเข้ามาให้ทหารอเมริกัน (รวมทั้งทหารไทย) ต่อสู้แบบรบประชิด…น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
1 ในสงครามที่ “ล้างผลาญ” ชีวิตชาวจีนนับล้าน ที่วันนี้ยังไม่สิ้นแค้น คือ สงครามที่กองทัพญี่ปุ่นบุกแผ่นดินจีน เพื่อยึดดินแดน ยึดทรัพยากร ทหารญี่ปุ่นนำชาวจีนไปเป็นแรงงานเยี่ยงทาส รวมถึงการสังหารประชาชนชาวจีนนับหมื่น แบบสนุกสนาน บันเทิงใจ ที่เมืองนานกิง และอีกหลายเมือง รวมถึงนำหญิงจีนไปเป็น “นางบำเรอ” ของทหาร
ที่น่าสะเทือนใจที่สุด ไม่มีใครช่วยได้ คือ ชาวจีนฆ่ากันเอง
ผู้เขียนขอรวบรัดตัดความครับ…
พ.ศ.2454 เกิดการปฏิวัติราชวงศ์ชิงล่มสลาย ดร.ซุน ยัตเซ็น เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสาธารณรัฐจีนและไม่นานหลังจากนั้น หยวน ชื่อไข่ ก็สืบทอดตำแหน่งต่อมา
ไม่น่าเชื่อที่ หยวน ชื่อไข่ พยายามจะสถาปนาตัวเองให้เป็นจักรพรรดิของแผ่นดินจีน หากแต่ล้มเหลว
พ.ศ.2459 หยวน ชื่อไข่ เสียชีวิต แผ่นดินจีนร้อนระอุ ทุกฝ่ายดิ้นรนเพื่อแย่งชิงอำนาจกันเอง
ซุน ยัตเซ็น หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ชิงไปจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในเมืองกว่างโจว เพื่อแข่งขันกับบรรดาขุนศึกที่ปกครองพื้นที่ขนาดใหญ่ของจีนและขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลกลาง
ซุน ยัตเซ็น ดิ้นรนไปขอความช่วยเหลือจากประเทศตะวันตก หากแต่ถูกเพิกเฉย เขาจึงหันไปหาสหภาพโซเวียต
พ.ศ.2466 ซุนและตัวแทนสหภาพโซเวียต ชื่อ อดอล์ฟ จอฟฟ์ พบกันในเมืองเซี่ยงไฮ้ ตกลงกันว่า สหภาพโซเวียตจะช่วยเหลือ สนับสนุน “การรวมจีนเป็นหนึ่งเดียว”
เริ่มด้วยการจัดระเบียบและการรวมตัวของทั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคอมมินเทิร์นตามแนวทางของพรรคคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียต
ซุน ยัตเซ็น ส่ง เจียง ไคเช็ค หนึ่งในผู้ช่วยของเขา ไปศึกษาด้านการทหารและการเมืองที่มอสโกเป็นเวลาหลายเดือน
เจียง ไคเช็ค กลับมาตั้ง “โรงเรียนนายร้อยหวอโปอา” ที่ผลิตผู้นำทางทหารของกองทัพจีนรุ่นต่อไป กองทัพโซเวียตจัดหาอุปกรณ์การสอน อาวุธให้กับโรงเรียนนายร้อย
ซุน ยัตเซ็น จัดตั้ง “กองทัพของพรรค” ขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งเขาหวังว่าจะสามารถเอาทุกกลุ่มได้ สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์บางคนก็อยู่ในโรงเรียนนายร้อย หลายคนกลายเป็นครูผู้ฝึกสอน เช่น โจว เอินไหล ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูสอนด้านการเมือง
ในเวลานั้น…เกิดพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองของพรรคก๊กมินตั๋ง
1 กรกฎาคม 2470 กำลังทหารของรัฐบาล KMT เข้าปราบปรามประชาชนของพรรคคอมมิวนิสต์ที่เมืองหนานชาง ตายเป็นหมื่น ลุกลามกลายเป็น “การสังหารหมู่”
วันนั้นแหละ…ประชาชนจากรากหญ้าที่นิยมพรรคคอมมิวนิสต์ รวมตัวกัน – ก่อตัวขึ้น เรียกตัวเองว่า “กองทัพแดง” เข้าต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาล ไม่ช้า-ไม่นาน กองทัพแดงเติบโตขึ้นพรวดพราด ภายใต้การนำของเหมา เจ๋อตง และจูเต๋อ
พ.ศ.2472-2475 กองทัพแดงฮึกเหิม ห้าวหาญ ขยายตัวเป็น 200,000 นาย สู้รบกับกองทัพชาตินิยมของ KMT ในแบบสงครามกองโจรอย่างได้ผล รบพลางถอยพลาง เหมา เจ๋อตง นำกองทัพแดง ซึ่งก็คือ นักรบประชาชน เคลื่อนย้าย เดินเท้านับพันกิโลเมตร ไปทางตะวันตกของแผ่นดินจีน กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า Long March ผู้คนในขบวนของ เหมา สู้รบ บาดเจ็บ ล้มป่วยตายนับหมื่น
พ.ศ.2476 กองทัพแดงเหลือจำนวนไม่มากนัก แต่ก็สามารถไปรวบรวมผู้คนจากท้องถิ่นต่างๆ มาตั้งเป็นกองทัพที่ 8
สรุปได้ว่า… เวลานั้นในแผ่นดินจีนมี 2 กองทัพรบกันเอง คือ กองทัพแดงของคอมมิวนิสต์ กับกองทัพชาตินิยมของ KMT
พ.ศ.2480 ถึง พ.ศ.2488 กองทัพญี่ปุ่นบุกจีนครั้งที่ 2
เมื่อข้าศึกมาบุกแผ่นดินเกิด…กองทัพของ เหมา และกองทัพของ KMT เจรจาขอพักรบ จับมือกัน ทำสงครามกองโจรสู้รบ ตัดทอนกำลังของกองทัพญี่ปุ่น กองทัพของเหมา รับผิดชอบรบกับทหารญี่ปุ่นทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
สิงหาคม 2488 อเมริกาไปทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกบนเกาะญี่ปุ่น พระจักรพรรดิญี่ปุ่นทรงประกาศยอมแพ้สงคราม ทหารญี่ปุ่นนับหมื่นถูกปลดอาวุธบนแผ่นดินจีน ถอนกำลังออกจากจีน หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังคอมมิวนิสต์ เปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA)
กองทัพปลดปล่อยประชาชน ประกอบด้วยชาวนาเป็นส่วนใหญ การปฏิบัติต่อทหารและเจ้าหน้าที่เป็นแบบเท่าเทียมกัน ในช่วงแรกได้ล้มล้างลำดับชั้นแบบดั้งเดิมที่เข้มงวดซึ่งควบคุมชีวิตของชาวนา ถือเป็นการ “แตกหัก” อย่างรุนแรงจากมาตรฐานของสังคมจีนที่แบ่งชนชั้นกันมาก
กองทัพญี่ปุ่นถอยไปแล้ว…กองทัพ PLA ของเหมา และกองทัพของ KMT กลับมารบกันต่อ
เข้าใจง่ายๆ ว่าเป็นสงครามระหว่างกองกำลังคอมมิวนิสต์กับกองกำลังโลกเสรี
(ในช่วงเวลานี้ รัฐบาลสหรัฐส่งหน่วยบิน จนท. จำนวนหนึ่งเข้าไปสนับสนุน KMT ของ เจียง ไคเช็ค ด้วยเหตุผลเพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์)
PLA ภายใต้การนำของ เหมา สู้รบแบบกองโจร สู้ด้วยจิตใจ ที่ยึดมั่นในหลักการ อุดมการณ์ของระบอบคอมมิวนิสต์ ในขณะที่กองทัพ KMT หาทางถอยร่น มองไปที่เกาะฟอร์โมซา (ไต้หวัน)
นี่คือสงครามกลางเมืองอีก 1 ฉากทัศน์
ในช่วงปลายปี 2491 กองทัพ PLA ของเหมา ก็รบชนะสงครามกลางเมืองจีน ในขณะที่กองทัพ KMT ภายใต้การนำของ เจียง ไคเช็ค นำทหารและประชาชนนับล้านข้ามทะเลไปตั้งหลักบนเกาะฟอร์โมซา
(แถมเป็นข้อมูลสำคัญยิ่งครับ…บางส่วนของกองทัพ KMT หนีการสู้รบ ถอยเข้ามาทางภาคเหนือของไทย…ต่อมา คือ ชุมชนดอยแม่สลอง)
พ.ศ.2492 ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
กองทัพ PLA ที่ก่อเกิดจากชาวไร่ ชาวนา ประชาชนจึงเป็น 1 เดียวในแผ่นดินจีน มีการจัดระเบียบใหม่อย่างรุนแรง โดยมีการจัดตั้งโครงสร้างผู้นำ สายการบังคับบัญชา
พฤศจิกายน 2492 จัดตั้งกองทัพอากาศ
เมษายน 2493 จัดตั้งกองทัพเรือ
พ.ศ.2498 เริ่มใช้ยศทางทหารในกองทัพ คล้ายๆ กับระบบกองทัพของสากล
กองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) เป็น กองทหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) และสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC)
ประกอบด้วย 4 เหล่าทัพ ได้แก่ กองกำลังภาคพื้นดิน กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองกำลังจรวด และอีก 4 หน่วย คือ กองกำลังอวกาศ กองกำลังไซเบอร์ กองกำลังสนับสนุนข้อมูล และกองกำลังสนับสนุนโลจิสติกส์ร่วม กองทัพ นี้เป็นผู้นำโดยคณะกรรมาธิการการทหารกลาง (CMC) โดยมีประธานเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ภารกิจหลักของ PLA คือการปกป้องพรรคและรักษาผลประโยชน์ของพรรค เป็นผู้ค้ำประกันการอยู่รอดและการปกครองของพรรค
นี่คือที่มาของชื่อ PLA ครับ