‘เทศกาลกุมภเมลา’ เป็นปรากฏการณ์ ที่มีผู้คนร่วมชุมนุมกันมากที่สุดในโลก

Members of Kinnar Akhara for transgender take dips at Sangam, the confluence of three sacred rivers the Yamuna, the Ganges and the mythical Saraswati, on Vasant Panchami during the Kumbh Mela in Prayagraj, Uttar Pradesh state, India, Monday, Feb.3, 2025.(AP Photo/Channi Anand)

ตํานานเกษียรสมุทรดังที่เราเห็นเป็นรูปปั้นเหล่าเทพกับเหล่าอสูรช่วยกันกวนเกษียรสมุทร (ทะเลน้ำนม) โดยใช้เขามันทระเป็นแกนกลางและเอาพญานาควาสุกรีต่างเชือกมาชักปั่นให้เกิดเป็นน้ำอมฤตที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิของไทยเรานี่เอง นับเป็นเหตุการณ์สำคัญในคัมภีร์ปุราณะของศาสนาฮินดู 

ตามตำนาน เทพและอสูรได้ร่วมมือกันกวนเกษียรสมุทรเพื่อให้ได้น้ำอมฤต ซึ่งเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ผู้ดื่มกลายเป็นอมตะ เมื่อหม้อน้ำอมฤต (กุมภะ) ปรากฏขึ้น พระอินทร์และเหล่าเทวดาก็ได้นำน้ำอมฤตหลบหนีจากอสูร (พูดง่ายๆ คือเหล่าเทวดาเบี้ยวเหล่าอสูรนั่นแหละ) โดยมีการต่อสู้กันในระหว่างการหลบหนีทำให้น้ำอมฤตกระฉอกหยดลงมายังโลกมนุษย์ 4 หยด ที่แม่น้ำใกล้เมือง 4 เมือง คือ เมืองอัลลาฮาบัด,  ฮาริดวาร์, อุชเชน และนาสิก สถานที่ 4 แห่งเหล่านี้จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์กลางของเทศกาลกุมภเมลา

เทศกาลกุมภเมลา คือ งานรวมตัวทางศาสนาที่ดึงดูดผู้คนโดยเฉพาะผู้แสวงบุญชาวฮินดูจากทั่วทั้งประเทศอินเดียและทั่วโลกให้มารวมตัวกันที่ริมฝั่งแม่น้ำ 3 สาย ที่เมือง 4 เมืองนี้หมุนเวียนกันไปทุก 6 ปีคือ เมืองประยาคราช (ชื่อเดิมคือ อัลลาฮาบัด) เมืองฮาริดวาร์ เมืองนาสิก และเมืองอุชเชน ซึ่งแต่ละเมืองนี้ตามตำนานระบุว่า เป็นสถานที่ที่น้ำทิพย์แห่งความเป็นอมตะ 4 หยดตกลงไป จะมีความเกี่ยวพันกับแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 สายของอินเดีย คือ แม่น้ำคงคา  แม่น้ำโคทาวรี และแม่น้ำชิปรา เพื่อที่ผู้แสวงบุญจะอาบน้ำในแม่น้ำนั้น โดยเชื่อว่าเป็นการชำระบาปและนำพวกเขาเข้าใกล้การหลุดพ้นทางจิตวิญญาณมากขึ้น ซึ่งพวกเราคนไทยก็คงได้ทราบเรื่องที่การมีผู้แสวงบุญไปอาบน้ำเพื่อล้างบาปในแม่น้ำคงคามาแล้ว ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับเทศกาลกุมภเมลา เพราะการไปอาบน้ำล้างบาปของเทศกาลกุมภเมลามีกำหนดเวลาและสถานที่เป็นที่แน่นอน เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นทางการ ต่างกับการไปอาบน้ำเพื่อล้างบาปในแม่น้ำคงคาซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว

คำว่ากุมภเมลามีแปลว่าหม้อน้ำซึ่งในที่นี้หมายถึงหม้อน้ำสำหรับเก็บน้ำทิพย์แห่งความเป็นอมตะ ในเทวตำนานของชาวฮินดู ส่วนเมลาหมายความว่า เทศกาล หรือการรวมตัวเพื่อทำพิธีกรรมของบรรดาผู้คนทั้งหลายนั่นเอง สำหรับวันงานเทศกาลใน พ..2568 นี้ คือ มหากุมภเมลา หรือกุมภะใหญ่ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียง 1 ครั้งในทุกๆ 144 ปี ทำให้งานนี้ยิ่งทวีความสำคัญขึ้นไปอีก คาดว่าจะมีคนเดินทางมามากถึง 400 ล้านคน ตลอดระยะเวลาจัดงานของปี พ..2568 นี้ แม้ว่าเมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม พ..2568 ที่ผ่านมา เกิดการเบียดเสียดและเหยียบกันขณะพยายามลงไปอาบน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 30 ศพ บาดเจ็บอีก 60 รายก็ตาม

ADVERTISMENT

เทศกาลกุมภเมลาแต่ละครั้งมักจะยาวประมาณ 45 วัน โดยใน พ..2568 นี้ งานเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ยาวไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยจะจบลงด้วยวันอาบน้ำครั้งสุดท้ายที่เรียกว่าศหิสนานหรือการอาบน้ำของกษัตริย์ 

งานเทศกาลกุมภเมลานี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างพิธีกรรมทางศาสนากับกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น การสนทนาทางจิตวิญญาณ, กระบวนการทางศาสนาต่างๆ และการแสดงทางวัฒนธรรม โดยผู้จัดงานเตรียมเต็นท์ที่พักชั่วคราวไว้ให้ผู้มาร่วมงานมากกว่า 160,000 หลัง มีการจัดสรรเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่า 40,000 นาย และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขอีก 15,000 นาย คอยดูแลตลอดงานเทศกาลนี้

ADVERTISMENT

เทศกาลกุมภเมลาถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่เมืองอัลลาฮาบัด (ปัจจุบันคือเมืองประยาคราช) เมื่อ พ..2410 ตั้งแต่เมื่อทางการอังกฤษยังปกครองอินเดียในฐานะอาณานิคมอยู่เลย เนื่องจากทางการอังกฤษมีรายได้จากการเก็บภาษีผู้แสวงบุญซึ่งมีนับจำนวนล้านคน เพราะเดิมทีผู้แสวงบุญส่วนใหญ่มีแต่บรรดานักบวช ฤๅษี ชีไพรเพียงเท่านั้น เมื่อทางการอังกฤษได้จัดการขนส่งคมนาคมและสาธารณสุขให้กับผู้แสวงบุญผู้เป็นคนธรรมดาสามัญตั้งแต่ในครั้งนั้นด้วย บรรดาประชาชนชาวอินเดียทั่วไปจึงพากันไปแสวงบุญกัน รวมทั้งชาวโลกจากทุกทวีปจึงพากันไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย 

ทำให้เทศกาลกุมภเมลาเป็นเทศกาลชุมนุมของมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกนานแสนนานทีเดียว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image