อภินิหาร-จบแล้ว โดย นฤตย์ เสกธีระ


สรุปว่ากระทรวงการคลังยื่นเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปจาก ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 1.7 หมื่นล้าน

เป็นการยื่นท่ามกลางข้อขัดแย้งที่ทั้งสองฝ่ายยังงัดขึ้นมาต่อสู้

น่าจะพลิกข้อกฎหมายที่ทั้งสองฝ่ายงัดออกมาต่อสู้อ่านดู

ฝ่ายแรกคือ ฝ่าย สตง.ระบุว่า เก็บภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ปได้ โดยใช้มาตรา 61 ประมวลรัษฎากร

Advertisement

มาตรา 61 ประมวลกฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาว่า “บุคคลใดมีชื่อในหนังสือสำคัญใดๆ แสดงว่า

1.เป็นเจ้าของทรัพย์สินอันระบุไว้ในหนังสือสำคัญ และทรัพย์สินนั้นก่อให้เกิดเงินได้พึงประเมิน หรือ

2.เป็นผู้ได้รับเงินได้พึงประเมินโดยหนังสือสำคัญเช่นว่านั้น

Advertisement

เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินเรียกเก็บภาษีทั้งหมดจากผู้มีชื่อในหนังสือสำคัญนั้นก็ได้

แต่ถ้าบุคคลนั้นต้องโอนเงินได้พึงประเมินให้แก่บุคคลอื่น

บุคคลนั้นมีสิทธิหักเงินภาษีจากจำนวนเงินซึ่งต้องโอนให้แก่บุคคลอื่นตามส่วน”

คราวนี้มาฟังอีกฝ่าย

นายนพดล ปัทมะ ให้สัมภาษณ์วันก่อนบอกว่า เรื่องที่ สตง.จะเก็บภาษีนั้นมันจบไปแล้ว

จบไปตามมาตรา 19 ประมวลรัษฎากร

คราวนี้ก็ไปค้นมาตรา 19 ประมวลรัษฎากรมาอีก

ความว่า “เว้นแต่จะมีบทบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

กรณีที่เจ้าพนักงานประเมินมีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ใดแสดงรายการตามแบบที่ยื่นไม่ถูกต้องตามความจริงหรือไม่บริบูรณ์

ให้เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจออกหมายเรียกผู้ยื่นรายการนั้นมาไต่สวน

และออกหมายเรียกพยานกับสั่งให้ผู้ยื่นรายการหรือพยานนั้นนำบัญชีเอกสารหรือหลักฐานอื่นอันควรแก่เรื่องมาแสดงได้

แต่ต้องให้เวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันนับแต่วันส่งหมาย

ทั้งนี้ การออกหมายเรียกดังกล่าว จะต้องกระทำภายในเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ ไม่ว่าการยื่นรายการนั้นจะได้กระทำภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด

หรือเวลาที่รัฐมนตรีหรืออธิบดีขยายหรือเลื่อนออกไปหรือไม่ ทั้งนี้ แล้วแต่วันใดจะเป็นวันหลัง

เว้นแต่กรณีปรากฏหลักฐานหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ยื่นรายการมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากร

หรือเป็นกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการคืนภาษีอากร

อธิบดีจะอนุมัติให้ขยายเวลาการออกหมายเรียกดังกล่าวเกินกว่า 2 ปีก็ได้ แต่ต้องไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ

แต่กรณีขยายเวลาเพื่อประโยชน์ในการคืนภาษีอากร

ให้ขยายได้ไม่เกินกำหนดเวลาตามที่มีสิทธิขอคืนภาษีอากร”

ข้อมูลเพิ่มเติมจากคำแถลงของนายนพดล คือ หุ้นชินคอร์ปซื้อขายกันเมื่อปี 2549

ปี 2553 มีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน ทักษิณ ชินวัตร

เมื่อเป็นเช่นนี้ ลองพิจารณากันเอาเอง

1.การซื้อขายหุ้นชินคอร์ปในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษี 2.ภาษีเงินได้ที่กำลังกล่าวถึง ต้องเรียกเก็บตามมาตรา 19

เรื่องนี้ “จบไปแล้ว” เหมือนกับที่นายนพดลระบุหรือไม่

หรือเรื่องนี้ “กำลังเริ่มต้น” เหมือนดั่งมีอภินิหารอย่างที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเคยระบุไว้

ทุกจังหวะก้าวยังน่าสนใจและน่าติดตาม

 

คลิกอ่านเพิ่มเติม… สรรพากรแปะโนติสบ้านจันทร์ส่องหล้า แจ้ง’ทักษิณ’จ่ายภาษี 1.7 หมื่นล้านบาทแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image