บริหาร ปกครอง ภายใน วัดพระธรรมกาย ใคร ‘เดือดร้อน’

แรกที่เห็นข่าวพระรูป 1 จากวัดอ้อน้อยแอบอัดคลิปการพูดโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ออกเผยแพร่

สังคมอาจเห็นว่าเป็นการอวด และ “โอ่”

ทั้งยังเป็นการอวดโอ่อย่างไม่สมควร กระทั่ง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ในข้อหา “หมิ่นประมาท” และสร้าง “ความเสื่อมเสีย”

Advertisement

แต่เมื่อเห็นหนังสือของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติลงวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่องการพิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

ก็ถึง “บางอ้อ” อย่างพร้อมเพรียง

ประเด็นอยู่ตรงที่ทางผู้อำนวยการ พศ.ไม่เห็นด้วยกับการที่ พระครูวิจิตรอาภากร เจ้าคณะตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ดำเนินการแต่งตั้ง พระวิเทศภาวนาจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

Advertisement

ทำไม

 

เหตุผล 1 จากผู้อำนวยการ พศ.คือ สถานการณ์ปัจจุบัน วัดพระธรรมกายมีความจำเป็นต้องมีเจ้าอาวาสเพื่อทำหน้าที่

ในการบริหารการพัฒนา และการปกครอง

รวมทั้งเพื่อเร่งฟื้นฟูวัดพระธรรมกายให้มีความเจริญก้าวหน้า และการสอบอธิกรณ์พระผู้ใหญ่ในวัดให้เป็นไปโดยยุติธรรม

เหตุผล 1 จากผู้อำนวยการ พศ.คือ

“จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินการพิจารณาแต่งตั้งพระภิกษุจากวัดอื่นมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามกฎมหาเถรสมาคมที่เกี่ยวข้อง”

ความน่าสนใจอย่างยิ่งอยู่ที่เป็นข้อเสนออันสอดรับกับที่มาจาก “คลิป”

คลิปซึ่ง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ มีความเห็นว่าที่มีการเผยแพร่ออกไปทำให้เกิดความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง

อย่างไร

 

ประเด็นที่ไม่เพียงแต่บรรดาเจ้าคณะปกครองในจังหวัด ตั้งแต่เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบลจะสงสัย

หากพระสังฆาธิการวัดพระธรรมกายก็สงสัยเหมือนกัน

คือ นับแต่สถานการณ์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม เป็นต้นมา มีเหตุการณ์อะไรอันสะท้อนให้เห็นปัญหาเกิดขึ้น และน่าเป็นห่วงหรือไม่

ในเมื่อ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย ก็มิได้อยู่ในวัด ในเมื่อไม่ว่าจะเป็นคำสั่งจากดีเอสไอ จากเจ้าคณะปกครองที่ส่งไปทางวัดพระธรรมกายก็ปฏิบัติตามทุกประการ

ยิ่งกว่านั้น บรรดาพระที่ถูกกล่าวหาก็เดินทางไป “ศาล” แทบทุกวัน

ความปั่นป่วนวุ่นวายอันเห็นได้จากข่าวก็มิได้มีจุดเริ่มต้นมาจากวัดพระธรรมกาย หากแต่มาจากปัจจัย “ภายนอก”

ไม่ว่าจะเรื่องของ “อาวุธสงคราม” ไม่ว่าจะเรื่องมีคนพยายาม “วางเพลิง” เผาหญ้า

พระเผด็จ ทัตตชีโว ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ในวัดก็พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ จะเคลื่อนไหวก็เพียงแต่ร่วมปฏิบัติศาสนกิจเท่านั้น

เสียงจากวัดพระธรรมกายจึงมีแต่เพียงเสียง “สวดมนต์”

 

หากเจ้าคณะปกครอง ไม่ว่าเจ้าคณะจังหวัด ไม่ว่าเจ้าคณะอำเภอ ไม่ว่าเจ้าคณะตำบล มีความเห็นตรงกันว่า ไม่มีปัญหาในเรื่องการบริหาร การปกครองภายในวัดพระธรรมกาย

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะทำอย่างไร

เพราะว่าในเรื่องของการปกครองย่อมเป็นเรื่องของเจ้าคณะปกครอง เพราะว่าในเรื่องของการบริหารย่อมเป็นเรื่องของทางวัด

เมื่อมีความเป็นปกติแล้ว ใครกันที่รู้สึกเดือดเนื้อ ร้อนใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image