| ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
|---|
ฉายาใหม่ของทรัมป์ คือ ‘TACO-Trump Always Chickens Out’
ในยุคสมัยแห่งการเมืองอเมริกันร่วมสมัย มีหลายครั้งที่เราพบฉายาแปลกๆ ที่ถูกนำมาตั้งให้กับผู้นำประเทศ เพื่อสะท้อนบุคลิก หรือนโยบายของพวกเขา ในกรณีของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฉายาที่มีชื่อเสียงและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากคือ “TACO” ที่ นายโรเบิร์ต อาร์มสตรอง แห่งหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ เป็นผู้บัญญัติขึ้นสำหรับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ เป็นหนังสือพิมพ์รายวันของอังกฤษที่เน้นประเด็นธุรกิจและเศรษฐกิจในปัจจุบัน หนังสือพิมพ์ดังกล่าวมีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน เป็นเจ้าของโดย Nikkei ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งของญี่ปุ่น โดยมีกองบรรณาธิการหลักอยู่ทั่วสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และทวีปยุโรป
นายรอสส์ ดูทาท (Ross Douthat) นักวิเคราะห์ชื่อดังแนวอนุรักษนิยมแห่งหนังสือพิมพ์ The New York Times ซึ่งเป็นสื่อกระแสหลักของสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มในทางเสรีนิยมได้ขยายแนวคิด “TACO” ไว้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ ฉายานี้สื่อความหมายตรงตัวว่า “Trump Always Chickens Out” หรือ “ทรัมป์มักถอยเสมอ” ซึ่งเป็นคำวิจารณ์พฤติกรรมทางการเมืองที่สำคัญของทรัมป์ ในการละทิ้งนโยบายสำคัญเมื่อเผชิญแรงกดดัน ถ้าจะใช้สำนวนไทยก็ต้องใช้ว่า ทรัมป์เป็นคนประเภทปากกล้าแต่ขาสั่น ข่มขู่ไปเรื่อย เมื่อเจอคนจริงก็จะปอดแหก ไม่กล้าทำตามที่ข่มขู่ไว้นั่นเอง
นายรอสส์ ดูทาท ได้เสนอความหมายและวิเคราะห์ที่มาของฉายา TACO ของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างกว้างขวาง โดยชี้ว่าทรัมป์มีลักษณะเด่นที่มักจะตั้งเป้าหมายทางการเมือง หรือประกาศนโยบายที่ดูแข็งกร้าวและเด็ดขาด แต่เมื่อถึงเวลาที่จะดำเนินการอย่างจริงจัง หรือเผชิญกับแรงกดดันจากภาคธุรกิจ ตลาดการเงิน รวมไปถึงแรงต่อต้านทางการเมือง เขามักถอยกลับ หรือปรับลดความแข็งกร้าวลงอย่างเห็นได้ชัด
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของพฤติกรรมนี้ คือการประกาศสงครามการค้ากับจีน ที่ในตอนแรกดูเหมือนจะดำเนินการอย่างหนักแน่น มีการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจีนอย่างหนัก แต่เมื่อเกิดแรงสะท้อนกลับที่รุนแรงจากตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทรัมป์ก็เลือกที่จะถอยกลับและลดระดับความรุนแรงของมาตรการลงจนแทบจะไม่มีผลกระทบตามที่ประกาศไว้ในตอนต้น
เหตุผลสำคัญที่นายรอสส์ ดูทาท วิเคราะห์ว่าเป็นต้นเหตุของพฤติกรรมนี้ คือการขาดความเชื่อมั่นและความกล้าหาญที่แท้จริงของทรัมป์ในการเผชิญกับผลกระทบที่รุนแรงจากนโยบายของเขาเอง ทรัมป์มักจะต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่เข้มแข็งเพื่อสนองกลุ่มผู้สนับสนุน แต่ขณะเดียวกันก็กลัวผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ และความนิยมทางการเมืองของตนเองในระยะสั้น
ในทรรศนะของ นายรอสส์ ดูทาท เห็นว่าการตั้งฉายา TACO ให้ประธานาธิบดีทรัมป์นี้มีความเหมาะสมและมีเหตุผลอย่างชัดเจน เพราะสะท้อนถึงข้อเท็จจริงและพฤติกรรมที่ตรวจสอบได้หลายครั้งของทรัมป์ ในมิติของนโยบายที่สำคัญหลายครั้ง เขากลับมีแนวโน้มที่จะถอยกลับเมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันจริงจัง นอกจากนี้ นายดูทาทยังมองว่าฉายานี้ไม่ใช่การโจมตีส่วนบุคคลอย่างไร้เหตุผล แต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติอย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของสังคมและวัฒนธรรม ฉายานี้อาจถูกมองว่าก้าวล่วงเกินไปบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์อาจเห็นว่าเป็นการลดทอนเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้นำประเทศ แต่หากมองจากมุมของประชาธิปไตยแบบตะวันตกและการเมืองแบบอเมริกันที่มักมีวัฒนธรรมการวิจารณ์อย่างเปิดเผยแล้ว การตั้งฉายา TACO ก็ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ที่อยู่ในขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง
ฉายา “TACO” ในมุมมองของ นายรอสส์ ดูทาท ได้แสดงถึงบุคลิกและรูปแบบการบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ได้อย่างตรงประเด็น โดยเน้นย้ำถึงพฤติกรรมการถอยกลับจากนโยบายที่สำคัญเมื่อเผชิญแรงกดดัน การใช้คำนี้จึงมีความถูกต้องเหมาะสมในแง่ของการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง และสะท้อนลักษณะสำคัญของการบริหารงานที่ขาดความสม่ำเสมอและความเด็ดเดี่ยวของทรัมป์ อย่างไรก็ดี สังคมอเมริกันและวงการเมืองย่อมต้องพิจารณาถึงความสมดุลระหว่างการวิพากษ์วิจารณ์ที่ตรงไปตรงมากับการให้เกียรติผู้นำในตำแหน่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศในขณะเดียวกัน
สำหรับนายรอสส์ ดูทาท เป็นนักเขียนและคอลัมนิสต์ชาวอเมริกันที่มีบทบาทสำคัญในวงการสื่อสารมวลชนและการเมืองสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในฐานะคอลัมนิสต์ประจำของ The New York Times ซึ่งเขาเริ่มต้นบทบาทนี้ใน พ.ศ.2552 และกลายเป็นนักเขียนบทความความคิดเห็นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้
โกวิท วงศ์สุรวัฒน์