| ผู้เขียน | พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก |
|---|
ความเดิมจากตอนที่แล้ว… กองทัพญี่ปุ่นเข้าไปยึด-ปกครองเกาหลียาวนาน 35 ปี ห้ามชาวเกาหลีใช้ภาษาเกาหลี ลบชื่อประเทศเกาหลีเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น โชเซ็น (Chosen) 7 ธันวาคม พ.ศ.2484 กองทัพญี่ปุ่นบินไปโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ รัฐฮาวายของสหรัฐอเมริกา
2 กันยายน พ.ศ.2488 ญี่ปุ่นพ่ายในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพสัมพันธมิตรปลดปล่อยเกาหลีให้เป็นเอกราช
โชคชะตาชาวเกาหลีเหมือน หนีเสือปะจระเข้ตัวใหญ่ยักษ์
กองทัพแดงของโซเวียต ยกทัพเข้าไปปลดอาวุธทหารญี่ปุ่น และเข้าปกครองเกาหลีทางตอนเหนือ กองทัพสหรัฐ ก็ไปเข้าปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในเกาหลีทางตอนใต้
สหรัฐและโซเวียตตกลงกันใช้เส้นขนานที่ 38 เป็นเส้นแบ่งเขตการทำงาน มหาอำนาจเบ่งกล้าม งัดข้อกัน ผลสุดท้ายสถานการณ์เลยเถิดไปไกลกลายเป็นประเทศเกาหลีเหนือ ที่มีลูกพี่คือ โซเวียต ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์
และ ประเทศเกาหลีใต้ มีลูกพี่ใหญ่ คือ อเมริกา ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
เส้นขนานที่ 38 เลยกลายเป็นการแบ่งประเทศให้แยกขาด จากกันเป็น 2 ท่อน ยัดเยียด ปั่นหัว ชาวเกาหลีให้เกลียดชัง พลัดพรากจากกัน แบบสายน้ำไม่มีวันไหลกลับ
ลองไปค้นหาความจริงที่แสนจะขมขื่นระหว่างเหนือและใต้
10 พฤษภาคม 2491 สหรัฐจัดให้มีการเลือกตั้งในเกาหลีใต้ โดยมีนาย ซิงมัน รี (Syngman Rhee) ได้รับเลือกให้เป็นประธานรัฐสภา เพื่อร่างรัฐธรรมนูญปกครองประเทศซึ่งแล้วเสร็จภายในเวลาเพียง 2 เดือนเศษ ต่อมาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ เข้ารับตำแหน่งใน 15 สิงหาคม 2491 ให้สิทธิเสรีภาพแก่ชาวเกาหลีใต้ ยกเลิกกฎหมายต่างๆ ของญี่ปุ่นที่นำมาใช้กดขี่ประชาชนในระหว่างที่ยึดครองเกาหลี
ซิงมัน รี ประกาศความเป็นเอกราช ชักธงชาติของสาธารณรัฐเกาหลีขึ้น (Republic of Korea: ROK) และลดธงชาติสหรัฐลง เพื่อแสดงสัญลักษณ์การส่งมอบหน้าที่ในการดูแลประเทศคืนให้เกาหลีใต้
ทางด้านเกาหลีเหนือ สหภาพโซเวียตจัดการปกครองโดยรัฐบาลทหาร ห้ามการชุมนุมทางการเมือง ใช้รูปแบบและแนวทางของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ใน 25 สิงหาคม 2491 มีสมาชิกสภาประชาชน 572 คน ประกาศจัดตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (Democratic People’s Republic of Korea: DPRK)
9 กันยายน 2491 โซเวียตแต่งตั้ง นายคิม อิลซุง ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ ต่อมาแต่งตั้งให้เขาเป็นประธานคณะกรรมาธิการประชาชนเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุด
นายคิม อิลซุง ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเป็นใคร มาจากไหน ?
เดิมชื่อ คิม ซองจู (Kim Song Ju) เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยใต้ดิน เคยทำงานข่าวลับในกองทัพบกโซเวียตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 จนได้รับยศพันตรี ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น คิม อิลซุง
การก่อตั้งเป็น 2 ประเทศแยกจากกันที่เกิดขึ้นเป็นเกาหลีเหนือและเป็นเกาหลีใต้ กล่าวได้ว่าเป็นการ ละเลย ล้มเหลว ไร้ความรับผิดชอบของสหประชาชาติ จนทำให้เกิดการแบ่งประเทศเป็นเหนือ-ใต้อย่างถาวร
มาถึงตรงนี้ รัฐบาลของเกาหลีทั้งเหนือ ทั้งใต้ ที่มีลูกพี่ดันหลังต่างกล่าวอ้างความชอบธรรมที่จะปกครองประเทศเกาหลี
นักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่า แผ่นดินเกาหลีเป็นเหยื่อของการประลองกำลังของค่ายคอมมิวนิสต์กับค่ายประชาธิปไตย ที่เรียกว่าสงครามเย็น (Cold War)
12ธันวาคม 2491 สมัชชาใหญ่ของ UN ประชุมที่กรุงปารีส ลงมติ 48:6 รับรองสถานะของเกาหลีใต้ ว่าเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม และมีมติให้ทั้งสหรัฐและโซเวียตถอนทหารออกไปจากคาบสมุทรเกาหลี รัฐบาลทหารเกาหลีเหนือโกรธจัด ร้อนเป็นไฟบรรลัยกัลป์
โซเวียตรีบเสริมสร้างกำปั้นเหล็กของเกาหลีเหนือให้ทรงพลัง รีบส่งรถถัง ปืนใหญ่ กระสุนและอาวุธทุกชนิด ทำหน้าที่เป็นโค้ชให้กองทัพเกาหลีเหนือ จัดตั้งกำลังทหาร 6 กองพลเคลื่อนที่เร็ว แล้วโซเวียตประกาศถอนทหารออกจากเกาหลีเหนือใน 25 ธันวาคม 2491
มิถุนายน 2492 อเมริกาถอนทหารออกจากเกาหลีใต้ไปไว้ที่ญี่ปุ่น คงเหลือที่ปรึกษาทางทหารไว้ 500 คน
ผู้นำของเปียงยางกับมอสโกติดต่อกันแน่นแฟ้น ไปมาหาสู่กันถี่ขึ้น ถึงขนาดมอสโกแต่งตั้งนายพลของกองทัพโซเวียตไปเป็นเอกอัครราชทูตที่เปียงยาง
กองทัพสหรัฐวางระบบกองทัพให้กองทัพเกาหลีใต้ โดยมีกำลังตำรวจกึ่งทหารจำนวน 6 กรม (สารวัตรทหาร) และกองกำลังรักษาฝั่ง (Coast Guard) ต่อมาปรับกำลังใหม่เป็นกองพลทหารราบแบบของสหรัฐ 7 กองพล และ 1 กองพลรักษาเมืองหลวง มีกำลังพลทหารบกราว 65,000 นาย ทหารเรือ 4,000 นาย และตำรวจ 45,000 นาย อาวุธที่ใช้ส่วนหนึ่งเป็นอาวุธที่ยึดมาได้จากกองทัพญี่ปุ่นและที่เหลือเป็นอาวุธเบาเพื่อใช้ในการรักษาความสงบในประเทศเท่านั้น ในขณะที่โซเวียต “จัดเต็ม-จัดหนัก” ให้กองทัพเกาหลีเหนือ
อุณหภูมิสงครามกระเถิบอุ่นขึ้นอีก เมื่อเกาหลีเหนือส่งทหาร 3 กองพลมาสร้างที่มั่นดัดแปลงตามแนวเส้นขนานที่ 38 แบบมานั่งจ้องมอง ตั้งแต่นั้นมาทหารเกาหลีเหนือทดสอบเข้าตีทหารเกาหลีใต้เป็นชุดเล็กๆ เป็นระยะๆ ในลักษณะการเข้าตีแบบจำกัด
ทุกครั้ง ทหารเกาหลีเหนือจะเป็นฝ่ายริเริ่ม และรุกรานแบบเปิดเผย สงครามครั้งใหญ่ เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกินความคาดหมาย
เวลา 04.00 น. ของวันที่ 25 มิถุนายน 2493 โลกต้องตะลึงอีกครั้ง เมื่อกองทัพเกาหลีเหนือ 7 กองพลทหารราบ และรถถังราว 150 คัน บุกข้ามเส้นขนานที่ 38 ตีฝ่าแนวตั้งรับมุ่งหน้าเข้ายึดกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้
กองทัพเกาหลีใต้แตกกระจุยรุ่ยร่าย หมดสภาพไปกว่าครึ่ง บ้านเมืองพังพินาศ ทหารและประชาชนเกาหลีใต้หนีตายถอยลงทางใต้ของประเทศ
คำสั่งที่ถูก “ยัดเยียดใส่สมอง” ทหารเกาหลีเหนือ คือ การมุ่งสังหารประชาชนเกาหลีใต้อย่างโหดร้ายทารุณ เพราะชาวเกาหลีใต้สนับสนุน นายซิงมัน รี ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นับเป็นโศกนาฏกรรม พี่น้องต้องฆ่ากัน
ทรูแมน (Harry S. Truman) ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางไปที่ UN ด้วยตนเอง ขอให้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ซึ่ง UN มีมติออกมา 9:0 เห็นด้วยกับญัตติของสหรัฐ ที่เรียกร้องให้สมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดช่วยเหลือ
ประธานาธิบดีสหรัฐในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดสั่งตรงไปที่นายพลแมคอาเธอร์ ซึ่งยึดครองญี่ปุ่นอยู่ในขณะนั้นให้เป็นผู้บัญชาการกองกำลังและสั่งให้กองทัพเรือที่ 7 ของสหรัฐ เคลื่อนไปที่ช่องแคบไต้หวัน เพื่อแสดงกำลังมิให้จีนแผ่นดินใหญ่ฉวยโอกาสบุกตีเกาะไต้หวัน
กองทัพเกาหลีเหนือมีศักยภาพเหนือกว่าเกาหลีใต้หลายขุม เพราะลูกพี่โซเวียตสนับสนุน อาวุธทุกชนิด เพียง 7 วัน ทหารเกาหลีเหนือที่ดุดันห้าวหาญ ได้ประทับรอยเท้าลงบนกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ ที่แหลกลาญด้วยอานุภาพระเบิด ไฟลุกไหม้ค่อนเมือง ทหารเกาหลีใต้ที่สู้ขาดใจ บางส่วนที่รอดตายเดินเท้าปะปนกับชาวเกาหลีใต้หนีตายมุ่งหน้าลงใต้สู่เมืองปูซาน
นายพล 4 ดาว แมคอาเธอร์เห็นความปราชัยอยู่ตรงหน้า จึงร้องขอไปที่ประธานาธิบดีทรูแมนขอกำลังทหารสหรัฐ 4 กองพล ที่ยึดครองญี่ปุ่นให้มาตีโต้ตอบกองทัพเกาหลีเหนือเป็นการด่วน
วอชิงตันและชาวอเมริกันที่แสนจะเบื่อหน่ายกับการทำสงคราม เพราะเพิ่งเสร็จสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเพียง 5 ปี ลูกหลานอเมริกันตายในสงครามนับหมื่นคน เกรงว่าการสู้รบติดพันกับเกาหลีเหนือจะขยายตัวออกไป และวิตกกลัวจีนแผ่นดินใหญ่กระโดดเข้ามาสนับสนุนเกาหลีเหนือ จึงสั่งการเพียงให้กองทัพเรือปิดล้อมแนวชายฝั่งทะเลเกาหลีเท่านั้น
สุภาษิตจีนสอนไว้ว่าการศึกมิหน่ายเล่ห์
ตัวละครที่โผล่ออกมาแบบนึกไม่ถึง คือ เจียงไคเช็ค ผู้นำของจีนไต้หวัน ที่เป็นคู่อาฆาตอมตะของจีนคอมมิวนิสต์ ยื่นข้อเสนอขอส่งกำลังทหารจากไต้หวันเข้าร่วมรบด้วย ทรูแมนรีบปฏิเสธความหวังดีทันที เพราะถ้าให้ไต้หวันเข้ามาร่วมรบ มันคือ การเชิญแขกให้จีนคอมมิวนิสต์เข้ามาร่วมวงไพบูลย์รบกับอเมริกันด้วย
ในที่สุด อเมริกาเลยต้องใช้ทหารที่วางกำลังในญี่ปุ่นออกมาทำศึก กองทัพที่ 8 ของสหรัฐ นำโดยนายพลวอล์คเกอร์ ยกพลขึ้นบกที่เมืองปูซาน (Pusan) ทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ รถถังคืออาวุธหลักในการตีโต้ตอบเกาหลีเหนือ
ทหารเกาหลีเหนือยังคงมุ่งหน้าลงใต้ เพื่อผลักดันเกาหลีใต้และสหรัฐ จนร่นถอยไปถึงเมืองปูซาน จึงเกิดการรบที่เรียกว่า “สงครามวงรอบปูซาน” (Battle of Pusan Perimeter) ซึ่งเป็นการรบที่ดุเดือดถึงทหารราบต้องใช้ดาบปลายปืน และในที่สุด ทหารสหรัฐสามารถยับยั้งการรุกของเกาหลีเหนือที่บ้าคลั่งลงได้
ขณะเดียวกัน ทอ.สหรัฐส่งเครื่องบิน T-29 เข้าไปทิ้งระเบิดปูพรมในดินแดนเกาหลีเหนือ ทำลายกำลังทางอากาศของเปียงยางอย่างได้ผล ตัดการส่งกำลังบำรุง ทำให้กำลังทางบกของเกาหลีเหนืออ่อนกำลังลง
สหประชาชาติได้รับคำตอบจากประเทศสมาชิก ว่าจะมี 16 ประเทศขอส่งกำลังเข้าร่วมรบและอีก 5 ประเทศขอสนับสนุนด้านการแพทย์ แล้วรีบตั้งเป็นกองกำลังสหประชาชาติ
รัฐบาลไทยในขณะนั้นตอบรับ ขอส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามเกาหลีเป็นลำดับที่ 2 จัดกำลัง 1 กรมผสม (ประมาณ 4,000 นาย) ชาวเกาหลีใต้จดจำประวัติศาสตร์ที่ดีงามตรงนี้ และยกย่องให้เกียรติคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
นายพลแมคอาเธอร์ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ทหารสูงสุดของกองทัพสหประชาชาติ ขึ้นตรงต่อประธานาธิบดีสหรัฐ ในราวต้นเดือนตุลาคม 2493 แมคอาเธอร์ปรับกำลังตีโต้ตอบ ผลักดันเกาหลีเหนือ ดำเนินกลยุทธ์ยิงทำลายกำลังเกาหลีเหนือจนออกไปพ้นเส้นขนานที่ 38 ทหารเกาหลีเหนือที่ลำบากยากแค้น อดอยากมานาน ขอมอบตัวยอมจำนนมอบตัวต่อกองทัพเกาหลีใต้แบบดื้อๆ เป็นจำนวนมาก
สงครามเกาหลีที่นำมาบอกกล่าวกันนี้ ยังไม่ถึงบู๊ตอนละเลงเลือดนะครับ เพราะในเวลาต่อมา กองทัพของจีนคอมมิวนิสต์ จะลงมาเล่นสงครามครั้งนี้ด้วย
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ คลื่นมนุษย์ทหารจีนนับแสนวิ่งเข้าหาคมกระสุนของทหารสหประชาชาติ รวมทั้งทหารไทย ในสงครามเกาหลี
โปรดติดตามตอนต่อไป
เรียบเรียงโดย
พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก
