อานุภาพ ไปป์บอมบ์ เงื่อนไข สะเทือนขวัญ เขย่า โรดแมป

เหตุการณ์ไปป์บอมบ์หน้าห้องวงษ์สุวรรณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สั่นสะเทือนการเมืองไปหลายทอด

การระเบิดที่เกิดขึ้นเวลากลางวัน ขณะที่ประชาชนกำลังรอรับบริการจากโรงพยาบาลทำให้ช็อก

อานุภาพของไปป์บอมบ์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไป 25 คน

อานุภาพของระเบิดทำให้คำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของประเทศกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง

Advertisement

กระหึ่มขึ้นมาพร้อมๆ กับความรู้สึกไม่ปลอดภัย

ทั้งนี้เพราะเหตุการณ์ไปป์บอมบ์ครั้งนี้มิใช่ครั้งแรก

หากแต่เป็นครั้งที่ 3

Advertisement

ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่หน้ากองสลากเก่า ครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่หน้าโรงละครแห่งชาติ

และครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

สถานที่เกิดเหตุทั้ง 3 ครั้งเกิดขึ้นในที่ที่ไม่ควรจะเกิด

ครั้งแรกระเบิดหน้ากองสลาก บริเวณริมถนน ครั้งที่สองเกิดขึ้นหน้าโรงละครแห่งชาติ บริเวณริมถนน

ครั้งนี้หนักที่สุดเพราะเกิดขึ้นในโรงพยาบาล

สถานที่เกิดเหตุครั้งแรก และครั้งที่สองอาจจะยากต่อการระวังป้องกัน เพราะเป็นริมถนน

แต่สถานที่ภายในอย่างโซนวีไอพี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว

ชนวนเหตุที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นสงสัยว่าเป็นฝีมือของกลุ่มป่วนใต้ หรือไม่ก็กลุ่มป่วนการเมือง

อานุภาพของไปป์บอมบ์นอกจากจะสร้างความเสียหายแก่สถานที่ และทำร้ายประชาชนได้รับบาดเจ็บแล้ว

ยังส่งผลไปถึงการเมืองในขณะนี้ด้วย

ภายหลังจากเหตุระเบิดขึ้นถี่ ทำให้สังคมตระหนักว่า “ความขัดแย้ง” ยังมีอยู่

ทั้งความขัดแย้งในกลุ่มก้อนของฝ่ายรัฐบาล ทั้งความขัดแย้งในกลุ่มก้อนของแม่น้ำ 5 สาย

ความขัดแย้งการเมืองที่อาจจะเกิดจากการกระทำของฝ่ายคัดค้านรัฐบาล

รวมไปถึงความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดภาคใต้

กลุ่มที่ขัดแย้งกันยังมีอาวุธ และมีศักยภาพการทำลายล้าง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ขวัญของประชาชนได้รับผลกระทบ

เช่นเดียวกับการเมือง

การเมืองของประเทศไทยที่ผูกโยงกับความขัดแย้งมายาวนานนับ 10 ปี

จากความขัดแย้งในสภา กลายเป็นความขัดแย้งในท้องถนน

สุดท้ายเกิดการยึดอำนาจ

อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.เคยบอกไว้

“ทหารถ้าทำงานไม่เสร็จ กลับบ้านไม่ได้”

ภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ที่เข้ามายึดอำนาจ เพราะคนในประเทศขัดแย้ง

การเริ่มกติกาใหม่ด้วยการร่างรัฐธรรมนูญ การเริ่มต้นใหม่ด้วยการปฏิรูป

มีเป้าหมายด้วยความหวังเรื่องปรองดอง

โดยกำหนดโรดแมปคืนความสุขเอาไว้

แต่เมื่อประเทศมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

มีกฎหมายที่จะนำไปสู่การปฏิรูป

มีแนวทางกำหนดยุทธศาสตร์ 20 ปี

แต่เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น มีคนได้รับบาดเจ็บ มีทรัพย์สินเสียหาย

มีสัญญาณที่ตอกย้ำว่าความขัดแย้งยังไม่เลือนไป

เท่ากับว่าภารกิจปรองดองยังมีปัญหา

คสช.ยังทำงานไม่เสร็จ

“ทหารถ้าทำงานไม่เสร็จ กลับบ้านไม่ได้”

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ก็แย้มให้ฟังเรื่องโรดแมป

ถ้าบ้านเมืองยังเป็นแบบนี้แล้วจะเลือกตั้งกันได้หรือ

ไปป์บอมบ์ จึงไม่ได้มีผลจำกัดวงเฉพาะโรงพยาบาล

แต่เป็นสัญญาณแห่งความไม่สงบ ที่อาจสะเทือนไปถึงกำหนดการทางการเมือง

กำหนดการตามโรดแมปคืนความสุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image