ได้เวลา ม.44 เร่งเครื่อง รถไฟไฮสปีด ปักธงสัมพันธ์ ไทย-จีน

หากยังจำกันได้ หลังรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้ใหม่ๆ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเคยบอกเอาไว้ว่า จะไม่ใช้ ม.44 เหมือนก่อนหน้า

นี่แสดงว่า การตัดสินใจเสนอให้ใช้ ม.44 แก้อุปสรรคโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่กำลังมีข่าวนั้น จำเป็น

โครงการรถไฟความเร็วสูงนี้เป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบขนส่งมวลชน ซึ่งกระทรวงคมนาคมรับผิดชอบ

โครงการนี้โด่งดังในยุคสมัย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ADVERTISMENT

มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

โครงการนี้ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสนอให้ใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ผลักดันให้แล้วเสร็จภายใน 7 ปี

ADVERTISMENT

แต่เพราะเงินกู้จำนวน 2 ล้านล้านบาทนี่เองที่ทำให้โครงการต้องยุติ

ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าวงเงินดังกล่าวไม่ถูกต้อง

แม้โครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทจะยุติลง แต่โครงการรถไฟความเร็วสูงยังคงเป็นที่ต้องการเพื่อพัฒนาการขนส่งระบบรางของไทย

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เองก็เห็นความสำคัญ จึงผลักดันไปพร้อมๆ กับรถไฟทางคู่

โฟกัสไปที่โครงการรถไฟไฮสปีดที่รัฐบาลต้องการ ได้กำหนดให้เริ่มต้นด้วยความยาว 3.5 กิโลเมตร

มีข่าวประกาศออกมาเป็นระยะว่า ไทยกับจีนจับมือกันสรรค์สร้าง

แต่เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไป โครงการดังว่าก็ยังไม่คืบหน้า

ความอึมครึม ไม่คืบหน้านี้ แรกๆ เป็นเพียงปัญหาภายในประเทศ

ระยะหลังอาการไม่รุกคืบในโครงการรถไฟไทย-จีน อาจสะเทือนไปถึงความสัมพันธ์

ทุกอย่างจึงต้องเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา

จากนั้นไม่นานก็มีแนวคิดที่จะใช้ ม.44

ตามข่าวสารที่ปรากฏ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ระบุรายละเอียดในการใช้ ม.44 แก้ไขอุปสรรคการสร้างรถไฟฟ้าดังกล่าวเอาไว้ 5 ประการ

หนึ่ง ผ่อนผันให้วิศวกรชาวจีนทำงานในประเทศไทยได้

หนึ่ง ประเด็นการผ่านซุปเปอร์บอร์ด กรณีการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการที่มีวงเงินลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป

หนึ่ง การกำหนดให้ใช้วิธีเจรจาเสนอราคา มาแก้ปัญหาวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะไทยกำหนดราคากลางไว้ แต่จีนไม่มี

หนึ่ง การจัดซื้อจัดจ้างแบบรัฐต่อรัฐระหว่างไทย-จีน ระบบจีนใช้ระบบให้สภาพัฒน์เลือกบริษัทเอกชนเป็นคู่สัญญา

จึงต้องส่งให้กระทรวงคมนาคมเร่งใช้ระบบให้สภาพัฒน์จีนออกหนังสือรับรองบริษัทที่จะเป็นคู่สัญญากับไทย เพื่อดำเนินการก่อสร้าง

และอีกหนึ่ง การเคลียร์พื้นที่ที่เป็นของ ส.ป.ก. หรือป่าสงวนฯ

ทั้งนี้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวระบุอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณาออก ม.44 ตามมาตรการดังกล่าวในสัปดาห์หน้า

รัฐบาลหวังว่า ม.44 จะเป็น “มนต์” เสกเป่าให้อุปสรรครถไฟฟ้าไฮสปีดไทย-จีน หมดไป

หวังว่ากระทรวงคมนาคมจะเปลี่ยนจากอาการ “ลังเล” เป็น “ทุ่มเท” เพื่อให้โครงการนี้เกิด

หวังว่า ผลจากการดำเนินการจะทำให้ความสัมพันธ์ไทย-จีน มั่นคงแน่นแฟ้น

ถ้าทำจนรถไฟฟ้าไฮสปีดไทยเริ่มต้นนับหนึ่งได้

ถ้าทำให้อุปสรรคที่ขัดขวางไฮสปีดหมดไปได้

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ก็จะมีโอกาสได้ทั้งผลงานในประเทศ

และยังเสริมสร้างความสัมพันธ์ 2 ชาติไทย-จีนอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image