อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

ถ้าพื้นฐานความเป็นมาในอดีต เป็นคนที่เคยเคลื่อนไหวต่อสู้ เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงในองค์กรตำรวจ ด้วยมีหลักอันสร้างสรรค์ หรือมีไอเดียการเปลี่ยนแปลงเพื่อประโยชน์ของตำรวจส่วนใหญ่ที่เฉียบคมมาโดยตลอด

ย่อมไม่มีอะไรน่าแปลกใจสงสัย หากวันนี้จะหยิบเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ว่าไม่เป็นธรรม มีการซื้อขายเก้าอี้ ขึ้นมาพูดถึง

แต่เมื่อไม่มีที่มาที่ไป

ความเคลื่อนไหวของแกนนำ กปปส. จึงต้องค้นหาที่มา หาความเชื่อมโยงบางประการ กระทั่งมองหาเป้าหมายที่แท้จริง

ที่แน่ๆ แกนนำ กปปส.กลุ่มนี้ เพิ่งเปิดเผยตัวชัดเจนว่า กำลังจะกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง

โดยกลับเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์

จนนำมาสู่ข้อวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึง ทั้งจากภายในพรรคและภายนอกพรรค

มีทั้งเสียงยินดีสนับสนุนที่นักการเมืองจะกลับมาสู่การเลือกตั้งอันเป็นวิถีประชาธิปไตย เพราะเป็นแนวทางที่ทำให้อำนาจการเมืองไปสู่มือประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช่แนวทางที่เอาอำนาจการเมืองทั้งหมดไปให้คนกลุ่มเดียวนำไปใช้

มีทั้งเสียงขัดแย้ง ด้วยความห่วงใยความยุ่งยากในพรรคประชาธิปัตย์ อันเป็นพรรคเก่าแก่คู่การเมืองไทยมายาวนาน

ประเด็นใหญ่ที่มองเชิงขัดแย้งว่าจะกลายเป็นระเบิดเวลาในอนาคตก็คือ สุดท้ายแล้ว หลังการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง

จะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมือง สนับสนุนหัวหน้าพรรคตัวเองเพื่อขึ้นเป็นนายกฯ

หรือจะสนับสนุนนายกฯที่มาจาก คสช.

อีกทั้งระหว่างหัวหน้าที่อยู่นอกพรรค กับหัวหน้าพรรค ใครจะกำหนดทิศทางได้มากกว่ากัน

นี่คือปัญหาที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา

แต่จู่ๆ มีการหยิบประเด็นตำรวจขึ้นมาจุดพลุ เพื่อผลักให้เป็นข่าวใหญ่ ด้านหนึ่งง่ายดายที่สุด ยิ่งโผตำรวจเพิ่งเสร็จ คำสั่งโยกย้ายเพิ่งเผยแพร่ ย่อมมีทั้งตำรวจที่สมหวังและผิดหวัง

แถมเพียงแค่หยิบเรื่องเงินทองมาพูดก็เป็นประเด็นง่ายดาย มีมูลมีหลักฐานขนาดไหน ก็พูดไปก่อน พูดได้เสมอ

มองแง่นี้ ถือว่าสร้างบทบาทของแกนนำ กปปส.ที่กลับมาเล่นการเมืองให้โดดเด่นได้ฉับไว

ไปจนถึงเพื่อพุ่งเป้าไปยังตำรวจบางคน หวังกระทบไปถึงบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรี

ซึ่งแนวทางการเคลื่อนไหวแนวนี้ ที่มีคนกลุ่มหนึ่งทำมาเป็นระยะๆ เห็นเครือข่ายได้ชัดเจนอยู่แล้ว

แต่ก็ยังไม่ได้ผลชัดเจนนัก

ในทางกลับกัน ในหมู่ตำรวจวงกว้างเอง เมื่อแกนนำ กปปส.เขย่าตำรวจ ชาวตำรวจจะนึกถึงอะไร

ย่อมต้องนึกถึงประวัติศาสตร์ความขัดแย้งอันร้าวราน เพราะเพิ่งผ่านมาเพียงแค่ 3-4 ปี ยังไม่เลือนหายไป

ภาพม็อบรื้อป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ภาพตำรวจลุกขึ้นเตะระเบิด

ต้องนึกถึง เพราะอดีตบอกปัจจุบัน กระทั่งชี้แนวโน้มในอนาคต

………………

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่