ตะลึง!!! กับข้อเสนอ การปฏิรูปการศึกษาของ วินมอ’ไซค์ มีนา โชติคำ โดย : เพชร เหมือนพันธุ์

ตะลึงแรกคือ คลิปหนังโฆษณา กลุ่มเพื่อน มีนา โชติคำ วินมอ’ไซค์ ที่ออกสื่อตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2560 เป็นต้นมา เพียงไม่กี่วันก็สร้างยอดวิวได้มากถึงเกือบ 2 ล้านวิวแล้ว เพราะมันได้สะท้อนสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการศึกษาของประเทศไทยที่ถูกฝังลึกอยู่ในใจของประชาชนทุกระดับชั้นมานาน แรงกดดันที่ระเบิดออกมาผ่าน Clip VDO นี้ จึงได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วและแพร่หลาย หนึ่งในทีมครีเอทีฟที่สร้างคลิปนี้คือ คุณ Prasit Vittayasamrit ได้ออกมาชี้แจงผ่าน Facebook ส่วนตัวแล้วว่า คลิปที่ถูกนำเสนอเป็นเรื่องที่เป็นการจัดทำขึ้น แต่ชื่อ มีนา โชติคำ จะยังคงอยู่ในหัวใจของนักการศึกษาที่เข้าใจถึงปัญหาและห่วงใยการศึกษาทุกคน

ขณะที่รัฐบาลและผู้ใหญ่ทางการศึกษาของประเทศกำลังจัดสายกำลังการบังคับบัญชาใหม่ในกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้เกิดศูนย์รวม (Unity) ศูนย์รวมการบังคับบัญชาในการตัดสินใจสั่งการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการบริหารหรือการบังคับบัญชา โดยเพิ่มศึกษาธิการภาค เพิ่มศึกษาธิการจังหวัด และมีการเปลี่ยนแปลงในระดับเบื้องบน
ก่อนถึงผู้บริโภคอีกมากมาย แต่ในระดับของผู้บริโภค หรือผู้เรียนผู้ปฏิบัติหรือผู้รับบริการ กลับมีการเรียกร้องในสิ่งที่ต่างกัน เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่เคยทราบหรือไม่อาจเคยรู้ว่าผู้บริโภคมีความต้องการจริงๆ ในเรื่องอะไร

สิ่งที่ประชาชนต้องการ ณ วันนี้ ได้มีคนมาบอกผ่าน Clip VDO นี้แล้ว เขาคือมีนา โชติคำ วินมอ’ไซค์ อายุ 28 ปี พูดภาษาถิ่นอีสาน อาศัยฉากแถวสุขุมวิท สิ่งที่คณะผู้จัดทำคลิปจัดทำคือเขาต้องการให้รัฐบาลสร้างศูนย์ความรู้ในชุมชน หรือศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์การศึกษาระดับชาติ (Knowledge Center, National Knowledge Center, Education Community Center) หรืออาจมีชื่อเรียกต่างกัน

ฉากเริ่มด้วยการแนะนำตนเองของ นายมีนา โชติคำ วินมอ’ไซค์ อายุ 28 ปี ได้เสนอคำเรียกร้องเป็นภาษาอีสาน ดังนี้ ……….. แนะนำตัวเองหน่อยครับ ผมชื่อ มีนา โชติคำ อายุ 28 ปี เป็น “วินมอ’ไซค์” ครับ คุณไปเรียกร้องอะไรไว้ใน Change.org คือว่า สิ่งที่ผมเรียกร้องนี้เป็นสิ่งที่คนในประเทศต้องการ ไล่ไปตั้งแต่ลูกภารโรงไปจนถึงลูกนายกฯ มันเป็นจิ๊กซอว์ที่บ้านเมืองขาดหายไป ผมก็ไม่เข้าใจว่า ในประเทศนี้ทำไมไม่เห็นด้วยกับผมก็มันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ทำไมจึงมีคนไม่เห็นด้วย แล้วพี่ลงให้ผมเปล่า พี่เห็นด้วยกับผมหรือเปล่า เจ้าลองเบิ่งเอา (ส่งภาษาอีสาน) แถวที่เราอยู่ เมืองรอบๆ สุขุมวิทนี้เจริญสุดๆ ในประเทศ รอบตัวเรามีอะไรบ้าง เต็มไปด้วยตึกคอนโด โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างๆๆๆๆ เต็มไปหมด จักว่าสร้างขึ้นมากมาย กะด้อกะเดี้ย (มากมาย) ทำไม ความจริงคนเรามีหลายอย่างที่อยากจะทำแต่ไม่ได้ทำเพราะมันทำไม่ได้ ความรู้อย่างเดียวที่พอจะหาได้จากห้างก็คือยามใด (เวลาใด) ที่เขามี Midnight Sale เท่านั้น ในพื้นที่กลางเมืองเช่นนี้ สิ่งที่เราเรียกร้องหามากกว่าห้างก็คือ Knowledge Center (ศูนย์ความรู้) สถานที่ที่ทุกคนเข้าถึง มาเดินเล่นได้ ม่วนสนุกสนานได้ เต็มไปด้วยความรู้ เด็กเล็กเด็กน้อยต่างมีความฝัน

Advertisement

ฝันง่ายๆ แต่ทำได้ยาก แค่ประสาเต้น Cover หรือเต้น Cheer Leader ของเด็กนักเรียน ก็ยังต้องไปหาสถานที่แอบทำในซอกหลืบหรือใต้ทางด่วน

ยกตัวอย่างในประเทศญี่ปุ่นเขาตั้งธงเอาไว้ว่าคนของเขาจะต้องเก่งไปให้ถึงอยู่ในระดับโลก ที่เมือง Osaka มีการสร้าง Knowledge Capital โดยเขาไปจ้างเอาครูอาจารย์ที่เก่งๆ มาสอน ไปจ้างนักวิชาการ นักวิจัย ศิลปิน ผู้เชี่ยวชาญมารวมกันสอน ไม่ใช่มีแค่เด็กๆ ที่มาเรียน แม่บ้าน คนเฒ่าคนแก่ก็ได้เข้ามาเรียนด้วย สรุปแล้วพื้นที่ที่ต้องการนี้คือ พื้นที่เพื่อการเรียนรู้กลางใจเมืองสำหรับทุกคน National Knowledge Center คนหลงทาง (ชีวิต) เขาก็ช่วย คนที่ไม่รู้ว่าตนเองจะไปทำอะไรก็ช่วยเขา เขาจะพยายามช่วยหา Focus ให้ว่าผู้เรียนแต่ละคนต้องการอะไร

อย่างใน Holland มีอยู่ที่หนึ่ง เขาก็สร้างเป็นศูนย์ Dynamo สร้างไว้ให้สำหรับคน Gen Y สร้างขึ้นมาทำเป็นห้อง Lab ให้ด้วย ให้เด็กๆ ในประเทศและคนทั่วไปได้ไปทดลองเล่น ให้เด็กไปลองเล่นจะได้ค้นพบตนเอง ในประเทศเราหลายคนจบมาแล้วไม่รู้ว่ากี่ปริญญา ก็ยังไม่รู้เลยว่าตนเองอยากทำอะไร

Advertisement

คุณพูดเหมือนคุณเคยไปประเทศ Holland มาแล้ว ผมเคยครับ เอื้อย (พี่สาว ) ผมไปเป็นหมอนวดอยู่นั่น ผมก็ไปอยู่กับพี่สาวผมสามเดือน แล้วผมก็ไป Take Course อยู่ที่นั่น ไป Take Course : อะไรมา Human Develop ครับ

เอ๊ะ! น้องนี่เป็นวินมอ’ไซค์จริงไหมเนี่ย เป็นหยัง “วินมอ’ไซค์ “ต้องโง่กว่าพวกเจ้าคุณไปทุกคนซั่นบ่ มันบ่แมนจังซั่น อย่าไปคิดอย่างนั้น ปกติผมก็เล่นหุ้นก็สะสมกองทุน มีเงินเก็บก็ไปเที่ยวต่างประเทศใช้ชีวิตเหมือนเช่นพวกคุณนั้นแหละ เพียงแต่ผมไม่อยากเป็นพนักงานออฟฟิศ บ่อยากมีเจ้านายเท่านั้นเอง

คนเราก็ต้องมีหลายความฝัน ก็ต้องทำงานหลายอย่าง ไม่ใช่ทำงานอาชีพอย่างเดียว พอโลกเปลี่ยนปั๊บเราก็ตายไปเลยอย่างซั่นบ่ (อย่างนั้นใช่ไหม)

ความจริง Knowledge Center เป็นความจำเป็นเพราะมันเปิดให้ใครก็ได้เข้ามาเรียนรู้ ให้คนเข้ามาค้นหา เข้ามารู้จักตนเอง เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้มีเฉพาะในยุโรปและอเมริกาเท่านั้นนะ ในสิงคโปร์ ในเวียดนามเขาก็เปิด แล้วผมว่าเรามาเซาหยุดสัมภาษณ์ซะเถอะ ปิดวิชากล้องถ่ายภาพนี้เสีย แล้วก็เอามือถือขึ้นมาเข้า Web:Change.org เข้าไปช่วยกันโหวต เรียกคนมาโหวต เรียกเพื่อนมาโหวต ยิ่งหลายยิ่งดี ต่างคนต่างโหวต ผมไม่ได้ว่า (พูด) เพื่อผมนะ ก็ว่าเพื่อเจ้าทุกคนนั่นแหละ (ผมไม่ได้พูดเพื่อผมนะ ก็พูดเพื่อทุกคนนั่นแหละ)

สิ่งที่ มีนา โชติคำ วินมอ’ไซค์ เรียกร้องคือ พื้นที่การเรียนรู้สาธารณะกลางใจเมืองสำหรับทุกคน (National Knowledge Center : NKC.) แม้จะเป็นเพียงคลิปโฆษณา แต่เนื้อหาได้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการศึกษาไทย ซึ่งเป็นคำตอบโจทย์โลกในอนาคต ที่ผลักดันให้เราต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา โลกในอนาคตกำลังฆ่าโลกปัจจุบัน ถ้าเราไม่ปรับตัวมันจะฆ่าอาชีพของเราทิ้ง เหมือนมันฆ่าอาชีพพนักงานพิมพ์ดีด หรืออาชีพส่งโทรเลขมาแล้ว สิ่งเดียวที่จะทำให้เรารอดพ้นคือการปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ ทางเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลก เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเรียนรู้แค่ให้มีงานทำเท่านั้น แต่เราต้องการความรู้มวลรวมของประชาชนทุกระดับทั่วประเทศเพื่อส่งผลต่อการพัฒนาการของชาติ

ดังนั้น Community Knowledge Center จึงน่าจะเป็นคำตอบที่สามารถตอบโจทย์ของวันนี้ได้ถูกต้อง

ละครสั้นจาก Clip VDO นี้ ได้สะท้อนถึงปัญหาความผิดพลาดล้มเหลวของการจัดการศึกษาไทย ที่ผู้ใหญ่ควรนำไปพิจารณา เป็นปัญหาขั้นพื้นฐานที่เป็นอยู่และยังคงอยู่ ที่ประชาชนธรรมดาได้พบเจอในสังคมไทยในวันนี้ ผู้ใหญ่จะนำไปถือเป็นเรื่องโกรธเคืองไม่ได้ เพราะผู้จัดทำต้องการสะท้อนภาพความจริงที่เป็นงานทางวิชาการ งานทางวิชาการต้องสามารถวิพากษ์ได้ โอกาสทางการเข้าถึงการศึกษาชั้นเยี่ยมของคนระดับรากหญ้ามีขีดจำกัดยิ่งต้นทุนชีวิตมีน้อยก็ยิ่งเสียเปรียบมากเท่านั้น และยิ่งสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยด้วยแล้ว การพัฒนาตนเองด้วยการศึกษาเสาะแสวงองค์วิชาความรู้ในยุคดิจิทัลยิ่งจะทำให้สูญเสียโอกาสพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้แก่ประเทศ

ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่มีความพร้อมสูงของชาวบ้าน จำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน ศูนย์การเรียนรู้ในชุมชนจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง แหล่งการเรียนรู้ไม่ควรจำกัดอยู่ที่โรงเรียน ในวิทยาลัย หรือในมหาวิทยาลัยเท่านั้น เด็กหรือผู้ใหญ่หรือผู้ด้อยโอกาสควรเข้าถึงความรู้ได้โดยง่าย ทุกคนควรจะสามารถเสาะแสวงหาสิ่งที่ตนเองต้องการหรือสนใจได้ ผู้เรียนต้องสามารถออกแบบการเรียนรู้ที่ตนเองต้องการได้ ดังนั้น Knowledge Center จึงน่าจะเป็นนวัตกรรมที่สามารถตอบคำถามในวันนี้ได้ ดังนั้น Clip VDO ที่คณะผู้จัดทำขึ้นนี้ แม้ไม่มีผู้ร้องขอให้จัดทำ แต่ก็สามารถสื่อสารถึงสังคมได้ สมควรได้รับคำชมเชย

ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ได้ไปเรียนรู้จากศูนย์การศึกษาของชุมชนในเมือง Oneonta NY.USA. เมื่อปี 1996 หรือ 20 กว่าปีที่ผ่านมาแล้ว ศูนย์นี้มีชื่อว่า Oneonta Community Education Center : OCEC ผู้เขียนได้เข้าเรียนวิชาภาษาอังกฤษจากครูในศูนย์นี้ที่เขาจัดไว้พิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ หรือกลุ่มผู้อพยพที่ภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรง มีผู้เรียนจากหลากหลายชาติ มีหลากหลายวิชาที่เปิดสอนในศูนย์แห่งนี้ มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ แม่บ้านมานั่งเรียนมาเรียน เป็นการเรียนการสอนในกลุ่มเล็กๆ บางกลุ่มก็มีเด็กต่างชาติมานั่งเรียน ทั้งมาจากเอเชีย เช่น จีน ไทย เขมร เวียดนาม ผู้เรียนได้เรียนโดยได้ลงมือฝึกปฏิบัติจริง

ลักษณะก็คล้ายๆ กับศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน หรือกศน.

ตะลึงที่สอง คือแนวคิดเชิงปรัชญาการศึกษาของ โจน จันได หนุ่มใหญ่ชาวอีสาน ผู้เชี่ยวชาญด้านบ้านดิน นักต่อสู้ชีวิตลูกอีสานชาวยโสธรที่มองเห็นความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทยในปัจจุบัน เขามองว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพในตนเอง ชาวบ้านทุกคนต่างก็มีศักยภาพ การศึกษาต้องพัฒนาคนให้สามารถช่วยเหลือตนเองและพึ่งตนเองให้ได้ ไม่ใช่พยายามผลักเด็กเข้าไปในห้องเรียนเพื่อเรียนรู้ในสิ่งเดียวกันทั่วประเทศ ใช้หลักสูตรเดียวกัน ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน ตัดผมเหมือนกัน เด็กไม่ใช่ทหาร เราไม่ต้องการทำให้คนเหมือนกัน การให้การศึกษาต้องให้โอกาสเด็กได้ค้นพบศักยภาพของตนเอง การศึกษาที่ผ่านมาคือการฝึกคนให้จำ เชื่อฟังและทำตาม ซึ่งเป็นการพัฒนาไปสู่ความต่ำต้อย โรงเรียนคือโรงงานผลิตทาสเพื่อไปรับใช้โรงงาน สิ่งที่สอนเด็กในโรงเรียนทุกวันนี้แทบไม่ได้นำมาใช้ในชีวิตจริงเลยครับ เก็บเอาความคิดเห็นที่แตกต่างของทั้งสองคลิปนี้มาเป็นข้อมูล ข้อเสนอแนะในการปฏิรูปการศึกษา อาจพบเส้นทางสว่างได้

โปแลนด์การศึกษาก่อนหน้านี้ก็เคยตกต่ำ แต่เขาวิเคราะห์ปัญหา หาทางเลือกที่ถูกต้องได้ เขาจึงใช้เวลาเพียง 10 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image