| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
กรณีของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สร้างความคึกคักเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ภายในพรรคเพื่อไทย หากครอบคลุมถึงการเมืองโดยรวม
เหมือนกับเมื่อตอน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาพูด
พูดถึงการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งเพื่อทำงาน “ปฏิรูป” ให้สำเร็จ
จากนั้น 8 แกนนำ กปปส.ก็เดินทางเข้าพรรคประชาธิปัตย์
เพียงแต่จังหวะก้าวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อประสานเข้ากับ 8 แกนนำ กปปส.เสริมความแจ่มชัดให้กับพรรคประชาธิปัตย์และการเมืองหลังการเลือกตั้ง
หากกรณีของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กลับยังคลุมเครือ
เป็นความคลุมเครือจากเงื่อนไขของประกาศ คสช.เป็นความคลุมเครือจากเงื่อนไขภายในพรรคเพื่อไทยที่ยังขยับได้ไม่มากนัก
เมื่อเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเทียบกับกปปส.
บทบาทของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และบทบาทของพรรคเพื่อไทย จึงดำเนินไปในลักษณะ “โยนหินถามทาง” มากกว่า
1 โยนหินถามทาง “ภายใน” พรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อแนวโน้มในอนาคตก็คือ โยนหินถามไปยัง “คสช.” โยนหินถามไปยัง “กองทัพ”
ถามว่ารับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้หรือไม่
กรณีของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จึงเป็นสถานการณ์เหมือนก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ที่มีการเสนอชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช ขึ้น
ความหนักแน่นในกรณีของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มิได้อยู่ที่การเปิดเผยข้อเท็จจริงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นายวัฒนา เมืองสุข ซึ่งถือเป็นสายอิสระไม่ขึ้นต่อกลุ่มของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เท่านั้น
หากยังอยู่ที่การเอ่ยถึงนามของ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์
นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ถือเป็นนามที่มีความหนักแน่นอย่างเป็นพิเศษไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านามของ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช
2 คนนี้มิได้เป็นนักไต่เต้าทางการเมือง
นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช มีจุดแข็งอยู่ตรงที่มิได้ต้องการแสดงบทบาทในฐานะแถวที่ 1
หากแต่บทบาทดำเนินไปในแบบ “คนเบื้องหลัง”
นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประกาศชัดไม่ต้องการเป็น “รัฐมนตรี” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรีก็เพราะความจำเป็น
แท้จริงแล้วมีความสุขกับตำแหน่ง “เลขาธิการ” นายกรัฐมนตรีมากกว่า
ขณะเดียวกัน หาก นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ หรือ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช โอนเอียงไปทางด้านใดสะท้อนว่าเป็นการส่งสัญญาณมาจาก “คนต่างแดน” ประสานกับคน “บ้านจันทร์ส่องหล้า”
กรณีของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จึงเป็นสัญญาณ 1 กระนั้น เป้าหมายอย่างแท้จริงจึงอยู่ที่ว่าทางด้าน คสช.ทางด้านทหารมีท่าทีอย่างไรต่อกรณีของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
นี่จึงเป็นบทที่ “คุณหญิง” จะต้อง “สำแดง”
สถานะของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ว่าจะมองจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมองจากบางส่วนของ คสช.และกองทัพ จึงเป็นอย่างที่ พล.อ.นพดล อินทปัญญา ประเมินนั่นก็คือ น่าจะเป็น “เต็งหนึ่ง”
เป็นเต็งหนึ่งในบรรดา “ตัวเลือก” อันมากหลายภายในพรรคเพื่อไทย เพียงแต่จะเปิดตัวหรือยังไม่เปิดตัวออกมาเท่านั้น
ขณะที่ ณ วันนี้ “คุณหญิง” เปิดตัวออกมาแล้ว
