ปรับตัว โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข

ทุกแวดวงกำลังปรับตัว เพราะการเปลี่ยนแปลงของโลกเห็นชัดและเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ในทิศทางที่เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่เป็นตัวกำหนด

แม้แต่ผู้ทรงศีล คือพระภิกษุสงฆ์ ก็เพิ่งมีข่าวว่าจะเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทการ์ดแทนใบสุทธิ

ที่จริงยังช้าไปด้วย เพราะพระท่านรับเอาไอทีเข้าไปใช้ในการเรียนการศึกษาพระธรรมวินัยและในกิจการของวัด สำนัก ฯลฯ มานานแล้ว

มือถือ สมาร์ทโฟน มีญาติโยมถวาย ไม่มีตกรุ่น

Advertisement

ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงและปรับตัว มีบทความในเว็บต่างๆ สะท้อนเรื่องราวเหล่านี้ให้อ่านกันไม่หวาดไม่ไหว

ในมุมหนึ่ง หัวข้อและเนื้อหาในบทความเหล่านี้จะเตือนง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวว่า อาชีพอะไรกำลังเสื่อม มีแนวโน้มสูญพันธุ์

อาชีพอะไรกำลังรุ่ง และจะรุ่งต่อไป

Advertisement

จะปรับตัวกันยังไง หรือว่าเหลือฝืนแล้ว ต้องถอนสมอบ่ายหน้าไปยังน่านน้ำอื่นกันต่อไป

ไม่ต้องอะไรมาก วงการสื่อเอง จากที่เคยทำข่าว เขียนบทความ พิมพ์ ขนส่ง นำเสนอต่อผู้อ่าน

ตอนนี้เปลี่ยนหมด ข่าวสารเดินทางผ่านอินเตอร์เน็ตถึงคนอ่านในไม่กี่วินาที

ต้องเรียนรู้ต้องศึกษาว่า คนอ่านอยู่ที่ไหน ท่านจะอ่านจากอุปกรณ์ชนิดไหน และชอบหรือพึงพอใจที่จะอ่านอะไร

จะอ่านตัวหนังสือ จะต้องมีภาพมีคลิปประกอบ อย่างไร ข้อมูล ความคิดเห็นที่ได้ คือการเรียนรู้ที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนตัวเอง และลักษณะของงานอาชีพทั้งสิ้น

ไม่อย่างนั้นได้พลัดหลงกับคนอ่านแน่

สิ่งสำคัญในการที่โลกกำลังพลิกโฉมหน้าไปก็คือ การมีส่วนร่วมของผู้คนทุกหนทุกแห่ง

เมื่อใช้สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่นใดก็ตาม อ่าน ดู ข่าวสารหรือเนื้อหาใดๆ ก็ตาม จะตามมาด้วยการแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่ง

โซเชียลมีเดียต่างๆ ล้วนตอบสนองการแสดงออกเหล่านี้

อย่างรีบๆ ไม่มีเวลาพิมพ์ หรือขี้เกียจพิมพ์ ก็ต้องกดสติ๊กเกอร์ อีโมจิ การ์ตูน เป็นสัญลักษณ์แทนความคิดความรู้สึกลงไป

นอกเหนือไปจากการพิมพ์ความคิดความเห็นลงไป แล้วปล่อยให้ความเห็นปรากฏควบคู่กับเนื้อหาต่างๆ

การกดไลค์ความเห็น แชร์ข่าวความเห็นต่างๆ ล้วนสะท้อนความต้องการมีส่วนร่วม การมีความเห็นร่วมทั้งสิ้น

สำหรับสื่อ เป็นครั้งแรกๆ ที่คนทำงานข่าวสามารถสัมผัสตัวผู้อ่าน รับรู้ความคิดความเห็นกันได้ทันที

ช่องว่างช่วงห่างที่กระชับเข้ามา ช่วยในการปรับเปลี่ยนมากขึ้น ให้เร็วและตรงจุดมากขึ้น

ธุรกิจการค้าต่างๆ คงจะเหมือนๆ กัน การสามารถสื่อสารกับลูกค้า ผู้ใช้บริการได้ทันทีในเวลาอันรวดเร็ว มีผลดีอย่างมาก

โดยเฉพาะการทำมาค้าขายที่ตรงไปตรงมา มุ่งเสนอสินค้าหรือบริการที่ดี

ส่วนพวกหากินแปลกๆ คดๆ เคี้ยวๆ ก็จะเจอลูกค้าที่ไม่พึงพอใจมาจ่อคอหอยอยู่ร่ำไป

ว่าไปแล้ว ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสังคมมนุษย์ ล้วนต้องการความคิดความเห็นเข้ามาช่วยติติง สนับสนุน หรือคัดค้านทั้งสิ้น

ขณะที่งานที่ไม่อยู่ในลิสต์สูญหาย คือนักการเมือง

แต่ในบ้านเรามีความเสี่ยง มีปัญหาเฉพาะที่เรียกกันว่า ไทยแลนด์โอนลี่

นักการเมืองสายเลือกตั้งเสี่ยงอย่างหนึ่ง สายตรงกันข้ามเสี่ยงไปอีกอย่างหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม จะแบบไหนล้วนหนีไม่พ้นต้องเปลี่ยนแปลงตามโลกเหมือนกัน

นักการเมืองที่เดินในกฎกติกา ต้องต่อสู้ข้อหาโกง ฉ้อฉลระบบให้ได้

ส่วนสายกิตติมศักดิ์ ต้องหมั่นฟัง “เมนต์” ของชาวบ้าน

อย่ามัวแต่ฟังเมนต์ที่เข้ามาอวย

อาชีพหลายๆ อย่างไม่ปรับตัวก็รับผลกระทบต่างๆ เอาเอง

แต่บางอาชีพ ความซวยจะไปตกกับชาวบ้าน

……………

 

วรศักดิ์ ประยูรศุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image