คอลัมน์: สถานีคิดเลขที่ 12: ไปให้ไกลกว่า’สรยุทธ’?

คงต้องให้เครดิต “วิป” สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) สักหน่อยที่ไม่ยอมเต้นตามข้อเสนอของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และคณะ
อันประกอบด้วย คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชน กับคณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ

ที่พากันเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายเรื่อง การปฏิรูปจริยธรรมของสื่อมวลชน และการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เวที สปท.

อันเป็นผลสืบเนื่องจากกรณีศาลตัดสินจำคุก นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา 13 ปี 4 เดือน

แต่วิป สปท.ชิ่งออก โดยให้นำญัตติกลับไปศึกษาใน 30 วันแล้วค่อยกลับมาพิจารณากันใหม่

Advertisement

ที่ว่าต้องให้เครดิตวิป สปท. ก็เพราะเกิดไปเต้นตามกระแส “จริยธรรมสูง” นั้น คงกระอักกระอ่วนใจพิลึกเพราะก่อนหน้านี้ เคยมีการเรียกร้องให้ทั้ง สปท.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แสดงบทบาท “ผู้ตรวจสอบ” บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการคอร์รัปชั่นอย่างช่วงที่อุทยานราชภักดิ์มีปัญหาทั้ง สปท.-สนช. พากันเงียบกริบ ไม่เคยมีกระทู้หรือมีญัตติใดๆ สอบถามรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวและไม่เคยมีกรณีเข้าไปตรวจสอบการโกงใดๆ เลยมีเสียงชี้แจงแผ่วๆ ว่า ทั้ง สปท.และ สนช.ไม่ใช่สถาบันตรวจสอบเหมือนสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

และยังเป็น 2 ในแม่น้ำ 5 สาย จะไปตรวจสอบแม่น้ำสายใหญ่ได้อย่างไรฟังเหตุผลพิลึกอยู่ แต่ก็อือๆ ออๆ กันไป ไม่อยากต่อความยาว เพราะไม่มีอะไรให้สาวเพื่อยืดอีกแต่จู่ๆ เมื่อมีกรณีนายสรยุทธขึ้นมา “ตุ่มจริยธรรม” บางคนเกิดโป่งพองขึ้นมา พากันลุกขึ้นมาจะขึงพืดนายสรยุทธ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ไม่มีสิทธิที่จะชี้แจงตอบโต้ใน สปท. เห็นแล้วก็ได้แต่ปลงๆถึงได้บอกว่า ยังดีที่วิปไม่เต้นตามมิฉะนั้น สปท.ถูกนินทาไปทั้งเมืองแน่ว่า มีวาระซ่อนเร้นแห่งการชำระแค้น หรือระบายความหมั่นไส้นายสรยุทธที่พยายามทำหน้าที่ของตัวเอง โดยไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ซึ่งเคยเป่านกหวีดและเคยขึ้นเวทีปราศรัย กปปส. หลายครั้งหลายหน คงจำได้ดีถึงภาพอันขมขื่นของนายสรยุทธที่ถูกม็อบ กปปส.ห้อมล้อมที่ช่อง 3 แล้วขอให้นายสรยุทธเป่านกหวีด เพื่อแสดงความเป็นพวกเดียวกัน

เสียงนกหวีดจากนายสรยุทธวันนั้น ปร่าแปร่งไม่ไพเราะหู

เลยอาจมีใครที่ได้ดิบได้ดีจากการรัฐประหารมานั่งใน สปท. ได้โอกาสขอพ่วงเพื่อที่จะ สะสางฝ่ายที่ไม่ยอมเป็นพวกเสียเลย

ซึ่งว่าไป ถ้าวิป สปท.ไม่ชิ่งเรื่องให้ไปศึกษาญัตติก่อน 30 วัน ปล่อยให้ กมธ.ด้านการ สื่อสารมวลชน กับ กมธ.ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เดินหน้าอภิปรายก็คงสนุกไปอีกแบบ

โดยเฉพาะเห็นข้อเสนอของคนกันเอง ที่เคยไปขึ้นเวที กปปส. อย่าง นายสมเกียรติ อ่อนวิมล ทวิตเตอร์เรียกร้องให้สื่อมวลชนขยายผลกรณีนี้ไปมากกว่ากรณีนายสรยุทธ คือให้ขยายผลไปตรวจสอบเรื่องการซื้อเวลา ใน “แดนสนธยา” อสมท รวมกระทั่งค้นหาความจริง “บางอย่าง” ใน ททบ.5 ด้วยไม่รู้ว่านายสมเกียรติรู้ข้อมูลอะไรดีๆ จึงออกมาชี้เบาะแสเช่นนั้นซึ่งคงไม่ได้ผูกขาดการตรวจสอบไว้เฉพาะสื่อ หากแต่ กมธ.ด้านสื่อและปราบโกง น่าจะสามารถสมาทานเอาเรื่องนี้ไปตรวจสอบได้ด้วย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นคงประเสริฐและญัตติจะได้ไม่คับแคบอยู่เรื่องตัวบุคคลอย่างนายสรยุทธ หากแต่ขยายไปไกลกว่านายสรยุทธ คือเป็นเรื่องการตรวจสอบสื่อโดยรวม ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะกว่า

ศึกษาแล้วเสนอกลับเข้าไปยังที่ประชุมวิป สปท.อีกรอบคราวนี้อาจจะมีไฟเขียวให้เปิดอภิปรายก็ได้คงน่าสนใจและน่าฟังยิ่ง!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image