ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
ถ้าถึงขนาดที่นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ต้องออกปากเอง
ย่อมมิใช่เรื่องเล็กแน่นอน
และย่อมไม่มีใครที่มีเดียงสาทางการเมืองเชื่อว่า
25 สิงหาคม วันอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีประชาชนที่ให้การสนับสนุนมารวมตัวกันจำนวนไม่น้อยเพื่อเป็นการให้กำลังใจ
จะเป็นเรื่องเล็ก
24 กรกฎาคม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์กรณีข่าวเรื่องจะมีประชาชนจำนวนหนึ่งนัดรวมตัวเพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 25 สิงหาคม ว่า
“สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากไว้คือเรื่องของความมั่นคง เพราะมีหลายคนประกาศว่าจะออกมารวมตัวกันในวันนั้นวันนี้
ผมขอถามว่าประชาชนทั้งประเทศรับได้หรือไม่
จะรักใครชอบใครก็รักไป แต่ไม่เห็นว่าจะต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย
เพราะกระบวนการยุติธรรมเขามีอยู่แล้ว ก็ต้องไปว่ากันไปตามขั้นตอน
ฉะนั้น ใครที่ไปปลุกระดมมวลชนต่างๆ ให้เข้ามา ท่านต้องรู้ว่ามันผิดกฎหมายทุกตัว จะชุมนุมจะประกาศอะไรต่างๆ มันผิดกฎหมายทั้งหมด
ถ้าวันนี้ยังไม่โดนวันข้างหน้าก็โดน เพราะกฎหมายก็เป็นกฎหมาย ไม่มีการยกเลิก”
ขานรับโดยพลันทันทีจาก พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะรอง ผอ.รมน. ระบุชัดเจนว่า การเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถทำได้
แต่การรวมตัวกันเพื่อจัดตั้งมวลชนลักษณะม็อบนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะผิด พ.ร.บ.การชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ และคำสั่ง คสช.
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
จะไม่ให้ “หัว” ส่ายได้อย่างไร
ในเมื่อ “หาง” กระดิกล่วงหน้ามาก่อนแล้ว
เพียงหลังวันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขึ้นศาลครั้งสุดท้าย 21 กรกฎาคม “นกรู้” อย่างนายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ก็เขียนในเฟซบุ๊กส่วนตัวทันทีว่า
“ละครลวงโลก
เห็นข้อมูลรายชื่ออดีต ส.ส.ภาคอีสาน
เป็นหัวแรงขนคน มีรายการจำนวนรถขนคนและหัวคะแนนขนคนมาให้กำลังใจที่ศาล และรายละเอียดขนาดว่ารถแต่ละคันมีใครคุม ระบุเลขโทรศัพท์ประสานงาน
ก็ชัดว่าระดมกันขนาดนี้ ตอนขึ้นรถมีจำนวนมากแต่มาที่ศาลจิ๊บจ๊อยก็ชัดว่ามีพวกหนีลงกลางทาง
ที่ท่าน ผบ.ทบ. ท่านบอกว่าไม่ถึง 500 คนนะท่านให้เกียรติมากแล้วนะ จริงๆ สัก 300 ก็ไม่แน่จะถึงไหม
อย่าเอะไป เรียกม็อบ 500 ก็ดีนะ เพราะตัวเลข ม็อบ 500 นั่นนะ ไม่เป็นมงคลดอกเพราะไม่เต็มบาท
อย่างนี้มีอะไรให้ซึ้งใจจนต้องร้องไห้เล่า
มันน่าสังเวชมากกว่า”
สําทับด้วยดาบสองอย่างนายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่า
ตนมีข้อมูลต่อการเคลื่อนไหวระดมมวลชนในพื้นที่ต่างจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดในเขตปริมณฑล
ให้นำประชาชนเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ จำนวน 2 รอบ คือ 1 สิงหาคม และ 25 สิงหาคม
เพื่อชุมนุมบริเวณหน้าศาลในจำนวนหลักหมื่นคน
และทราบด้วยว่าขณะนี้หน่วยข่าวความมั่นคงมีข้อมูลต่อกรณีการระดมมวลชนมายังกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม มีค่าตอบแทนคนละ 1,500 บาท
เบื้องต้นพบหลักฐานเป็นรายชื่อประชาชน หมายเลขโทรศัพท์, รายชื่อแกนนำ และรถโดยสารไม่ประจำทางที่ว่าจ้างมาจากจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ
“กลุ่มฮาร์ดคอร์ของเครือข่ายนั้นเขาประกาศอุดมการณ์ชัดเจนว่าอยากทำสงครามประชาชน ผมขอให้คนที่คิดจะทำนั้นหยุด เพราะหากไม่หยุด
เชื่อว่าจะเป็นอันตรายและมีเหตุที่นำไปสู่ความวุ่นวาย”
น่าสนใจว่า ถ้าขนาด “ตัวประกอบ” ทั้งหลายยังรู้ลึกรู้ชัดขนาดนี้
“พระเอก-พระรอง” ในรัฐบาล และ คสช. ยิ่งต้องมีข้อมูลที่ละเอียดชัดเจนอยู่ในมือ
ประเด็นคือ ถ้ามีข้อมูลหนักแน่นปานนั้น
ยังจะต้องกลัวการเคลื่อนไหวอะไรอีกหรือ?