| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
ไม่เพียงแต่สถานการณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม จะถูกจับตามอง หากพลันที่ “แผนกรกฎ 52” ประกาศออกมาก็ทำให้สถานการณ์ในวันที่ 1 สิงหาคม
เท่ากับเป็นการ “อุ่นเครื่อง”
หากฟังจากเสียงของแฟนานุแฟน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่าจะทางภาคเหนือ ไม่ว่าจะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีจำนวนหนึ่งที่แสดงออกว่าจะมาให้ “กำลังใจ”
คนที่ออกมาแสดงเจตจำนงก่อนใครอื่นน่าจะเป็น นายวัฒนา เมืองสุข ที่ยืนยันจะไปหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 1 สิงหาคม
ผลก็คือ มีการแจ้งความและเตรียมออก “หมาย”
เป็น “หมายเรียก” จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะมีโอกาสพัฒนาไปสู่ “หมายจับ” หรือไม่ต้องติดตามบทบาทจาก นายวัฒนา เมืองสุข
สถานการณ์วันที่ 1 สิงหาคม จึงเริ่มระอุ
สัมผัสจากสภาพการณ์บริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม จะเข้าใจอะไรได้มากยิ่งขึ้น
ประเด็นว่าวันที่ 1 สิงหาคม จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่
คำถามอยู่ที่ว่าสภาพการณ์อย่างที่เห็นในวันที่ 21 กรกฎาคม อันถือว่าเป็นครั้งที่ 16 ก็ไม่แตกต่างไปจาก 15 ครั้งที่ผ่านมา
ไม่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง
เพราะหากเป็นการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา 15 ครั้งก็น่าจะมีการแจ้งเตือนและดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่ดูเหมือน “ตำรวจ” ไม่เคยทำอะไร
ทุกอย่างก็เหมือนกับที่บางคนในพรรคเพื่อไทยสรุป นั่นก็คือ คนที่มาล้วนเป็น “สุภาพสตรี” และก็ค่อนไปทาง “ส.ว.” (คือสูงวัย) อย่างมากก็มามอบดอกไม้ เป็นการให้กำลังใจต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเรียบง่าย
ไม่มี “ผู้นำ” ไม่มีการตั้ง “เวที”
จุดต่างอย่างมีนัยสำคัญของสภาพการณ์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม อันแตกต่างไปจาก 15 ครั้งที่ผ่านมาก็คือ ปริมาณของคนที่เข้าร่วมให้ “กำลังใจ”
ที่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 500 กลับไม่ใช่
ที่คาดว่าไม่น่าจะมีคนอื่นนอกเหนือจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กลับไม่ใช่เพราะมีอดีต ส.ส.เข้าร่วมอย่างคึกคัก
จัดระบบแล้วก็เป็น “ตัวแทน” มาจาก “ฐานเสียง” ของพรรค
หรือเพราะว่าเป็นการปรากฏตัวของอดีตรัฐมนตรีอย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายวัฒนา เมืองสุข
หรือเพราะว่าเป็นการปรากฏตัวของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ไม่ว่าจะเป็น นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ว่าจะเป็น นายวัฒนา เมืองสุข ไม่ว่าจะเป็น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็มิได้แสดงอะไรอย่างน่าเกลียด น่าชัง
ไม่มีการปลุกระดม มีแต่ “กำลังใจ” สถานเดียว
ที่น่าจับตาไม่ว่าจะเป็นวันที่ 1 ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 25 สิงหาคม ก็คือ จำนวน “มวลชน” ที่เข้าร่วมจะมากกว่าที่ปรากฏในวันที่ 21 กรกฎาคม หรือไม่
จำนวนอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.จะเป็นอย่างไร
เพราะว่ามาตรการ “ป้องปราม” อันมาจาก คสช.ประสานเข้ากับรัฐบาลตาม “แผนกรกฎ 52” ดำเนินไปด้วยความเข้มข้น เฉียบขาดอย่างยิ่ง
คำถามก็คือ มวลชนนั่นแหละจะเป็นปัจจัยบ่งชี้
