ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
จังหวะที่ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ทำให้ประเด็นการเชิญผู้นำไทยไปอเมริกาผุดขึ้นมาเป็นจริงเป็นจังอีกครั้ง จนทำให้คิดถึงเนื้อเพลง America ท่อนที่ว่า I like to be in America! ในละครเวทีและภาพยนตร์เพลงคลาสสิกของอเมริกาเรื่อง West Side Story
ปีนี้คณะละครเพลงบรอดเวย์ดั้งเดิมเรื่อง เวสต์ ไซด์ สตอรี เรื่องนี้จะมาเปิดการแสดงในไทยด้วยในมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ช่วงเดือนตุลาคม
การมาเปิดการแสดงของคณะจากอเมริกาที่เมืองไทยจึงถือว่าเป็นโอกาสดีของคนไทยที่ไม่มีโอกาสไปอเมริกาได้ชมละครเพลงสุดฮิตและเป็นอมตะเรื่องนี้
เหมือนที่บางคนพูดว่า ในเมื่อไปประเทศอื่นไม่ได้ เดี๋ยวคนจากประเทศอื่นก็มาเยือนบ้านเราเอง
ฟังดูแล้วอาจขำขันหรือสบายใจดี แต่ถ้าคิดให้ดีๆ ก็อาจเป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจอยู่เหมือนกัน
I like to be in America! ที่แปลว่าฉันอยากไปอยู่ในอเมริกา เป็นท่อนคำร้องที่ตัวละครผู้อพยพชาวละตินโต้เถียงกันถึงความใฝ่ฝันที่จะได้ไปอยู่ในดินแดนที่ร่ำรวยและให้โอกาส กับสภาพความเป็นจริงที่เผชิญอยู่
แม้ว่าทุกวันนี้การอพยพเข้าอเมริกาเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีนโยบายเข้มงวดในการรับพลเมืองหน้าใหม่เข้าประเทศ แต่ก็ยังมีคนหลากหลายชาติมากมายอยากเข้าไปหาโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวในอเมริกา
หลังจากมีตัวอย่างเด่นๆ ให้เห็น เช่นในวงการไอที สตีฟ จ็อบส์ ผู้ล่วงลับแห่งแอปเปิลเป็นลูกชายของผู้อพยพชาวซีเรีย ส่วน สุนทร พิชัย ซีอีโอกูเกิลก็มีเชื้อสายอินเดีย และ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แม้เป็นอเมริกันจ๋า แต่ก็มีภรรยาสุดรักเป็นชาวจีน
อเมริกาเป็นดินแดนที่ประกอบด้วยคนหลากเชื้อชาติ ปกครองแบบสาธารณรัฐอยู่บนพื้นฐานของหลักการประชาธิปไตยร่วมกัน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของเขา
ความภาคภูมิใจนี้ผลักดันให้อเมริกาวางตัวเป็นชาติมหาอำนาจ และกำหนดมาตรฐานทางการเมืองโลกขึ้น เช่น ต้องมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกความคิดเห็น เคารพหลักสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมของมนุษย์ ฯลฯ
เมื่อรัฐบาลสหรัฐเชิญผู้นำประเทศใดไปเยือนอเมริกา โดยเฉพาะในทำเนียบขาว ก็น่าจะสื่อได้ว่าประเทศนั้นๆ มีมาตรฐานระดับอเมริกันสแตนดาร์ด อยู่พอสมควร เพียงแต่ว่าอาจจะต้องถูกตรวจสอบอีกขั้นโดยฝ่ายนิติบัญญัติ
กรณีทรัมป์โทรคุยกับ นายโรดริโก ดูแตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์แล้วเชิญไปทำเนียบขาว พอถึงเวลาจริงก็โดนสมาชิกของฝ่ายนิติบัญญัติทักท้วง (และเตรียมประท้วง) เรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน จนหมายต้องชะงักไป
ส่วนกรณีของผู้นำไทยระบุว่ากำหนดไว้แล้วว่าจะไปเยือนสหรัฐในเดือนตุลาคม ตอนนี้รัฐบาลก็เร่งทำตามโรดแมปที่จะให้ไทยคืนสู่ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพและยั่งยืน
ประชาธิปไตยแบบพิเศษระดับนี้ ถ้าถึงเวลาไม่มีโอกาสไปนำเสนอที่อเมริกา ทรัมป์ก็คงต้องส่งคนมาไทยเพื่อขอสูตรด้วยตนเองกระมัง
…………………
ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์