ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
---|
ท้าวปาจิต นางอรพิม วรรณกรรมบอกเล่าเมืองพิมาย (อ. พิมาย จ. นครราชสีมา) เป็นกลุ่มเดียวกันและรุ่นราวคราวเดียวกันกับเรื่องพระสุธน นางมโนห์รา
ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยิ่ง ถ้ามีจับระบำทำละครเรื่องท้าวปาจิต นางอรพิม นอกจากกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองพิมายได้ดีแล้ว ยังมีส่วนสำคัญผลักดันให้วรรณกรรมคำบอกเล่าคลาสสิคเรื่องนี้กระจายสู่สาธารณะเพื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์
กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นิยมเล่นระบำละครเรื่องพระสุธน นางมโนห์รา แต่ไม่ยกย่องให้มีเล่นเรื่องท้าวปาจิต นางอรพิม
เหตุสำคัญอย่างหนึ่งมาจากนักประวัติศาสตร์โบราณคดี ของ วธ. ยึดถือคัมภีร์ประวัติศาสตร์ไทยแบบอาณานิคม กับอีกส่วนหนึ่งเป็นนักวิชาการแข็งทื่อมะลื่อ ความรู้พื้นฐานอ่อนแอบกพร่องทางมานุษยวิทยา, ภาษา, วรรณกรรม, ดนตรี, และประวัติศาสตร์สังคม
ท้าวปาจิต นางอรพิม ในราชสำนักอยุธยา
ท้าวปาจิต นางอรพิม มีในหนังสือทวาทศมาส เป็นวรรณกรรมแต่งเมื่อตอนต้นอยุธยา ราวเรือน พ.ศ. 2000 อ้างอิงการพลัดพรากของตัวละครเอกหนุ่มสาว 6 คู่ ตามลำดับ ดังนี้
พระราม นางสีดา, พระอนิรุทธ นางอุษา, พระสมุทโฆษ นางพินทุมวดี, พระสุธน นางมโนห์รา, ท้าวปราจิต (ปาจิต) นางอรพินท์ (อรพิม), พระสุธนู นางเจียรัปประภา
เท่ากับท้าวปาจิต นางอรพิม เป็นวรรณกรรมชั้นสูง 1 ใน 6 เรื่อง ซึ่งเป็นที่ยกย่องของนักปราชญ์ราชบัณฑิตในราชสำนักตอนต้นอยุธยา
[4 เรื่อง ได้จากคัมภีร์กับชาดกของอินเดีย ส่วนอีก 2 เรื่อง คือ พระสุธน นางมโนห์รา กับ ท้าวปาจิต นางอรพิม เป็นวรรณกรรมท้องถิ่นของกลุ่มคนลุ่มน้ำโขง ที่ถูกนักบวชดัดแปลงเป็นชาดกนอกนิบาต (เรียก ปัญญาสชาดก มี 50 เรื่อง) ที่ไม่มาจากอินเดีย แต่แต่งขึ้นเองในล้านนา เพื่อเพิ่มความ “เฮี้ยน” ให้คำบอกเล่าดั้งเดิมซึ่งไม่อินเดีย]
มาจากไหน?
ท้าวปาจิต นางอรพิม ในเมืองพิมาย ใครเอามาจากไหน? เมื่อไร? ฯลฯ ยังไม่พบหลักฐานตรงๆ แต่น่าเชื่อว่าเข้าถึงเมืองพิมายได้อย่างน้อย 2 ทาง
- ลาวลุ่มน้ำโขง โยกย้ายไปอยู่เมืองพิมาย แล้วบอกเล่าสืบต่อกันมา
- ไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา โยกย้ายไปอยู่เมืองนครราชสีมา ราวหลัง พ.ศ. 2000 แล้วบอกเล่าสืบต่อมา
น่าเชื่อว่าไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา นำวรรณกรรมเรื่องท้าวปาจิต นางอรพิม จากราชสำนักอยุธยาเข้าไปสวมใส่สิ่งก่อสร้างในเมืองพิมาย เมื่อคราวที่พระเจ้าแผ่นดินอยุธยาสร้างเมืองนครราชสีมาเป็นศูนย์อำนาจของอยุธยาที่ลุ่มน้ำมูล แทนเมืองพิมาย (ซึ่งเป็นศูนย์อำนาจของเขมรเมืองพระนครหลวง)
สอดคล้องกับเมรุพรหมทัตเป็นเจดีย์ก่อด้วยอิฐ (ตั้งบนเนินดิน) สร้างขึ้นยุคอยุธยาไว้ในเมืองพิมาย แล้วคนสมัยหลังผูกเรื่องว่าเป็นสถานที่เผาศพท้าวพรหมทัตในเรื่องท้าวปาจิต นางอรพิม
ประวัติศาสตร์มีชีวิต
เมืองพิมาย ตามตำราแบบอาณานิคม เป็นประวัติศาสตร์ตายซากหยุดนิ่งแค่พระเจ้าชัยวรรมันที่ 7 หลัง พ.ศ.1750
แต่ประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวบ้าน ยังมีความทรงจำสืบมาในรูปของวรรณกรรมบอกเล่าเรื่องท้าวปาจิต นางอรพิม แสดงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนนานาชาติพันธุ์และชาติภาษา เช่น เขมร, ลาว, ไทย จนทุกวันนี้