| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
รัฐประหาร 19 ก.ย.2549 มีการคืนอำนาจอย่างรวดเร็วมาก
แค่ปีกับเศษ 2 เดือนกว่า ก็มีการเลือกตั้งใหญ่ในเดือน ธ.ค.2550 พรรคพลังประชาชนชนะได้ตั้งรัฐบาล ทำให้ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ คนที่ 25
ส่วนนายกฯ หลังรัฐประหาร พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ดำรงตำแหน่งอยู่ 1 ปี กับ 120 วัน ก็ส่งไม้ต่อให้นายสมัคร
ชัยชนะท่วมท้นของพรรคพลังประชาชน คือปฐมบทของคำว่า “เสียของ”
เนื่องจากพรรคนี้ เดิมคือ พรรคไทยรักไทย ที่ก่อตั้งโดย นายทักษิณ ชินวัตร และถูกยุบหลังรัฐประหาร 2549
คำว่า “เสียของ” กลายเป็นโจทย์ที่พยายามแก้ไขกันอย่างหน้าดำหน้าแดง
นายสมัครหลุดจากตำแหน่งนายกฯ ภายหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเดือน ก.ย.2551 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รับตำแหน่งแทน
เป็นนายกฯไม่กี่เดือน ก็พ้นไปอีกคน เมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบ
เกิดการพลิกขั้ว ส.ส.พรรคพลังประชาชน ส่วนหนึ่งไม่เข้าไปอยู่พรรคเพื่อไทยที่ตั้งขึ้นใหม่ แต่ไปอยู่อีกพรรค เพื่อสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล
พรรคเพื่อไทย ส.ส.ลดวูบเหลือ 189 คน กลายเป็นฝ่ายค้านไป
ดูเหมือนการแก้โจทย์ “เสียของ” จะประสบความสำเร็จ แต่กลับไม่ยั่งยืน เพราะสิ่งที่ตามมาคือ วิกฤตการเมืองในปี 2552-2553
พรรคเพื่อไทยจะกลับมาชนะเลือกตั้งในปี 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ
ฝ่ายต่อต้านพยายามก่อม็อบมาต้านแต่จุดไม่ติด กระทั่งรัฐบาลผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ปลายปี 2556
ม็อบ กปปส.ฮือขึ้นชัตดาวน์กรุงเทพฯ ตามมาด้วยรัฐประหาร 22 พ.ค.2557
รัฐบาลหลังรัฐประหารไม่ได้วางตัวเป็นรัฐบาลชั่วคราว แต่เดินหน้ายาว บริหารงานโดยกำหนดนโยบายวางเป้าหมายเหมือนรัฐบาลปกติ
มองย้อนกลับไปในอดีตนับจาก 2549 เข้าใจได้ว่า เพื่อแก้โจทย์ใหญ่เรื่อง “เสียของ” นั่นเอง
องค์กรในแม่น้ำ 5 สาย ก็ดำเนินการต่างๆ เพื่อแก้โจทย์เดียวกัน
ยกร่างรัฐธรรรนูญใหม่ ร่าง กม.ลูก ล่าสุดเพิ่งปรับเปลี่ยนวิธีการเลือกตั้ง
ให้แยกเบอร์ผู้สมัคร ส.ส.เขต กับบัญชีรายชื่อจากกัน อ่านง่ายๆ ว่า เพื่อลดโอกาสของพรรคการเมืองใหญ่
นับๆ ดู เราหมกมุ่นกับปัญหาเสียของมากว่า 1 ทศวรรษแล้ว
ทุ่มทุนสร้างไม่อั้น เพื่อแก้ปัญหาเสียของ สรุปยอดได้ว่า มี ปว. 2 ครั้ง รธน.ถูกเลิกไป 2 ฉบับ เลือกตั้งใหญ่ 2 ครั้ง ล้มเลือกตั้งไป 1 ครั้ง
และกำลังจะเลือกตั้งกันอีก 1 ครั้งในปีหน้า ด้วยกฎเกณฑ์และกติกาที่ผ่านการออกแบบมาอย่างรอบคอบ
โดยยืนยันเจตนาดีจะให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี
แต่ผลจะออกมา “ดี” สอดคล้องกับเจตนาหรือไม่ ยังต้องรอพิสูจน์
……………..
วรศักดิ์ ประยูรศุข
