เวลคัม ทู อเมริกา โดย จำลอง ดอกปิก

สหรัฐอเมริกาตอบรับ การเยือนประเทศอย่างเป็นทางการ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ เอ่ยปากเชื้อเชิญเอาไว้ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่มีมาต่อเนื่องยาวนาน 161 ปี จืดจาง ชืดชานับแต่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา

การที่มิตรประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐ ประเทศผู้นำโลกเสรีประชาธิปไตย อ้าแขนต้อนรับบิ๊กตู่ เป็นข่าวดีอย่างแน่นอน เป็นเรื่องดีอย่างไม่ต้องสงสัย

ยิ่งการเยือนในห้วงประเทศไทย อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งการใช้อำนาจคุมเข้ม พลเมืองถูกจำกัดสิทธิ เสรีภาพขั้นพื้นฐาน ไม่อาจใช้ได้อย่างสมบูรณ์เต็มร้อย บ้านเมืองมีระบอบการปกครองแปลกต่างจากนานาอารยประเทศ รัฐบาลทหารที่ก่อการโค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้ง สถาปนาตนปกครองประเทศ ผู้นำรัฐบาลยังมีสถานะหัวหน้า คสช. ผู้นำก่อการรัฐประหาร

การเยือนครั้งนี้ ก็ยิ่งมีความหมาย มีความพิเศษสำคัญ

Advertisement

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากพรรคเพื่อไทย ‘นพดล ปัทมะ’ ระบุว่า ในเชิงหลักการ ถือว่าเป็นพัฒนาการทางความสัมพันธ์ การเยือนที่เข้าใจว่าเป็นลักษณะการเยือนสองฝ่าย ถือว่าท่าทีของสหรัฐเปลี่ยนแปลงไปจากธรรมเนียมปฏิบัติเดิม และหากพูดถึงการเยือนของผู้นำ ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น

นักวิชาการบางท่านมองว่า นโยบายต่างประเทศสหรัฐ ในยุคเดโมแครต ต่างกับรีพับลิกัน

เดโมแครตปฏิเสธรัฐบาลทหาร มุ่งเน้นใช้นโยบายเรื่องประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศ ขณะที่รีพับลิกัน สังกัดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตยในลำดับรอง เรื่องใหญ่สุดคือ ความร่วมมือทางด้านยุทธศาสตร์ การทหาร และผลประโยชน์แห่งชาติทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก

ผู้คนทั่วไป จะนึกถึงแคมเปญ ที่ทรัมป์ชู ช่วงรณรงค์หาเสียงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี คือประกาศทวงคืนความยิ่งใหญ่ ความเป็นประเทศมหาอำนาจหมายเลข 1 ของโลก และอเมริกา เฟิร์สต์ หรืออเมริกาต้องมาก่อน

นโยบายที่ มุ่งเน้นสร้างความมั่งคั่ง เติบโตทางเศรษฐกิจแก่สหรัฐเป็นหลัก

พูดง่ายๆ ก็คือต่อไปอเมริกา ไม่เลือกมาก อะไรก็ได้ ขอให้อเมริกาได้ประโยชน์สูงสุดเป็นพอ 

ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินนโยบาย ที่ต้องรักษาความสัมพันธ์ทุกมิติ รวมถึงความสัมพันธ์กับเอเชีย ในฐานะพื้นที่ยุทธศาสตร์ความมั่นคง ปมคาบสมุทรเกาหลี ทางการทหารเรื่องใดก็ตาม ที่จะเป็นปัจจัยต่อยอดไปสู่เป้าหมายการหนุนส่งผลประโยชน์ ไม่มีภัยคุกคามบ่อนเซาะแผนการสร้างความมั่งคั่งสหรัฐกวาดหมด

แต่การเชื้อเชิญ อ้าแขนรับผู้นำไทยไปเยือน ใช่จะเป็นประโยชน์แต่อเมริกา ต่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ฝ่ายเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ประโยชน์ด้วย

แม้จะเป็นดาวคนละดวงก็ตาม

เป็นประโยชน์ในทางการเมืองทั้งต่อตัว ‘บิ๊กตู่’-คณะรัฐประหาร ผู้แปรสภาพมาเป็น รัฐบาล เมื่อภาพออกมาคล้าย ได้รับการยอมรับมากขึ้น อีกทั้งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศ ในอันที่จะสื่อสาร ชี้แจง ทำความเข้าใจถึงเรื่องต่างๆ ที่สหรัฐคาใจ ทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน เทียร์ 3 หรือแม้แต่โรดแมปการคืนอำนาจ ฯลฯ เพื่อส่งสัญญาณให้ประชาคมโลกมั่นใจ 

แต่การเจรจาต่อรอง แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ สำหรับฝ่ายไทยไม่ใช่เรื่องง่าย

อำนาจต่อรองอเมริกามีสูงกว่า

กอปรกับ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นนักธุรกิจใหญ่ แน่นอนย่อมมี ความเจนจัดในการต่อรอง รักษาผลประโยชน์เป็นพื้นฐาน

ถึงอเมริกาจะเปิดใจกว้าง เปิดทำเนียบขาวต้อนรับผู้นำรัฐบาลทหาร

แต่คำว่า อเมริกา เฟิร์สต์ ก็ช่วยเตือนสติ ไม่ให้เคลิบเคลิ้ม หลงระเริง การได้รับเชิญเยือนสหรัฐอเมริกา

เพราะต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์เป็นเดิมพัน ฉะนั้นการเจรจาต่อรองใดๆ ถ้าไม่ได้เปรียบก็ต้องไม่เสียเปรียบ

เหนืออื่นใด ประโยชน์ที่จะได้จากการเยือนสหรัฐ ต้องมิใช่ ‘ประยุทธ์ เฟิร์สต์’ นำมาใช้เป็นวีซ่าทางผ่านเพื่ออยู่ยาว

หากแต่ต้องเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะต่อประชาชนไทยแลนด์ เฟิร์สต์เท่านั้น

………….

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image