| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
สถานการณ์อันเกี่ยวกับ “กรณี 25 สิงหาคม” กำลังเป็นสถานการณ์ซึ่งสะท้อนความแปลกอย่างประหลาดยิ่งในทางการเมือง
และอาจกลายเป็น “กรณีศึกษา” ได้ใน “อนาคต”
ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วนพูดตรงกันว่า ไม่ได้ห้ามในเรื่องการให้ “กำลังใจ”
แต่การปฏิบัติของ 1 ทหาร 1 ตำรวจ 1 มหาดไทย กลับเป็นอีกอย่าง
เห็นได้จากการส่งเจ้าหน้าที่จาก กกล.รส.ไปพบชาวนาที่พระนครศรีอยุธยาและเชียงใหม่ เห็นได้จากการออก “7 มาตรการ” เป็นแนวทางในการปฏิบัติของ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท.
เห็นได้จากการมอบข้อหาความผิดจากมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไปสู่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ให้ นายวัฒนา เมืองสุข
นั่นก็คือ ไม่ได้ห้าม แต่ไม่อยากให้ไป
ขณะเดียวกัน เมื่อมองไปยังบทบาทของพรรคเพื่อไทยประสานเข้ากับบทบาทของ นปช.คนเสื้อแดง ต่างล้วนออกมาปฏิเสธ
ขอให้ฟังจาก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
“พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำกิจกรรมการเมืองอะไร การพบปะกันก็เป็นงานมงคลตามปกติเท่านั้น เราไม่มีจุดยืนของพรรคและไม่มีการเตรียมการใดๆ ในเรื่องนี้”
ขอให้ฟังจาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
“ยืนยันว่าจะไม่มีการเมืองทั้งบนดินและใต้ดิน ไม่มีการปลุกระดมใครเข้ามา ทุกอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา”
แต่ลักษณะ “ร่วม” อันเด่นชัดก็สัมผัสได้
นั่นก็คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่างประกาศว่า จะไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 25 สิงหาคม
หากเป็นการเมือง ก็เป็นการเมืองในลักษณะเป็นไปเอง
ถามว่ากรณีการตรวจสอบและลงความเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวไม่ว่าจะมาจาก ป.ป.ช.ไม่ว่าจะต่อยอดโดย สนช.ไม่ว่าจะผ่านสำนักอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องร้อง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย มีความเห็นอย่างไร
คำตอบเด่นชัดตั้งแต่ก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 นั่นก็คือ ปฏิเสธมาโดยตลอดว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
เพราะดำเนินการอย่างถูกต้องในฐานะ “รัฐบาล” และในฐานะ “นายกรัฐมนตรี”
เป็นการดำเนินการอย่างถูกต้องเหมือนที่รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยปฏิบัติ เหมือนที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยปฏิบัติ
ที่สำคัญ นี่คือ “นโยบาย” ของพรรค
เมื่อพรรคนำเสนอต่อประชาชนและประชาชนให้ความไว้วางใจ เมื่อได้เป็นรัฐบาลก็ต้องปฏิบัติ และปฏิบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญทุกประการ
ผ่าน ครม.ผ่านรัฐสภา
หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีความผิด หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความผิด จะจัดการกับรัฐบาลอื่น นายกรัฐมนตรีคนอื่นอย่างไร
สภาพนับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา เหมือนกับพรรคเพื่อไทยไม่ต่อสู้ เหมือนกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ต่อสู้
แม้กระทั่งที่จะต้อง “คำพิพากษา” ในวันที่ 25 สิงหาคม
กระนั้น การเคลื่อนไหวของ 1 กกล.รส. 1 มาตรการ 7 การจากกระทรวงมหาดไทย และ 1 แผนกรกฎ 52 เท่ากับยืนยันว่ากำลังสกัด ขัดขวางอะไร
หรือว่าการนิ่งของพรรคเพื่อไทย คือ การต่อสู้
