พัฒนา-คิดต่าง โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข

ผ่านไปแล้ว การสัมมนา รวมใจนำไทยยั่งยืน จัดโดยประชาชาติธุรกิจ เมื่อภาคเช้าวันพุธที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ท่ามกลางผู้ฟังที่นั่งฟังกันแบบไม่มีการลุกหนี

เนื้อหาการสัมมนา มาจาก “วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน”Ž อันเป็นแนวทางที่สหประชาชาติ กำลังนำพาชาติสมาชิก 190 กว่าประเทศ ผลักดันให้เป็นจริง

การพัฒนาที่ยั่งยืนมีหลายมิติด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นมิติที่เกี่ยวข้องกับสังคมเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

ผู้สนใจ อาจค้นอ่านย้อนหลังได้ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/csr-hr/news-24993 

Advertisement

และอีกเรื่องเป็นบทความเก่าจากปี 2559 ในมติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/news/256837 

แขกรับเชิญที่ขึ้นเวที ล้วนเป็นผู้รู้จากแวดวงธุรกิจ และกำลังมีบทบาทสนับสนุนการพัฒนาสังคมประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น บรรยง พงษ์พานิช จากเกียรตินาคิน ฐาปน สิริวัฒนภักดี ผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่จากไทยเบฟ ศุภชัย เจียรวนนท์ จากซีพีและทรู บวรนันท์ ทองกัลยา จากมิตรผล

หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระ เป็นประธานเปิดงานสัมมนาและกล่าวเปิดอย่างน่าสนใจว่า ความเหลื่อมล้ำกำลังเป็นปัญหาใหญ่ การแก้ไขไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐฝ่ายเดียว ภาคธุรกิจก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม

Advertisement

การทำซีเอสอาร์จึงต้องคิดแล้วลงมือทำกันจริงๆ และทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน 

ให้กลายเป็นเครือข่ายเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมในทางที่ดี

อีกคนที่มาขึ้นเวทีในวันเดียวกันนี้ คือ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ไปรับงานใหญ่ เป็นอดีตเลขาธิการที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่ องค์การการค้าโลก (WTO)

ดร.ศุภชัย หรือที่รู้จักในชื่อ ดร.ซุป มาปาฐกถาพิเศษในหัวข้อที่ชื่อ “CSR ประชาคมโลก-ประชารัฐไทยŽ”

มุมมองต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย ของดร.ซุปน่าสนใจมาก

โดยเฉพาะตัวอย่างการพัฒนา วิธีคิดเกี่ยวกับการพัฒนา รวมการถึงเทคโนโลยี

ที่พัฒนาและล้วงลึกล่วงล้ำเข้าไปมีบทบาทกำหนดชีวิตของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนหนึ่งของการปาฐกถา ดร.ศุภชัยได้กล่าวถึงการให้อภัย การคิดต่าง การยอมรับในความเห็นต่างของคนอื่น

และยกคำพูดของ ลีโอ ตอลสตอย นักเขียนชื่อดังชาวรัสเซีย ที่มีผลงานวรรณกรรมระดับโลก อาทิ สงครามและสันติภาพ แอนนา คาเรนินา ขึ้นมาอ้างถึง

ขอนำมาถ่ายทอดต่อแบบเอาสาระคร่าวๆ ว่า คนเราไม่ได้อยู่ร่วมกันได้เพราะเห็นพ้องต้องกันเท่านั้น

แต่จะอยู่ร่วมกันได้จริงๆ ด้วยการยอมรับในความแตกต่าง การคิดต่างเห็นต่าง

เชื่อว่านอกเหนือจากสาระอันมีค่า มากมายหลายแง่มุมในการปาฐกถาจากหลายคนหลายท่าน เรื่องของการเห็นต่าง และท่าทีต่อการคิดต่างนี้ จะทำให้หลายคนเอาไปคิดต่อ

เพราะเรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาในสังคมหลายแห่ง รวมถึงบ้านเมืองของเราเองด้วย

การพัฒนา ความร่วมมือ และการขับเคลื่อนอะไรก็ตามที่ต้องการความยั่งยืน หากขาดการยอมรับใน “ความเห็นต่างŽ”

ผลที่จะเกิดขึ้น อาจตรงข้ามกับที่คาดหมายและต้องการก็ได้

………………………

วรศักดิ์ ประยูรศุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image