ไม่ใช่นิยมตัวบุคคล โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

แฟ้มภาพ

ผลจากคำพิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่มีรอลงอาญา เท่ากับว่า การเดินทางไกลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คงจะต้องไปอีกยาวนาน ยากจะกลับมาได้ง่ายๆ เพราะไม่แค่คดีนี้คดีเดียว แต่ยังมีคดีความต่างๆ ที่รอคิวอยู่อย่างยาวเหยียด

แต่ก็นั่นแหละ เพราะอยู่ในยุครัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร เลยมีช่องโหว่ให้โดนวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย

โดยเฉพาะสื่อมวลชนต่างประเทศ พากันวิเคราะห์วิจารณ์ถึงชะตากรรมของยิ่งลักษณ์ โดยเน้นไปที่ปมขัดแย้งแตกแยกทางการเมืองอย่างลงลึก

ดังนั้นในสายตาคนทั่วโลก ที่มองความเป็นไปในประเทศไทย ผ่านการหลบหนีของยิ่งลักษณ์ ซึ่งซ้ำรอยพี่ชายที่ต้องหลบหนีมาก่อนหน้านี้ ด้วยมุมมองเช่นไร คงไม่ต้องอธิบายให้มากความ

Advertisement

ทั้งยังน่าจะมีผลต่อความร่วมมือในการจับตัวและดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งนับสิบปีมานี้ ไม่มีใครร่วมมือกับไทยในการจับตัวทักษิณแต่อย่างใด

ในด้านผลต่อการเมืองภายในประเทศไทยเอง เมื่อไม่มียิ่งลักษณ์เป็นผู้นำพรรค จะถือเป็นการปิดฉากทางการเมืองของตระกูลชินวัตรแล้วหรือไม่

ถ้าย้อนไปดูเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ล้มทักษิณ จากนั้นต้องหลบหนีคดีในปี 2551 โดยไม่ได้กลับไทยอีกเลย

Advertisement

ผลสะท้อนผ่านการเลือกตั้ง ยังทำให้พรรคในเครือข่ายทักษิณชนะท่วมท้น

แล้วการรัฐประหารปี 2557 ล้มยิ่งลักษณ์ ตามมาด้วยการหนีคดีในปี 2560 แล้วถ้ามีการเลือกตั้งในปี 2561

ผลสะท้อนผ่านการเลือกตั้งจะเป็นเช่นไร น่าสนใจติดตามว่า จะเหมือนเดิมอีกหรือไม่

ผู้รอบรู้ทางการเมืองมองว่า การล้มทักษิณ และการหนีคดีของทักษิณ จนไม่สามารถอยู่ในแผ่นดินไทยได้ แต่คะแนนนิยมยังมากมายและอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ

ไม่ได้มาจากความนิยมในตัวบุคคลอย่างเดียว แต่ที่มากกว่านั้น เพราะตัวทักษิณและแนวนโยบายทางการเมืองของพรรคทักษิณ สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนวงกว้าง

เหนืออื่นใด เส้นทางทักษิณอยู่ร่วมกับระบบการเลือกตั้ง ซึ่งหมายถึงประชาชนมีอำนาจและมีส่วนร่วมในการเลือก ส.ส.และเลือกรัฐบาล

เมื่อมีการล้มทักษิณและดำเนินคดีทุจริตกับทักษิณ ล้วนเป็นกระบวนการที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วม เป็นกระบวนการที่มาพร้อมกับการริบอำนาจจากมือประชาชนไป

คำว่าความนิยมในตัวทักษิณ อาจไม่ได้หมายถึงความรักหลงใหลในตัวทักษิณ แต่หมายถึงทักษิณคือภาพของการเมืองที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่

แล้วการเมืองในยุคที่ไม่ปกติ ทำให้ประชาชนไม่มีอำนาจการเมือง ไม่มีส่วนร่วมในทางการเมือง อย่างนี้แล้วการเมืองในช่วงไม่เป็นประชาธิปไตย จะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ได้อย่างไร

เพราะน้ำหนักอยู่ที่ความมั่นคง อยู่ที่การเสริมความพร้อมให้กองทัพ ความพึงพอใจไปอยู่ที่ชนชั้นสูงและชนชั้นกลางในเมืองเป็นสำคัญ

ส่วนความนิยมในตัวยิ่งลักษณ์ก็ไม่แตกต่างกันกับพี่ชาย อาจไม่ใช่เรื่องรักในตัวคน แต่ตัวยิ่งลักษณ์คือสัญลักษณ์ของการเลือกตั้ง อันเป็นระบบที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้มีสิทธิมีอำนาจในมือ และยังมีนโยบายที่เป็นผลประโยชน์ของชาวนาเกษตรกร

นี่จึงอาจเป็นคำตอบว่า ทำไมทักษิณห่างหายไปจากแผ่นดินไทยยาวนาน แต่ในบ้านเรา ยังต้องมีคำเรียกร้องให้ก้าวข้ามทักษิณให้พ้นเสียที

กลุ่มอำนาจที่มุ่งล้มทักษิณ พรรคการเมืองที่เป็นคู่ต่อสู้ หรือขบวนการทางการเมืองใดๆ ที่อยู่คนละฟากฝ่าย

ต้องเรียนรู้ว่า ทักษิณหรือยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่คนดีเลิศที่ประชาชนหลงใหลคลั่งไคล้

แต่เป็นความผูกพันกับคนส่วนใหญ่ ในเรื่องอำนาจการเมืองที่อยู่ในมือประชาชนและการเมืองที่ตอบสนองผลประโยชน์คนวงกว้างอย่างเป็นรูปธรรม

…………….

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image